ผู้ป่วย”กรดไหลย้อน ห้ามกินกล้วย” จริงเหรอ?! เช็กให้ชัวร์ ทำไมถึงห้ามกิน

กรดไหลย้อน ห้ามกินกล้วย

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น “ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้” หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย

         กรดไหลย้อน เป็นอีกหนึ่งโรคที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งเมื่อเป็นโรคนี้มักจะมีอาหารหลายชนิดที่ถูกห้ามไม่ให้รับประทาน เพราะจะส่งผลให้อาการรุนแรงมากขึ้น แต่เมื่อพูดถึงกล้วย หลายคนก็คงจะเกิดคำถามขึ้นมาว่า กรดไหลย้อน ห้ามกินกล้วย จริงหรือ? ทั้งที่เป็นผลไม้ที่มากไปด้วยประโยชน์ ทำไมถึงกลายเป็นอาหารต้องห้ามได้

กรดไหลย้อน ห้ามกินกล้วย

         ดังนั้นวันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้คุณได้รู้กัน ว่าแท้จริงแล้วคนที่เป็นกรดไหลย้อนกินกล้วยไม่ได้จริงหรือไม่ เป็นเพราะอะไร แล้วยังมีอาหารชนิดไหนอีกบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเป็นโรคนี้ อะไรบ้างที่คนที่เป็นกรดไหลย้อนสามารถกินได้ ไปดูกันเลยค่ะ

สารบัญ

กรดไหลย้อน ห้ามกินกล้วย จริงหรือ?

         กล้วย เป็นผลไม้ที่มากคุณค่าที่หารับประทานได้ง่ายและเปี่ยมด้วยคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยกล้วยอุดมไปด้วยสารอาหารหลากหลายชนิด ได้แก่ วิตามินบี 6 วิตามินซี โพแทสเซียม แมงกานีส และกากใยอาหาร นอกจากนั้นยังช่วยในการย่อยอาหาร ให้พลังงาน ดีต่อลำไส้ และเพิ่มการเผาผลาญของร่างกาย  ดูแล้วกล้วยไม่น่าจะมีผลเสียต่อคนที่เป็นกรดไหลย้อนได้เลย ที่ว่ากันว่า คนเป็นกรดไหลย้อน ห้ามกินกล้วย จริงเหรอ?

กรดไหลย้อน ห้ามกินกล้วย

         บอกเลยว่าจริงค่ะ เพราะเมื่อเรารับประทานกล้วยเข้าไป กระเพาะอาหารจะต้องผลิตน้ำย่อยออกมามากขึ้นเพื่อใช้ย่อยแป้งจากกล้วยให้เป็นน้ำตาล จึงยิ่งไปกระตุ้นให้อาการกรดไหลย้อนกำเริบมากกว่าเดิม โดยเฉพาะหากรับประทานในช่วงที่ท้องกำลังว่างด้วยแล้วจะยิ่งทำให้อาการรุนแรงไปอีก ดังนั้นใครที่เป็นโรคกรดไหลย้อน ห้ามกินกล้วย หรือควรหลีกเลี่ยงกล้วยสุกจะดีกว่า

บอกลา อาการกรดไหลย้อน แบบไม่ย้อนกลับมาเป็นอีก! ด้วย 10 วิธีง่าย ๆ ไม่ว่าใครก็ทำได้!

กรดไหลย้อน ห้ามกินกล้วย แล้วยังห้ามกินอะไรอีกบ้าง?

