ณ ปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าค่านิยมเรื่อง “ผิวขาว” เป็นเรื่องที่แพร่หลายอย่างมากในประเทศไทย ซึ่งนั่นส่งผลกระทบไปถึงการใช้ชีวิตในสังคม เช่น คนผิวขาวมักจะได้รับคำชื่นชม หรืออาจได้รับโอกาสทางสังคมที่ดีกว่าคนอื่น ทำให้หลายคนพยายามหาวิธีต่าง ๆ ที่ทำให้ผิวขาว จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่โฆษณาว่ามีสรรพคุณที่ทำให้ผิวขาว ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นมาตลอดหลายปี แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “ซีม่า” โลชั่นและครีม รักษาโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง ถูกยกมาเป็นที่พูดถึง ว่ามีสรรพคุณในการลอกผิวขาวได้! แต่นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ? บทความนี้มีคำตอบค่ะ
สารบัญ
- ซีม่า คืออะไร?
- ใช้ซีม่า ลอกผิวขาวได้จริงไหม? อันตรายหรือเปล่า?
- รวม 4 สูตร ผิวขาวสุขภาพดีด้วยวิธีธรรมชาติ!
ซีม่า คืออะไร?
“ซีม่า” เป็นผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ซีม่า (Zema) โดยในตอนแรกจะเป็นโลชั่น แต่ภายหลังได้มีการผลิตชนิดครีมออกมาด้วย ซึ่งซีม่า มีจุดประสงค์เพื่อใช้ในการรักษาโรคผิวหนังจากเชื้อรา กลาก-เกลื้อน โรคสังคัง โรคสะเก็ดเงิน และโรคน้ำกัดเท้า โดยแบบโลชั่นและแบบครีม มีตัวยาสำคัญที่แตกต่างกัน ดังนี้
ซีม่าโลชั่น
- กรดซาลิซิลิก (Salicylic acid) 11.8%
- เรซอซนอล (Resorcinol) 3.8%
- ฟีนอล (Phenol) 0.825%
ด้วยตัวยาเหล่านี้ ที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ จึงเหมาะกับการใช้บริเวณผิวหนังที่หนา ไม่มีแผลปิด เนื่องจากทำให้แสบและระคาย ควรใช้ทาบริเวณที่เป็นโรคผิวหนัง แค่วันละ 1 – 2 ครั้ง ถ้ามากกว่านี้อาจเป็นอันตรายต่อผิวได้
ซีม่าครีม
- คลอไตรมาโซล (Clotrimazole 1%
สำหรับแบบครีม จะมีความระคายเคืองน้อยกว่าแบบโลชั่น ทำให้ทาแล้วไม่เกิดอาการแสบหรือระคายเคือง จึงสามารถทาบริเวณที่เป็นโรคผิวหนังได้วันละ 2-3 ครั้ง
ใช้ ซีม่า ลอกผิวขาวได้จริงไหม? อันตรายหรือเปล่า?
อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่า ซีม่าเป็นยาที่มีจุดประสงค์ เพื่อรักษาโรคผิวหนัง แต่หลายปีที่ผ่านมามีการนำซีม่าชนิดโลชั่น มาทาเพื่อลอกผิวขาว หรือนำมาทาบริเวณหัวเข่า – ข้อศอก โดยเชื่อกันว่าจะทำให้ผิวหยาบกระด้างน้อยลง และมีสีผิวที่ขาวขึ้น แต่วิธีได้ผลจริงเหรอ?
