แมวหายใจแรง หมาหอบ เป็นเรื่องปกติจริงเหรอ? ภัยเงียบของเพื่อนสี่ขา ที่เจ้าของควรรู้!

แมวหายใจแรง

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้ หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย  

         น้องหมา น้องแมว เป็นสัตว์เลี้ยงยอดฮิตที่ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็จะเจอเจ้าตัวเล็กนี้อยู่เกือบทุกบ้าน เมื่อเราเลี้ยงเขา เราก็คงอยากให้เขาอยู่กับเราไปนาน ๆ ใช่ไหมล่ะคะ ทั้งคอยระวังเห็บ หมัด หรือเคยเช็กบาดแผลต่าง ๆ เวลาที่น้องไปเล่นซนกลับมา แต่สิ่งหนึ่งที่ทาสน้องหมาน้องแมว จะมองข้ามไม่ได้เลยก็คือเรื่อง “การหายใจ” ทั้งหมา – แมวหายใจแรง หอบ ไอ อาการเหล่านี้ อาจทำให้น้องเสียชีวิตได้เลยนะคะ เรามาดูกันว่า อาการของสัตว์เลี้ยงแบบไหน ที่เจ้าของควรระวังไว้

แมวหายใจแรง

สารบัญ

แมวหายใจแรง หมาหอบ แบบไหนที่เรียกว่าผิดปกติ?

         หลายคนที่เลี้ยงแมวหรือหมา คงจะเคยเห็นอาการหอบมาบ้าง ซึ่งอาการหอบเหล่านั้น คือ ภาวะที่สัตว์หายใจเร็วและสั้นกว่าปกติ อาจเห็นว่ามีการหายใจทางปากหรือแลบลิ้นออกมา ซึ่งนั่นเป็นปฏิกิริยาตอบสนอง เมื่อสัตว์รู้สึกร้อนเกินไป เครียด กระวนกระวาย หรือเหนื่อยจากการออกกำลังกายเยอะ ๆ อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไป หรือลดลงเมื่อสัตว์ได้พักเช่นเดียวกับคน

หมาหอบ

         อาการหอบของหมา เป็นอาการที่มีให้เห็นบ่อยจนเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากน้องหมา ไม่มีรูขุมขนไว้ระบายความร้อนออกมาเป็นเหงื่อเหมือนคน แต่อาการหอบในแมว คงเป็นเรื่องที่ไม่มีให้เห็นบ่อย ๆ อาจเป็นเพราะแมวไม่ใช่สัตว์ที่ชอบวิ่งหรือเล่นแรง ๆ เหมือนกับหมา ยกเว้นในบางคนที่ชอบเล่นกับน้องแมวจนทำให้น้องต้องวิ่งเยอะ ๆ จะเริ่มสังเกตได้ว่าน้องแมวจะมีอาการหอบ หายใจถี่และสั้นขึ้น

         แต่ไม่ว่าจะเป็นน้องหมาหรือน้องแมว หากไม่ได้รู้สึกเครียด กระวนกระวาย ตกใจ หรือทำกิจกรรมมาอย่างหนัก แต่กลับมีอาการหอบหรือหายใจแรงขึ้นมาเฉย ๆ แบบนี้ถือว่าเป็นอาการที่ผิดปกติ ให้สังเกตว่ามีอาการเหล่านี้ร่วมด้วยหรือไม่

แมวหายใจแรง

  • หายใจติดขัด มีอาการเหมือนสำลัก
  • ภายในช่องปากแดงหรือคล้ำผิดปกติ
  • ไอมีเสียงวี้ด อาจมีเสมหะปนด้วย
  • อ่อนเพลีย ซึม เบื่ออาหาร
  • หายใจแรง เร็ว เสียงดัง ต้องใช้แรงในการหายใจ

         หากน้องหมาน้องแมว มีอาการเหล่านี้ ให้รีบพาน้อง ๆ ไปพบสัตวแพทย์โดยด่วนนะคะ เพื่อให้สัตวแพทย์เช็กถึงสาเหตุของอาการหายใจที่ผิดปกติ เพราะอาจเป็นอาการของโรคร้ายที่เกิดขึ้นได้ค่ะ

แมวหายใจแรง หมาหอบ อาการเหล่านี้รักษาได้ไหม?

