เลือดกำเดาไหล เกิดจากอะไร? ไม่ได้เป็นโรคร้ายใช่ไหม ต้องทำยังไงถึงจะหยุดไหล?!

เลือดกำเดาไหล เกิดจาก

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น “ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้” หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย

         เลือดกำเดาไหล นับว่าเป็นอาการที่หลายคนคุ้นเคย โดยเฉพาะเวลาที่อากาศร้อน ๆ ซึ่งอาการนี้หากไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ก็อาจจะถูกมองว่าเป็นอาการปกติ เพราะเรามักจะเข้าใจกันดีว่า เลือดกำเดาไหล เกิดจากการที่เส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกแตก จึงทำให้เกิดเลือดออกจมูก แต่รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้วเลือดกำเดาไหลนั้นมีหลายสาเหตุด้วยกัน แต่จะเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไรบ้างนั้น และมีวิธีแก้อย่างไร วันนี้เรามีข้อมูลดี ๆ มาฝากกันค่ะ

สารบัญ

เลือดกำเดาไหล เกิดจากอะไร?

         “เลือดกำเดาไหล” คือ ภาวะเลือดออกทางจมูก ที่สามารถออกทางจมูกด้านหน้า และด้านหลังโพรงจมูกได้ ซึ่งหากเลือดออกทางด้านหลังโพรงจมูก ปริมาณเลือดจะเยอะกว่าและอาจมากจนไหลออกทางปากได้ เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดที่ใหญ่กว่าด้านหน้า ยิ่งหากกลืนเลือดลงไป จะทำให้มีอาการอาเจียนเป็นเลือด หรือถ้าลงปอดก็อาจไอเป็นเลือดได้

เลือดกำเดาไหล เกิดจาก

         อาการเลือดกำเดาไหล มักเป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทันได้ตั้งตัว อย่างหลายคนที่นาน ๆ อาจจะเกิดขึ้นเมื่ออากาศร้อนมาก ๆ แต่กับบางคนก็มักจะเกิดขึ้นบ่อยจนเป็นน่ากังวลใจว่าเลือดกำเดาไหลบ่อย มีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ โดยสาเหตุเลือดกำเดาไหล เกิดจากหลายปัจจัยดังต่อไปนี้ค่ะ

สาเหตุของอาการเลือดกำเดาไหล

1. เส้นเลือดฝอยแตก หรือได้รับการกระแทกแรง ๆ

         เลือดกำเดาไหล สาเหตุมาจากภาวะโรคในจมูก ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการมีก้อนในจมูก รวมถึงการติดเชื้อต่าง ๆ ทำให้เกิดอาการคัดจมูกหรือจาม จนเส้นเลือดฝอยแตก นอกจากนี้ เลือดกำเดาไหลอาจเกิดจากการได้รับอุบัติเหตุที่เกิดการกระแทกบริเวณจมูกแรงๆ ได้อีกด้วย หรือในบางคนที่ต้องใช้ยาพ่นสเตียรอยด์รักษาภูมิแพ้ ถ้าพ่นไม่ถูกวิธีก็จะส่งผลเสียทำให้จมูกบาง และเป็นเหตุให้เกิดภาวะเลือดกำเดาไหลได้เช่นกัน

2.เกิดจากความผิดปกติของร่างกาย

         เลือดกำเดาไหล เกิดจากความผิดปกติของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีโรคประจำตัว เป็นโรคเลือดที่ทำให้การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ เลือดออกง่ายหยุดยาก ซึ่งมักจะเป็นตามเยื่อบุต่าง ๆ รวมถึงพบได้มากในผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคตับ หรือคนที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือดต่าง ๆ ก็มีโอกาสเลือดกำเดาออกได้ง่าย

เครื่องวัดความดัน

อันตราย! เลือดกำเดาไหลแบบนี้ ต้องรีบไปหาหมอ!

         หลายคนเกิดความกังวลว่า เลือดออกจมูก เป็นโรคอะไรหรือไม่ ซึ่งวิธีการสังเกตอาการเลือดกำเดาไหล ว่าเป็นอันตรายร้ายแรงหรือไม่ สามารถสังเกตได้จากลักษณะการไหลและสีของเลือดที่ไหลออกมา หากมีอาการเลือดกำเดาไหลในลักษณะดังต่อไปนี้ ให้คุณอย่านิ่งนอนใจ แล้วไปพบแพทย์ทันที เพราะบางครั้งอาจจะเป็นอาการที่รุนแรงได้

เลือดกำเดาไหลเกิดจาก

เลือดกำเดาไหลแบบนี้ ผิดปกตินะ!