เพจเฟซบุ๊กสาระสุขภาพยาน่ารู้ ได้อธิบายว่า เนื่องจากตัวยามีฤทธิ์ที่เป็นกรดอ่อน ๆ หากทาบริเวณที่ผิวหนัง จะทำให้เกิดการหลุดลอกของผิวหนังชั้นนอกสุด หรือชั้นหนังกำพร้าได้ ซึ่งโรคเชื้อรา มักจะเกาะกินที่บริเวณผิวหนังกำพร้า ตัวยาของซีม่าจึงไปลอกผิวที่มีเชื้อราออก แต่ถ้านำไปใช้กับผิวธรรมดา หรือผิวหนังแข็ง ๆ อย่างข้อศอกหรือหัวเข่า ก็สามารถลอกได้ แต่ต้องใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ ซึ่งอาจทำให้ผิวขาวได้จริง เนื่องจากผิวชั้นนอกสุดลอกออกไป แต่จะขาวแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจากนั้นผิวจะกลับมาดำใหม่ หากโดนแสงกระตุ้น
แต่หากนำมาใช้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสมหรือผิดวิธี ซีม่าโลชั่น จะกัดผิวลึกลงไปจนเกิดอักเสบ จนอาจเกิดการติดเชื้อที่บริเวณผิวหนังได้ ซ้ำร้ายอาจทำให้ผิวด่างดำมากกว่าเดิม หรืออาจเป็นรอยดำถาวรเลยก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น กรณีกระทู้ในเว็บไซต์ Pantip ที่ชื่อ “ซีม่าโลชั่น บทเรียนราคาแพง”
เจ้าของกระทู้ได้เล่าว่า เนื่องจากตนเป็นคนข้อศอกและหัวเข่าดำ แล้วไปพบกับรีวิวในช่องทางต่าง ๆ ว่าใช้ซีม่าโลชั่น สามารถทำให้ผิวขาวได้ ตนจึงอยากลองบ้าง แต่ผลปรากฏว่า ใช้แล้วเกิดอาการแสบร้อนที่ผิวหนังมาก จนผิวเกิดการไหม้ ตนจึงรีบไปพบแพทย์ แต่สุดท้าย ผิวก็เกิดการไหม้แดง ไม่สามารถรักษาให้หายขาดในระยะเวลาสั้น ๆ จนทำให้ต้องเสียทั้งค่ารักษา และค่ายาจำนวนหลายหมื่นบาท
จะเห็นได้ว่าการใช้งานผลิตภัณฑ์โดยผิดวัตถุประสงค์ อาจทำให้เกิดผลเสียและอันตรายกับบางคนได้ แม้อาจจะมีผู้ที่ใช้แล้วผิวขาวจริง แต่ผิวก็จะบอบบางลง และเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ซึ่งก็เป็นอันตรายเช่นกัน
รวม 4 สูตร ผิวขาวสุขภาพดีด้วยวิธีธรรมชาติ!
สำหรับใครที่อยากมีผิวขาว แต่ไม่อยากเสี่ยงอันตราย หรือเสียเงินซื้อผลิตภัณฑ์แพง ๆ บทความนี้มี 4 สูตรช่วยทำให้ผิวขาวกระจ่างใสและสุขภาพดี ด้วยวิธีธรรมชาติมาฝากกันค่ะ (อ้างอิงจาก จดหมายข่าวสุขภาพ โดยคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา)
- สูตรที่ 1 น้ำตาลผสมน้ำมันมะกอก : ผสมน้ำตาลและน้ำมันมะกอก ในปริมาณที่เท่ากัน แล้วนำมาขัดวนที่ผิวประมาณ 5 นาที แล้วล้างด้วยสบู่อ่อน ๆ ตามด้วยน้ำสะอาด
- สูตรที่ 2 มะนาวผสมน้ำผึ้ง : บีบน้ำมะนาว 1 ลูกผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ นำมาพอกผิวทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ช่วยทำให้ผิวดูกระจ่างใส
- สูตรที่ 3 ขมิ้นผสมน้ำผึ้งและนมสด : ผสมขมิ้น น้ำผึ้ง และนมสด ในปริมาณที่เท่ากัน แล้วคนจนเป็นเนื้อ ครีมข้น พอกที่บริเวณผิวหนังไว้ อย่างน้อย 20 นาที หลังจากนั้น ถูเบา ๆ 2 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสและชุ่มชื้น
- สูตรที่ 4 ว่านหางจระเข้ : นำว่านหางจระเข้ หั่นเอาเฉพาะส่วนที่เป็นวุ้น นำมาพอกบนเข่าและข้อศอกประมาณ 30 นาที ช่วยลดความหยาบกร้าน และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
สรุป
การใช้ผลิตภัณฑ์ ให้ตรงกับจุดประสงค์การใช้งาน เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ เพราะไม่เช่นนั้น อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ซึ่งซีม่าโลชั่น มีวัตถุประสงค์การใช้งาน เพื่อรักษาโรคทางผิวหนัง จึงไม่ควรนำมาลอกผิวขาว หากต้องการมีผิวขาว ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผิวขาวโดยเฉพาะ แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือด้วย แต่ถึงอย่างไร ไม่ว่าจะผิวคล้ำ ผิวดำ หรือผิวขาว ทุกสีผิวมีความสวยงามในตัวเองเหมือนกันค่ะ ซึ่งไม่ว่าจะมีผิวสีไหน ก็ไม่ควรถูกล้อเลียน หรือถูกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมนะคะ
ผมฝันว่าสักวันหนึ่ง มนุษย์จะไม่ตัดสินว่าใครเป็นอย่างไรเพียงเพราะเรื่องสีผิว แต่ควรตัดสินที่ความเป็นมนุษย์ของเขา – มาร์ติน ลูเธอร์ คิง (เจ้าของรางวัลโนเบลด้านเสรีภาพ)