         หากพบว่าสัตว์เลี้ยงมีอาการผิดปกติ ต้องให้สัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้รักษา ซึ่งหากเกิดอาการหายใจผิดปกติหรือหอบแบบฉับพลัน ซึ่งถือว่าเป็นอาการร้ายแรงที่ปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ สัตวแพทย์จะรักษาด้วยการให้ยาขยายหลอดลม ผ่านเครื่องพ่นละอองยา ร่วมกับการให้ออกซิเจน จนอาการเหล่านั้นบรรเทาลง

         หลังจากรักษาอาการที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันแล้ว สัตวแพทย์จะเริ่มทำการตรวจวินิจฉัยถึงสาเหตุที่ทำให้สัตว์เลี้ยงหายใจผิดปกติ เช่น การเอ็กซเรย์ ตรวจเลือด แล้ววางแผนการรักษาต่อไป ซึ่งแต่ละอาการก็มีระยะเวลาในการรักษาที่แตกต่างกันไป สัตว์เลี้ยงบางตัวก็อาจจะรักษาจนหาย แต่ในสัตว์เลี้ยงบางตัวก็อาจจะต้องได้รับการรักษาตลอดชีวิต

         โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่ป่วยเป็นโรคหอบหืด ซึ่งมีโอกาสรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ได้ สัตวแพทย์จะแนะนำให้ใช้วิธีการพ่นยาขยายหลอดลมเป็นประจำ แม้จะไม่มีอาการกำเริบ โดยเจ้าของจะต้องพาสัตว์เลี้ยงไปพ่นยาที่โรงพยาบาลหรือคลินิคเป็นประจำ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายราว 300-600 บาทต่อครั้ง แต่ถ้าหากเลือกซื้อเครื่องพ่นละอองยามาใช้เองที่บ้าน จะมีราคาที่ถูกกว่า

อ่านบทความ : เครื่องพ่นละอองยา อุปกรณ์จำเป็นในการดำเนินชีวิตสำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืด

ตัวอย่างการใช้เครื่องพ่นละอองยากับสัตว์เลี้ยง

แมวหายใจแรง

หมาหอบ

แมวหอบ

ในกรณีที่สัตว์เลี้ยงไม่สามารถสวมใส่หน้ากากพ่นยาได้ เช่น ดิ้น วิ่งหนี ก็อาจจะใช้วิธีการพ่นยาผ่านตู้หรือกล่องแทนได้

แมวหายใจแรง หมาหอบ อาการที่ผิดปกติเหล่านี้ เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง?

         ภาวะการหายใจที่ผิดปกติของน้องหมาน้องแมว เกิดจากความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย จนส่งผลให้สัตว์เลี้ยงแสดงอาการหายใจผิดปกติหรือหอบออกมา โดยอาจมีอาการผิดปกติอื่นร่วมด้วย ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ที่พบได้บ่อย ๆ มีดังนี้

หมาหายใจแรง

1. ภาวะความร้อนสูง (Heat Stroke) คือ ภาวะที่ความร้อนภายในร่างกายของสัตว์เลี้ยงสูงเกินไป จนไม่สามารถระบายได้ทัน จากอากาศร้อนหรือจากการทำกิจกรรมที่เหนื่อยจนเกินไป ทำให้สัตว์เลี้ยงหายใจหอบออกมาอย่างผิดปกติ ซึ่งจะมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น กินน้ำปริมาณมาก ตัวร้อน ใบหูร้อน เดินโซเซ ซึ่งสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยง ก็มีผลทำให้เกิดภาวะนี้ได้ง่าย เช่น สัตว์เลี้ยงที่มีหน้าสั้น หรือมีขนาดตัวใหญ่ ส่งผลให้ระบายความร้อนได้ไม่ดีเท่าสายพันธุ์อื่น เช่น แมวเปอร์เซีย หมาพันธุ์ปั๊ก

