บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น “ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้” หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
โรคและปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากภายใน เป็นไปไม่ได้ที่เราจะสังเกตเห็นความผิดปกติภายในนั้นด้วยตาเปล่า แต่อาการของโรคร้ายจากภายในพวกนี้มักแสดงออกมาผ่านอวัยวะภายนอกส่วนต่าง ๆ ให้เราได้สังเกต เช่น อาการปวดท้อง ปวดหัว เจ็บตามข้อ การปวดบวม หรือการแสดงสีของอวัยวะที่ผิดไปจากเดิม ซึ่ง “ฝ่าเท้า” ก็เป็นอีกหนึ่งอวัยวะที่บอกอาการผิดปกติได้ อาการเจ็บฝ่าเท้าบอกโรคอะไรได้บ้าง ไปดูกันค่ะ
สารบัญ
- อาการเจ็บฝ่าเท้าบอกโรคอะไรได้บ้าง ?
- สีฝ่าเท้าที่ผิดปกติ ก็บอกโรคได้นะ!
- อาการเจ็บฝ่าเท้าแบบไหน ควรไปหาหมอด่วน!
อาการเจ็บฝ่าเท้าบอกโรคอะไรได้บ้าง ?
อาการเจ็บฝ่าเท้าที่บางทีอาจเป็นมากกว่าอาการปวดเมื่อยธรรมดา ๆ หลายคนที่กำลังเผชิญปัญหานี้ อาจมองข้ามและคิดไปว่าเป็นแค่อาการปวดเมื่อย ทว่าอาการเจ็บเท้าเหล่านี้ หากมาวิเคราะห์ดูดีๆ ก็สามารถใช้บอกโรคได้จากลักษณะ และ บริเวณที่เจ็บซึ่งแตกต่างกัน ดังนี้
1.การเจ็บฝ่าเท้าบริเวณหน้าเท้า
มักจะมีอาการเจ็บตอนที่เดินมากๆ หรือวิ่งเป็นเวลานาน และอาจจะมีอาการเฉพาะตอนที่ใส่รองเท้าส้นสูงหน้าแคบ หรือเดินบนพื้นแข็งด้วยเท้าเปล่า อาการเจ็บฝ่าเท้าส่วนหน้านี้ มักเป็นอาการเจ็บทั่วๆ ไป ไม่เน้นที่เฉพาะจุดใดจุดหนึ่ง นอกจากเจ็บฝ่าเท้าส่วนหน้าแล้ว อาจมีอาการตึงๆที่น่อง ล้าน่องง่าย และในบางครั้งจะมีอาการเจ็บเอ็นร้อยหวายร่วมด้วย
ลักษณะการเจ็บ : เจ็บไม่เฉพาะเจาะจง มีอาการตึงลามไปจนถึงน่อง บางรายก็เจ็บที่เอ็นร้อยหวายร่วมด้วย สาเหตุส่วนใหญ่มาจาก น่องตึงทำให้เวลาเดินจะทิ้งน้ำหนักไปหน้าเท้ามากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการเจ็บขึ้นมาได้
บ่งบอกถึง : อาการเจ็บหน้าเท้าจากการตึงของน่อง
2.การเจ็บฝ่าเท้าบริเวณหน้าเท้าแบบเป็นจุด
อาการเจ็บชนิดนี้จะเจ็บเป็นจุด มักพบในบริเวณระหว่างง่ามนิ้วเท้ากลาง และนิ้วเท้านาง โดยมีอาการเจ็บจะเจ็บแปล๊บๆ จี๊ดๆ ในบางรายมีอาการชาบริเวณที่ปวดร่วมด้วยร่วมด้วย หากรุนแรงอาการเจ็บจะร้าวมาที่หลังเท้าได้ ทำให้ขณะเดินจะรู้สึกเจ็บเหมือนเดินบนพื้นเย็น และในระหว่างนอนตอนกลางคืนก็อาจเจ็บแปล๊บขึ้นมาได้
ลักษณะการเจ็บ : อาการจุดที่เจ็บมักเกิดที่นิ้วเท้ากลางและนิ้วเท้านาง อาจมีอาการปวดชา และเจ็บร้าวที่หลังเท้าร่วมด้วยได้