  • เลือดกำเดาไหลบ่อย โดยมักจะไหลซ้ำบริเวณรูจมูกข้างเดิม ข้างเดียวตลอด และเป็นบ่อย ๆ จนดูผิดสังเกต
  • มีเลือดกำเดาไหลปริมาณมาก แม้จะเป็นครั้งเดียวก็ควรไปพบแพทย์ เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของการเกิดโรคได้ ซึ่งหากปล่อยไว้จะเป็นอันตรายได้
  • เลือดกำเดาไหลในลักษณะเป็นก้อนลิ่มเลือด ซึ่งเป็นอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นในกลุ่มคนที่มีเลือดกำเดาไหล
  • ไหลเป็นเวลานานต่อเนื่องมากกว่า 10 นาที พร้อมกับมีสีของเลือดกำเดาเป็นสีชมพูจาง ๆ จะมีความรุนแรงมากกว่ากรณีที่เป็นเลือดสีแดงสด
  • มีเลือดกำเดาไหล ควบคู่กับอาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น คัดจมูก หรือมีอาการหูอื้อ หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม ควรพบแพทย์ทันที

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น “ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้” หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย

4 วิธีแก้เลือดกำเดาไหล ในสถานการณ์ฉุกเฉิน!

         เวลาที่เลือดกำเดาไหล หลายคนอาจช็อกหรือตกใจถึงขั้นทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเคยเห็นหรือเคยมีอาการเลือดกำเดาไหลครั้งแรก เรียกได้ว่าทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว ดังนั้น เรามาดู 4 วิธีแก้เลือดกำเดาไหล หรือเป็นปฐมพยาบาลให้ถูกต้อง ไม่เสี่ยงเกิดอันตรายตามมาค่ะ

วิธีแก้เลือดกำเดาไหล

วิธีแก้เลือดกำเดาไหล

  • เมื่อเลือดกำเดาไหล ให้หยุดทุกสิ่งที่กำลังทำอยู่ ไม่ว่าจะเดิน วิ่ง หรือยืนอยู่ก็ตาม เพราะอาจจะมีอาการหน้ามืด หมดสติ เป็นลม ซึ่งจะก่อให้เกิดอันตรายได้นั่นเอง โดยเฉพาะกรณีที่เลือดออกในปริมาณมาก
  • ให้ผู้ป่วยที่มีเลือดกำเดาไหล นอนเอนตัวลง เอาอะไรหนุนศีรษะไว้ เพื่อไม่ให้ศีรษะต่ำจนเกินไป คือ ท่านอนศีรษะสูง ลักษณะนอนเตียงผ้าใบชายหาด ซึ่งท่านอนแบบนี้เป็นการป้องกันการสำลัก หรือการไหลย้อนกลับของเลือดไปที่จมูกอีกด้วย ที่สำคัญ ห้ามแหงนศีรษะขึ้นเด็ดขาด เพราะเสี่ยงต่อการทำให้สำลักเลือดได้
  • ในกรณีที่ผู้ป่วยมีเลือดไหลปริมาณน้อย สามารถห้ามเลือดด้วยการประคบน้ำเย็นได้ พร้อมกับบีบจมูกก่อน จากนั้นก็ให้อมน้ำเย็นเอาไว้ ซึ่งจะช่วยในการห้ามเลือดได้ดี เพราะมีเส้นเลือดอยู่บริเวณเพดานปาก จึงทำให้เลือดหยุดเร็วกว่านั่นเอง
  • หากมีเลือดออกที่จมูกด้านหน้าในปริมาณมาก ให้บีบจมูก หายใจทางปาก แล้วรีบนำตัวผู้ป่วยพบแพทย์ทันที
เลือดกรุ๊ปบี ห้ามกินอะไร? มาเช็กความเสี่ยงโรคร้ายสไตล์กรุ๊ปเลือดตัวแม่!!

สรุป

         เลือดกำเดาไหล เป็นอาการที่ไม่ได้น่ากังวลใจมาก แต่หากเมื่อไหร่ก็ตามที่พบอาการเลือดกำเดาไหลที่ผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยอาการทันทีนะคะ เพราะอาการผิดปกติคือสัญญาณเตือนของความผิดปกติของร่างกาย หรือการเป็นโรคต่าง ๆ ที่เราอาจคาดไม่ถึงก็เป็นไปได้ ดังนั้น หากคุณรู้ตัวเองว่ามีอาการเลือดกำเดาไหลบ่อย ๆ ควรดูแลตนเองให้ดี หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่อากาศร้อนเป็นเวลานาน และหลีกเลี่ยงการได้รับความรุนแรง เพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดเลือดกำเดาไหลนะคะ

Website ของเรามีการเก็บ cookies เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน ... อ่านเพิ่มเติม นโยบายคุกกี้

Close Popup