2. โรคหอบหืด หรือหลอดลมอักเสบ เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจของสัตว์โดยตรง มีการตีบแคบของทางเดินหายใจเช่นเดียวกับคนที่เป็นหอบหืด ซึ่งอาจเกิดจากการที่สัตว์เลี้ยงแพ้หรือได้รับสารที่เป็นสิ่งกระตุ้นโรค เช่น กระบะทรายที่มีฝุ่น สเปรย์ฉีดผม สเปรย์ปรับอากาศ ควันบุหรี่ ส่งผลให้สัตว์เลี้ยงมีอาการหอบ หายใจติดขัด ซึ่งหากปล่อยไว้อาจทำให้เกิดพังพืด หรือปอดยุบตัวได้

3. โรคพยาธิหนอนหัวใจ มักจะเจอในหมามากกว่าแมว แต่แมวก็สามารถติดพยาธิหนอนหัวใจได้ ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะหายใจลำบาก

แมวหายใจดัง

4. ภาวะโลหิตจาง เกิดจากจำนวนเม็ดเลือดแดงของสัตว์เลี้ยงลดลง ทำให้การส่งออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายลดลง ส่งผลให้สัตว์เลี้ยงหอบ หายใจถี่ขึ้น อ่อนแรง ซึม กินอาหารน้อยลง อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น อาจถึงขึ้นเป็นลมหมดสติ และหากพบอุจจาระเป็นสีดำ อาจมีภาวะเสียเลือดภายในอวัยวะทางเดินอาหารร่วมด้วย

5.การได้รับบาดเจ็บ เมื่อสัตว์เลี้ยงรู้สึกว่าไม่สบาย หรือรู้สึกเจ็บปวด จะแสดงอาการหอบออกมา จนสังเกตได้

นอกจากโรคเหล่านี้ สาเหตุที่ทำให้เกิดการหายใจที่ผิดปกติในสัตว์เลี้ยงมีอีกหลายสาเหตุ เช่น หัวใจวาย ระบบประสาทผิดปกติ ดังนั้น ไม่ควรชะล่าใจนะคะ เมื่อพบหรือสงสัยว่าสัตว์เลี้ยงมีอาการผิดปกติ เพื่อให้แน่ใจ ควรไปพบสัตวแพทย์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดค่ะ

ดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างไรถึงจะดี?

         จะเห็นได้ว่า อาการหายใจผิดปกติไม่ใช่เรื่องที่เล็ก ๆ ที่ควรมองข้ามนะคะ ซึ่งเจ้าของสามารถป้องกันและดูแลสัตว์เลี้ยงได้ง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ

สุนัขหายใจแรง ลิ้นห้อย

  • ไม่เล่นจนสัตว์เลี้ยงเหนื่อยเกินไป และไม่ควรทำกิจกรรมกลางแดดจัด
  • หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งกระตุ้นอาการหอบหรือภูมิแพ้ เช่น ไม่ฉีดสเปรย์ปรับอากาศ ไม่สูบบุหรี่ภายในบ้าน หมั่นทำความสะอาดกระบะทราย
  • ให้อาหารที่เหมาะสม ไม่ควรให้อาหารคนกับสัตว์เลี้ยง
  • ควบคุมน้ำหนักของสัตว์เลี้ยง เพราะหากมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน จะทำให้สัตว์เลี้ยงหอบได้ง่าย
  • ปฏิบัติตามคำสั่งของสัตวแพทย์อย่างเคร่งครัด หากมีอาการผิดปกติ รีบปรึกษาสัตวแพทย์ทันที

สรุป

         ระบบการหายใจ ไม่ว่าคนหรือสัตว์เลี้ยง ต่างก็มีความสำคัญเช่นกัน ดังนั้น การใส่ใจเรื่องอาการหายใจที่ผิดปกติ จึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ หมั่นสังเกตอาการสัตว์เลี้ยงอยู่เสมอ หากพบความผิดปกติใด ควรรีบพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อที่จะได้หาทางรักษาหรือป้องกัน ให้สัตว์เลี้ยงตัวน้อยได้อยู่กับเราไปนาน ๆ นะคะ

ใส่ความเห็น

Website ของเรามีการเก็บ cookies เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน ... อ่านเพิ่มเติม นโยบายคุกกี้

Close Popup