บ่งบอกถึง : โรคปมประสาทเท้าอักเสบ หรือ Morton Neuroma เป็นโรคเกี่ยวกับเส้นประสาทที่ฝ่าเท้าเป็นปมและเกิดการอักเสบขึ้นมา
3.การเจ็บฝ่าเท้าบริเวณส้นเท้า
อาการเจ็บส้นเท้ามาจนกลางเท้า และมักรู้สึกมีอาการเจ็บบริเวณนี้ช่วงเช้าหลังตื่นนอน เมื่อลุกขึ้นเดินก้าวแรกหลังตื่น จะมีอาการเจ็บร้าวตอนเริ่มเดิน หรือแม้แต่นั่งนาน ๆ แล้วลุกขึ้นเดิน ก้าวแรก ๆ จะเจ็บ แต่พอเดินไปสักพักอาการจะดีขึ้น อาการเช่นนี้บ่งชี้ได้ว่าเป็นโรครองช้ำ (plantar fasciitis) แน่นอน
ลักษณะการเจ็บ : มีอาการเจ็บหลังเวลาตื่นนอน หรือ ลุกขึ้นเดินในหนึ่งถึงสองก้าวแรก
บ่งบอกถึง : โรครองช้ำ หรือ Plantar Fasciitis ซึ่งอาการเจ็บฝ่าเท้าบอกโรคจะมีลักษณะปรากฏที่ค่อนข้างชัดเจน
4.การเจ็บฝ่าเท้าบริเวณอุ้งเท้า
หากมีอาการเจ็บฝ่าเท้าด้านใน เวลาจับคลำจะรู้สึกว่ามีก้อนอะไรอยู่ภายใน เวลากดจะเจ็บ อาการจะเป็นตอนเท้าถูกใช้งานมากๆ เช่น ออกไปวิ่ง ออกกำลังกาย เดินไกลๆ โดยจะมีอาการเจ็บมาก พอพักก็หาย ในบางคนจะมีภาวะเท้าแบนร่วมด้วย
ลักษณะการเจ็บ : เกิดการเจ็บเมื่อกด หรือ เมื่อผ่านการเดินหรือการวิ่งอย่างต่อเนื่อง
บ่งบอกถึง : การเกิดกระดูกงอกในเส้นเอ็นส่วนที่ประคองข้อเท้าด้านใน หรือ Accessory Navicular
อ่านเพิ่มเติม : เท้าบวม เกิดจากอะไร? บวมแบบไหนบอกโรคร้าย ต้องรีบไปหาหมอ!สีฝ่าเท้าที่ผิดปกติ ก็บอกโรคได้นะ!
ไม่เพียงแต่อาการเจ็บฝ่าเท้าเท่านั้นที่สามารถบอกโรคได้ ทุกท่านรู้หรือไม่ว่า แม้แต่ สีของฝ่าเท้า ก็สามารถบอกโรคได้เช่นกัน นอกจากจะหมั่นสังเกตอาการเจ็บแล้ว ก็ควรหมั่นดูสีของฝ่าเท้าในแต่ละวันว่ามีอาการผิดปกติใดหรือไม่ โดยบทความนี้ขอสรุป สีของฝ่าเท้า ว่าบ่งบอกสิ่งใดที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเราได้บ้าง ซึ่งมีดังนี้
1.ฝ่าเท้ามีสีแดง
เป็นสีที่แสดงว่าเกิดการคั่งของเลือดบริเวณฝ่าเท้า ซึ่งสามารถเกิดได้จากการไหลเวียนโลหิตผิดปกติที่มาจากการทำงานของหัวใจที่น้อยลง
2.ฝ่าเท้ามีสีขาว
สีขาว หรือ ความซีดของฝ่าเท้ามักพบได้ในผู้ที่กำลังป่วย มีอาการหนาวสั่น หรือ มีอาการไข้ นอกจากนี้ฝ่าเท้ามีสีขาวก็ยังบ่งบอกถึงการทำงานของกระเพาะอาหารที่ผิดปกติ ความดันโลหิตต่ำความดันโลหิตต่ำผิดปกติ รวมไปถึงฝ่าเท้ามีสีขาวยังสามารถบอกถึงภาวะที่ร่างกายขาดเลือด หรือ ภาวะโลหิตจางได้อีกด้วย
3.ฝ่าเท้ามีสีม่วง