         นอกจากคนที่เป็นโรคกรดไหลย้อน ห้ามกินกล้วยแล้ว ก็ยังมีอาหารชนิดอื่น ๆ ที่คนเป็นโรคกรดไหลย้อนไม่ควรรับประทานด้วยเช่นกัน  จะมีอาหารชนิดไหน เป็นอะไรบ้างและเพราะอะไรถึงได้ห้ามรับประทาน วันนี้ทางเราได้รวบรวมข้อมูลมาให้คุณแล้ว ไปดูกันเลยค่ะ

กรดไหลย้อน ห้ามกินกล้วย

  • กรดไหลย้อน ห้ามกินขิง เพราะถ้ากินในปริมาณมากจะทำให้อาการแย่ลงกว่าเดิม เนื่องจากขิงมีฤทธิ์ร้อนจึงไปกระตุ้นนั่นเอง แต่สามารถดื่มน้ำขิงอุ่นๆ ได้ เพียงจิบเล็กน้อยก็จะช่วยให้สบายท้องขึ้น
  • กรดไหล ย้อน ห้ามกินกาแฟ เพราะจะทำให้ควบคุมอาหารของโรคได้ยาก มีอาการกรดไหลย้อนที่รุนแรงกว่าเดิม ดังนั้นควรเลี่ยงอย่างเด็ดขาด
  • กรดไหลย้อนห้ามกิน มะนาว เพราะมีรสเปรี้ยว และมีกรดซิตริก ซึ่งจะเร่งให้เกิดกรดในกระเพาะอาหารมากขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งอาหารต้องห้ามที่ไม่ควรกิน

กรดไหลย้อน ห้ามกินกล้วย

  • ช็อคโกแลต เพราะจะทำให้หูรูดบริเวณหลอดอาหารหย่อนลง กรดในกระเพาะอาหารจึงไหลย้อนกลับขึ้นมาได้ง่ายกว่าเดิม
  • อาหารรสจัด โดยเฉพาะอาหารที่มีส่วนประกอบของพริก เพราะเป็นตัวกระตุ้นให้กรดหลั่งออกมามากขึ้น และยังส่งผลให้เกิดการย่อยที่ช้าลงอีกด้วย
  • น้ำอัดลม เป็นตัวกระตุ้นอาการกรดไหลย้อนอย่างดี เพราะจะทำให้น้ำย่อยถูกผลิตออกมาเยอะกว่าเดิม และยังก่อให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารด้วยเช่นกัน

อาหารที่เหมาะสำหรับคนเป็นกรดไหลย้อน

         เมื่อเราได้รู้กันแล้วว่าคนที่เป็นโรคกรดไหลย้อน ห้ามกินกล้วย และมีอาหารชนิดใดบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงในการรับประทานแล้ว ทีนี้เรามาดูเพิ่มเติมกันอีกดีกว่าว่า ผู้ที่เป็นกรดไหลย้อน ควรกินอาหารชนิดใดบ้าง ที่จะช่วยให้อาการกรดไหลย้อนนั้นดีขึ้นได้ กินแล้วไม่แย่หรือกำเริบค่ะ

วิธีแก้กรดไหลย้อน

1.อาหารไฟเบอร์สูง

         อาหารที่มีไฟเบอร์สูง จำพวก ธัญพืช ข้าวไม่ขัดสี จะมีไฟเบอร์หรือกากใบสูงมาก ซึ่งจะช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร ลดอาการปวดแสบ แน่นท้อง และยังช่วยให้ขับถ่ายได้ง่ายอีกด้วย เป็นอาหารที่เหมาะกับคนเป็นกรดไหลย้อนที่สุด

2.ผลไม้บางชนิดที่ไม่มีกรดมาก

         ผลไม้ที่คนเป็นกรดไหลย้อนกินได้ จะต้องไม่มีกรดมาก เช่น อะโวคาโด แอปเปิ้ล แตงโม เป็นต้น กินแล้วจะให้ความรู้สึกสบายท้อง ช่วยลดกรดได้ดี ทำให้อาการกรดไหลย้อนหายเร็วขึ้น ดังนั้นลองหาผลไม้เหล่านี้มากินกันเลย

