เครื่องวัดอุณหภูมิ ปรอทวัดไข้ดิจิตอล
การวัดอุณหภูมิ อาจเลือกวัดตามความสะดวก หรือแล้วแต่สถานการณ์ หากวัดอุณหภูมิเด็กเล็กและทารก มักจะใช้การวัดทางทวารหนักหรือทางรักแร้ด้วยปรอทวัดไข้ เพราะเป็นวัยที่อยู่นิ่งค่อนข้างยาก
วัดผลเร็ว 9 วินาที | จอ LCD ขนาดใหญ่เปลี่ยนสีตามอุณหภูมิ | หน่วยวัดละเอียด 0.01°C /°F
หน้าจอเปลี่ยนสี | รับประกันสินค้า 1 ปี
คำถามที่พบบ่อย
สามารถใช้ได้เฉพาะรุ่นที่เป็นแบบปรอท (แท่ง) ใช้เสียบบริเวณทวารของสัตว์เลี้ยง โดยไม่ต้องกลัวสัตว์จะบาดเจ็บ เนื่องจากช่วงบริเวณส่วนปลายมีความโค้งงอและหยืดหยุ่น ช่วยป้องกันการบาดเจ็บขณะวัดได้
สำหรับให้วัดที่บริเวณใต้ลิ้น และสำหรับรุ่นอินฟราเรด แนะนำให้ตรวจวัดที่บริเวณหน้าผาก
เมื่อเปิดเครื่องแล้วหน้าจอขึ้น Lo เนื่องจากอุณหภูมิในห้องต่ำกว่า 32 องศาเซลเซียส ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติ สามารถใช้งานได้ทันที
ทำความสะอาดได้ โดยใช้ผ้านุ่มหรือสำลีชุบแอลกอฮอล์เจือจาง เช็ดทำความสะอาดภายนอกตัวเครื่อง ห้ามทำความสะอาดโดยวิธีการต้มหรือจุ่มเครื่องวัดอุณหภูมิลงในน้ำร้อน
อุณหภูมิแบบไหนถึงเรียกว่าปกติ?
อุณหภูมิปกติของผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรงจะอยู่ระหว่าง 36.5 – 37.2 องศาเซลเซียส ในเด็กเล็กอาจมีอุณหภูมิปกติต่างกับผู้ใหญ่อยู่ 1 – 2 องศาเซลเซียส ในระหว่างวันอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในร่างกายได้เล็กน้อยจากหลายปัจจัย เช่น ช่วงเช้าจะวัดอุณหภูมิร่างกายได้ต่ำกว่าช่วงบ่าย ซึ่งการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายแต่ละตำแหน่ง จะมีเกณฑ์ค่าอุณหภูมิปกติที่แตกต่างกันไป
- การวัดอุณหภูมิทางปาก ค่าปกติจะอยู่ที่ 35.5 – 37.5 องศาเซลเซียส
- การวัดอุณหภูมิทางทวารหนัก ค่าปกติจะอยู่ที่ 36.6 – 38 องศาเซลเซียส
- การวัดอุณหภูมิทางรักแร้ ค่าปกติจะอยู่ที่ 34.7 – 37.3 องศาเซลเซียส
หากอุณหภูมิที่วัดออกมาสูงหรือต่ำกว่านี้ แสดงว่าร่างกายอาจมีความผิดปกติ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ควรพิจารณาหลาย ๆ ปัจจัยประกอบนะคะ ไม่ควรดูเฉพาะค่าอุณหภูมิที่วัดได้เท่านั้น เช่น อาการปวดหัว เป็นผื่นตามตัว ปวดท้อง หากมีอาการแปลก ๆ เหล่านี้ร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อหาสาเหตุและทางรักษาต่อไปในสถานการณ์ร้ายแรงอย่างการระบาดของไวรัสโควิด – 19 นี้ การดูแลป้องกันตนเองเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดนะคะ
หนึ่งในการดูแลป้องกันที่มองข้ามไม่ได้ คือ การเฝ้าระวังอุณหภูมิภายในร่างกาย และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ จำเป็นจะต้องวัดอย่างถูกวิธีนะคะ เพราะหากใช้ไม่ถูกต้อง นอกจากจะได้ผลลัพธ์ที่คลาดเคลื่อนแล้ว อาจเกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานได้นะคะ
