อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า โรคโควิด-19 มีจุดมุ่งหมายในการทำลายปอดโดยตรง จึงทำให้ผู้ที่ติดเชื้อ มักป่วยเป็นโรคปอดอักเสบ ซึ่งมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าผู้ป่วยด้วยกันเอง ที่ไม่ได้มีอาการปอดอักเสบ ดังนั้น การมีปอดที่แข็งแรงในสถานการณ์แบบนี้ เป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยล่ะค่ะ บทความนี้จึงมี วิธีดูแลรักษาปอด ด้วยเครื่องบริหารปอด หรือที่หลาย ๆ คนมักเรียกว่า เครื่องเป่าบริหารปอด แต่แท้จริงแล้วเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ไม่ได้ใช่เป่า?!? แต่จะใช้อย่างไรนั้น มาอ่านบทความนี้เลยค่ะ
![]()
สารบัญ
- วิธีดูแลรักษาปอด ด้วยอุปกรณ์บริหารปอด มีผลดีอย่างไร?
- อุปกรณ์บริหารปอด ไม่ได้ใช้เป่าเหมือนที่หลายคนเข้าใจ!
- วิธีดูแลรักษาปอดด้วยท่าฝึกหายใจ เสริมสร้างความแข็งแรงให้ปอด
วิธีดูแลรักษาปอด ด้วยอุปกรณ์บริหารปอด มีผลดีอย่างไร?
แน่นอนว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แบบนี้ การดูแลรักษาปอดให้สมบูรณ์แข็งแรง เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ ควบคู่ไปกับการป้องกันตนเอง โดย ศ.พญ.อารีรัตน์ สุพุทธิธาดา ฝ่ายเวชศาสตร์ฟื้นฟู รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้แนะนำ วีธีดูแลรักษาปอด ด้วยการฝึกการขยายตัวของปอด และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อทรวงอก โดยการใช้อุปกรณ์บริหารปอดค่ะ
![]()
เครื่องบริหารปอด หรือ อุปกรณ์บริหารปอด ชนิดนี้มีชื่อว่า Incentive spirometer หรือที่นิยมเรียกกันว่า Triflow หรือ Triball เป็นอุปกรณ์กายภาพบำบัดชนิดหนึ่ง ที่มักใช้กันทั่วไปในโรงพยาบาลค่ะ โดยมีจุดประสงค์เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพปอด และลดอาการแทรกซ้อนของผู้ที่ต้องผ่าตัด (โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้องและทรวงอก) นอกจากนี้ยังถูกนำมาใช้ในการเพิ่มและฟื้นฟูสมรรถภาพปอดให้ผู้สูงอายุ ที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย หรือออกกำลังกายหนักไม่ได้ อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสการเป็นปอดอักเสบได้ด้วยค่ะด้วยข้อดีที่สามารถฟื้นฟูสมรรถภาพปอด และลดความเสี่ยงการเป็นโรคปอดอักเสบได้นั้น เครื่องบริหารปอดหรืออุปกรณ์บริหารปอด จึงถูกยกมาเป็นตัวช่วยในการรับมือกับโรคโควิด-19 ที่มีเป้าหมายในการทำลายปอดและระบบหายใจโดยตรง ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ในช่วงนี้ ที่ต้องหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน เพราะเจ้าอุปกรณ์บริหารปอดตัวนี้ สามารถดูแลปอดให้แข็งแรงได้ง่าย ๆ ที่บ้าน สามารถใช้งานได้ทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง ให้สามารถมีปอดที่แข็งแรงได้ แม้ไม่ได้ออกกำลังกายค่ะ
![]()
นอกจากนี้ ข้อมูลจากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์แนวหน้า ระบุไว้ว่า เมื่อวันที่ 27 เมษายน 64 ได้มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายหนึ่ง ออกมาแชร์ประสบการณ์ตอนที่ตนรักษาที่โรงพยาบาลลงบนโซเชียล โดยกล่าวว่า ตนได้ป่วยเป็นโรคโควิด-19 โดยมีปัญหาเชื้อไวรัสโคโรน่าลงปอด จนทำให้ปอดบางส่วนเสียหาย หลังจากที่ได้รับการรักษาจนเกือบหายดี แพทย์ได้นำอุปกรณ์บริหารปอด (Incentive spirometer) มาใช้ประกอบการรักษาตน เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพปอดที่ถูกทำลาย ให้กลับมาแข็งแรง และเพิ่มประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อในการหายใจอีกด้วย นั่นแสดงให้เห็นว่า อุปกรณ์บริหารปอดนี้ สามารถนำมาประกอบการรักษาโรคโควิด-19 และเสริมสร้างสมรรถภาพปอดได้จริงค่ะ
อุปกรณ์บริหารปอด ไม่ได้ใช้เป่าเหมือนที่หลายคนเข้าใจ!