3.อาหารที่มีไขมันชนิดดี

         คนที่เป็นกรดไหลย้อนควรกินอาหารที่มีไขมันชนิดดี เพราะจะไม่ไปกระตุ้นอาหารของโรค และยังดีต่อสุขภาพในหลายๆ ด้านอีกด้วย โดยเราสามารถหาไขมันชนิดดีได้จากอาหารจำพวกเนื้อปลา น้ำมันมะกอก และน้ำมันดอกทานตะวันนั่นเอง

วิธีการดูแลตนเอง สำหรับผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน

         คนที่เป็นโรคกรดไหลย้อน จะต้องดูแลตนเองให้ดี แล้วจะต้องดูแลตนเองให้ถูกวิธีด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้อาการของกรดไหลย้อนรุนแรงยิ่งขึ้น และช่วยให้อาการบรรเทาลงจากเดิมนั่นเอง โดยเราได้นำวิธีการดูแลตนเองที่ถูกวิธีที่คุณต้องรู้ดัมาฝากกันค่ะ มีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

  • ห้ามนอนทันทีหลังจากพึ่งกินอาหารเสร็จ โดยเฉพาะเมื่อกินอาหารมื้อหนัก ซึ่งอาจจะนั่งพักในท่าเอนตัวเล็กน้อยก็ได้ แต่อย่านอนราบกับพื้นนั่นเอง

เตียงไฟฟ้า

เตียงปรับไฟฟ้า ALLWELL มีฟังก์ชันในการปรับหัวเตียงให้เหมาะสม ทำให้ช่องท้องไม่โค้งงอ กรดจึงไม่ไหลย้อนขึ้นมา อีกทั้งยังทำให้นอนหลับพักผ่อนได้อย่างสบาย

  • ไม่ควรกินอาหารมื้อเย็นมากเกินไป ให้กินแค่พออิ่มเท่านั้น และเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด รวมถึงอย่ากินอาหารจุกจิกก่อนนอนด้วย
  • ไม่ควรดื่มน้ำในระหว่างที่กินอาหาร จะยิ่งกระตุ้นอาการมากขึ้น ควรดื่มหลังจากกินอาหารเสร็จไปแล้วประมาณ 10 นาทีจะดีกว่า
  • หากมีอาการกรดไหลย้อนบ่อยเป็นประจำ ควรพบแพทย์ อย่าปล่อยไว้นานเพราะอาจเป็นอันตรายได้
  • ไม่สวมเสื้อผ้าที่รัดรูป หรือแน่นจนหายใจแทบไม่ออก จะยิ่งทำให้เกิดอาการจุกแน่นมากขึ้น
  • การออกกำลังกายเบาๆ ก็จะช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนได้ และหากออกกำลังกายเป็นประจำก็จะช่วยป้องกันได้เช่นกัน
สนใจ เตียงผู้ป่วย เตียงคนไข้ เตียงผู้สูงอายุปรับไฟฟ้า ALLWELL คลิกเลย!

สรุป

         ก็ได้ไขข้อข้องใจกันไปแล้วสำหรับคำถามที่ว่า กรดไหลย้อน ห้ามกินกล้วยจริงหรือ? อาจดูเหมือนไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมว่ากล้วยจะทำให้อาการแย่ลงได้จริง แต่ในเมื่อนั่นเป็นความจริง ใครที่เป็นโรคกรดไหลย้อนก็ควรหลีกเลี่ยงการกินกล้วยอย่างเด็ดขาด แม้ว่าโรคนี้จะดูเหมือนไม่ค่อยอันตราย แต่หากปล่อยไว้นาน หรือมีอาการบ่อยๆ ก็อาจส่งผลอันตรายได้มากกว่าที่คิด เพราะฉะนั้นไม่ควรดูแลตัวเองให้ดี ควรพบแพทย์เพื่อรักษาอย่างถูกวิธีต่อไป

Website ของเรามีการเก็บ cookies เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน ... อ่านเพิ่มเติม นโยบายคุกกี้

Close Popup