ใช้งาน ปรอทวัดไข้ อย่างไรให้ถูกต้อง
การวัดอุณหภูมิร่างกาย หากเราใช้ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ได้ผลลัพธ์ที่คลาดเคลื่อน หรืออาจจะบาดเจ็บกับผู้ใช้ได้ ดังนั้น การวัดอุณหภูมิร่างกายด้วยปรอทวัดไข้ มีวิธีที่ถูกต้อง ดังนี้ค่ะ
- การวัดอุณหภูมิทางช่องปาก : เป็นวิธีการตรวจวัดอุณหภูมิที่นิยมใช้มากที่สุด เหมาะสำหรับผู้ใหญ่หรือเด็กที่สื่อสารได้รู้เรื่องแล้ว ซึ่งหากใช้ปรอทวัดไข้แบบแก้ว ควรหลีกเลี่ยงการใช้กับเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบ เพราะมีความเสี่ยงที่เด็กอาจจะกัดปรอทแตกได้หากวัดไข้เด็ก ควรตรวจดูภายในช่องปากว่าไม่มีสิ่งใดตกค้างอยู่ เช่น ลูกอม หมากฝรั่ง ขนม
หลีกเลี่ยงการวัดอุณหภูมิทันที หลังการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่ม เพราะอาจมีผลต่ออุณหภูมิที่วัดได้ จึงควรรอเวลาอย่างน้อย 20 – 30 นาทีนำปรอทวัดไข้สอดเข้าไปในปาก โดยให้บริเวณส่วนปลายที่วัดอยู่บริเวณใต้ลิ้น แล้วปิดปากให้สนิท รอจนสัญญาณเสียงดังขึ้น แล้วอ่านค่าที่ปรากฏบนหน้าจอ แต่หากเป็นปรอทวัดไข้แบบแก้ว ให้รอประมาณ 3 – 4 นาที จนแถบสารปรอทหยุดนิ่ง จึงอ่านค่าที่ได้
- การวัดอุณหภูมิทางรักแร้ : เป็นการวัดอุณหภูมิ โดยให้ปรอทวัดไข้ไว้ที่รักแร้ ซึ่งค่าอุณหภูมิปกติจะต่ำกว่าการวัดทางปาก การวัดอุณหภูมิวิธีนี้ เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวก เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดและเด็กเล็ก
หลีกเลี่ยงการวัดหลังการอาบน้ำ หรือสวมเสื้อผ้าที่รัดแน่น เพราะอาจส่งผลต่ออุณหภูมิที่วัดได้นำปรอทวัดไข้สอดเข้าไปใต้รักแร้ โดยให้ส่วนปลายเอยู่กึ่งกลางรักแร้ และไม่เลยออกไปด้านหลัง จากนั้นหนีบปรอทวัดไข้ไว้สักพัก รอจนสัญญาณเสียงดังขึ้น แล้วอ่านผลลัพธ์ที่ได้บนหน้าจอ แต่ถ้าเป็นปรอทวัดไข้แบบแก้ว ให้รออย่างน้อย 4 นาที จนแถบสารปรอทหยุดนิ่ง แล้วจึงอ่านค่า
- การวัดอุณหภูมิทางทวารหนัก เป็นการวัดอุณหภูมิ โดยการสอดปรอทวัดไข้เข้าไปทางทวารหนัก ซึ่งค่าอุณหภูมิปกติจะสูงกว่าการวัดทางปาก เป็นวิธีที่นิยมใช้ในเด็กแรกเกิดและเด็กเล็ก
แต่หากใช้วิธีนี้ ควรทำอย่างระมัดระวังหรือมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล เพราะอาจเกิดการบาดเจ็บได้นำปรอทวัดไข้ที่ผ่านการฆ่าเชื้อโรคแล้ว ทาสารหล่อลื่น เพื่อช่วยลดการเสียดสีที่อาจทำให้เจ็บหากวัดเด็ก ให้จับเด็กนอนคว่ำลงบนบริเวณหน้าตักหรือพื้นที่ราบเรียบ หรือให้เด็กนอนหงาย จับขาทั้ง 2 ข้างยกขึ้น จากนั้นปรอทวัดไข้เข้าไปทางทวารหนัก ลึกประมาณ 1.25 – 2.5 เซนติเมตร อย่างเบามือ ระวังไม่ให้สอดลึกจนเกินไป จากนั้นถือปรอทวัดไข้ค้างไว้สักครู่ รอจนสัญญาณเสียงดังขึ้น แล้วอ่านค่า หากเป็นปรอทวัดไข้แบบแก้ว ควรรออย่างน้อย 2 นาที จนกว่าแถบสารปรอทจะหยุดนิ่ง จึงอ่านค่าอุณหภูมิที่ได้