หลายคนมักเรียกอุปกรณ์บริหารปอดนี้ว่า เครื่องเป่าบริหารปอด เพราะเข้าใจว่าอุปกรณ์นี้ ใช้งานด้วยวิธีการเป่า ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดนะคะ แน่นอนว่าต่อให้เป่าแรงแค่ไหน ลูกบอลด้านในก็ไม่ลอยขึ้นค่ะ แถมยังเป็นการใช้งานที่ผิดวัตถุประสงค์ด้วย เพราะวิธีการใช้งานที่ถูกต้องของอุปกรณ์บริหารปอดนี้คือการดูดค่ะ
![]()
สาเหตุที่ต้องดูดนั้น ก็เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้ใช้งานหายใจเข้าลึก ๆ ให้อากาศสามารถเข้าปอดได้เต็มที่ เพื่อให้ปอดขยายตัว และทำงานได้อย่างปกติ อีกทั้งยังเป็นการช่วยกระตุ้นการขับเสมหะต่าง ๆ ออกมา ลดการคั่งค้างของเสมหะในปอด ซึ่งเป็นสาเหตุของการติดเชื้อได้ ซึ่ง ศ.พญ.อารีรัตน์ สุพุทธิธาดา ฝ่ายเวชศาสตร์ฟื้นฟู รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้แนะนำวิธีการใช้งานดังนี้ค่ะวิธีการใช้งานอุปกรณ์บริหารปอด (Incentive spirometer) ที่ถูกต้อง
- นั่งตัวตรง หรือปรับระดับพนักพิงหลังเตียงผู้ป่วยให้สูงขึ้น (ท่านั่ง)
- สูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ ช้า ๆ ประมาณ 3 – 5 ครั้ง
- อมบริเวณ Mouthpiece ปิดริมฝีปากให้สนิท ไม่ให้มีลมรั่วออกมา จากนั้นค่อย ๆ ดูดจนลูกบอลลอยขึ้น ทั้ง 3 ลูก โดยค้างไว้ประมาณ 5 วินาที
- ผ่อนลมหายใจออกยาว ๆ พัก 10 – 30 วินาที แล้วทำซ้ำประมาณ 10 รอบ
- เมื่อทำครบให้ไอแรง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีเสมหะค้างในปอด และปอดขยายตัวได้ดี
วิธีดูแลรักษาปอด ด้วยท่าฝึกหายใจ เสริมสร้างความแข็งแรงให้ปอด
นอกจาก วิธีการดูแลรักษาปอด ด้วยอุปกรณ์บริหารปอดแล้ว การฝึกบริหารวิธีการหายใจ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะค่ะ โดยจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ปอด และช่วยฝึกกล้ามเนื้อที่ใช้ในการหายใจ สามารถทำควบคู่ไปกับการใช้อุปกรณ์บริหารปอดได้ โดย อ.พญ.ฑิมภ์พร วิทูรพงศ์ ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้แนะนำวิธีการหายใจฟื้นฟูปอด 4 วิธีด้วยกันค่ะ
![]()
1.ฝึกหายใจแบบใช้กล้ามเนื้อกระบังลม ช่วยให้ปอดขยายตัวได้ดีเริ่มจากการนั่งตัวตรง นำมือข้างหนึ่งวางไว้ที่บริเวณท้อง อีกข้างไว้ที่บริเวณหน้าอก ค่อย ๆ หายใจเข้า หน้าท้องจะขยายจนดันมือออก ส่วนมือที่วางบริเวณหน้าอกจะอยู่ค่อนข้างนิ่ง เมื่อผ่อนลมหายใจออก ท้องจะยุบกลับลงไป (หายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องยุบ)2.ฝึกหายใจแบบเน้นการขยายตัวที่ปอดส่วนล่างนั่งหลงตรงให้สบาย ๆ วางมือบริเวณชายโครงทั้งสองข้าง หายใจเข้าให้ชายโครงดันมือทั้งสองข้าง เมื่อหายใจออก ชายโครงจะยุบกลับลงไป (หายใจเข้าชายโครงขยาย หายใจออกชายโครงยุบ)3.ฝึกหายใจแบบเป่าปากนั่งตัวตรง นำมือข้างหนึ่งวางไว้ที่บริเวณท้อง อีกข้างไว้ที่บริเวณหน้าอก หายใจเข้าทางจมูก ให้หน้าท้องขยายจนดันมือออกมา (เหมือนวิธีที่ 1) เมื่อหายใจออกให้ทำปากเป็นรูปตัวโอ (O) เป่าลมออกทางปากช้า ๆ ท้องจะค่อย ๆ ยุบลง4.ฝึกหายใจร่วมกับการเคลื่อนไหวทรวงอก
- เริ่มจากการนั่งบนเก้าอี้ให้สบาย ยกแขนทั้งสองข้างขึ้น เหนือศีรษะ พร้อมกับหายใจเข้าช้า ๆ เอาแขนลง พร้อมกับหายใจออกช้า ๆ
- นั่งหลังตรง หงายมือข้างลำตัว กางแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ หายใจเข้าช้าๆ เอาแขนลงพร้อมกับหายใจออกช้า ๆ
- ก้มตัวพร้อมกับไขว้มือไว้ด้านหน้า หายใจเข้าช้า ๆ ค่อย ๆ นั่งหลังตรง พร้อมกางแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะเป็นรูปตัววี (V) เอาแขนลง หายใจออกช้า ๆ พร้อมกับโน้มตัวลง แล้วไขว้มือกลับสู้ท่าเริ่มต้น
*ทำซ้ำวิธีข้างต้นอย่างละ 3-5 ครั้ง*
สรุป
ในช่วงที่ไวรัสระบาดรุนแรงแบบนี้ การเตรียมปอดให้แข็งแรงไว้ เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เลยล่ะค่ะ เพราะยิ่งปอดของเราแข็งแรงเท่าไหร่ โอกาสที่จะติดไวรัสก็น้อยลง หรือหากติด ก็มีโอกาสที่เชื้อจะลงปอดหรือป่วยเป็นปอดอักเสบน้อย ส่วนผู้ที่เป็นอยู่แล้ว หากปฏิบัติตามวิธีข้างต้น ก็จะช่วยทำให้ปอดกลับมาแข็งแรง และลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำได้ ซึ่ง อุปกรณ์บริหารปอด เป็นตัวช่วยหนึ่ง ที่ทำให้การดูแลปอดเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย โดยไม่ต้องเสี่ยงไปออกกำลังกายนอกบ้านเลยค่ะ