สีม่วงเป็นสีที่เกิดจากสีของเลือดภายในฝ่าเท้าที่ค่อนข้างเข้ม ทั้งนี้สีเข้มของเลือดที่เห็นเป็นสีที่บ่งบอกว่าเลือดขาดออกซิเจน และ อวัยวะที่ทำหน้าที่เพิ่มออกซิเจนหรือฟอกเลือดก็คือ ปอด ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบางอย่างที่เตือนให้รู้ว่าอวัยวะที่สำคัญอย่าง ปอด อาจกำลังมีปัญหา
4.ฝ่าเท้ามีสีเหลือง
เป็นหนึ่งในสัญญาณอันตรายที่สีฝ่าเท้าบอกโรค โดยเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับการหลั่งสารบิลิรูบินที่มากเกินไป ทั้งนี้สารบิลิรูบินเป็นสารสีเหลืองที่ปรากฏในปัสสาวะหรืออุจจาระของเรา และเมื่อฝ่าเท้ามีสีเหลืองก็เพราะฝ่าเท้ามีสารบิลิรูบินที่สะสมอยู่มาก ส่วนนี้ก็สืบเนื่องมาจากการขับสารบิลิรูบินของร่างกายที่ไม่ปกติแทนที่จะขับออกไปทางปัสสาวะหรืออุจจาระ กลับสะสมไว้ที่ฝ่าเท้าแทน ส่วนของอวัยวะที่เกี่ยวเนื่องกับการขับสารบิลิรูบินก็คือตับ
5.ฝ่าเท้ามีสีชมพูอ่อน
เป็นสีฝ่าเท้าในอุดมคติของหลาย ๆ ท่านกันเลย เพราะไม่เพียงแต่ฝ่าเท้าสีชมพูอ่อนจะเป็นสีที่สดใส แต่ยังบ่งบอกถึงสุขภาพที่ดีของร่างกายของเจ้าของฝ่าเท้าทั้งการไหลเวียนของโลหิตที่ปกติ รวมไปถึงไม่มีการบาดเจ็บใด ๆ เกิดขึ้นกับร่างกายเลย
อาการเจ็บฝ่าเท้าแบบไหน ควรไปหาหมอด่วน!
เท้าถือเป็นอวัยวะสำคัญที่ช่วยให้เราเคลื่อนไหวไปไหนมาไหนได้ ดังนั้นอาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้นก็ไม่ควรนิ่งนอนใจและปล่อยไว้ จากข้างต้นอาการเจ็บฝ่าเท้านั้น และสีของฝ่าเท้า ก็สามารถบอกได้เพียงบางโรคและบางอาการ แต่ในลักษณะการเจ็บหรือปวดดังต่อไปนี้ เป็นอาการเจ็บฝ่าเท้าบอกโรคที่เกิดขึ้นแล้วควรรีบไปพบแพทย์ ซึ่งมีดังนี้
เจ็บฝ่าเท้าแบบไหน ควรรีบไปหาหมอ
- เกิดอาการปวดฝ่าเท้าที่รุนแรงมาก เหมือนมีเข็มทิ่มแทงอยู่บริเวณฝ่าเท้าตลอดเวลา
- เมื่อตื่นนอนแล้วลุกเดินเพียง 3 ก้าว ก็เกิดอาการเจ็บปวดทันที
- เมื่อนั่งในอิริยาบถห้อยขาแล้วเกิดอาการเจ็บส้นเท้า โดยอาการที่เกิดจะทุเลาลงเมื่อเดิน แต่เมื่อกลับมานั่งห้อยขาใหม่ก็เกิดอาการเจ็บขึ้นมาใหม่อีก
- รู้สึกปวดเท้ามากจนไม่สามารถลงน้ำหนักได้เป็นเวลานานกว่า 1-2 สัปดาห์ขึ้นไป
- มีอาการปวดเรื้อรัง เป็น ๆ หาย ๆ ก็ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อหาแนวทางการรักษา
สรุป
อาการเจ็บฝ่าเท้าบอกโรคได้เป็นอย่างดี และเป็นที่ยอมรับในทุก ๆ ศาสตร์ไม่ว่าจะด้วยศาสตร์ของการแพทย์แผนจีนที่มีการกดจุดฝ่าเท้า หรือ ศาสตร์ของการแพทย์แผนไทยที่มีการนวดฝ่าเท้า เพื่อบำบัด บรรเทา และรักษาอาการของโรคต่าง ๆ หรือ แม้แต่การแพทย์แผนปัจจุบันก็มีการตรวจฝ่าเท้าเพื่อใช้ประกอบการวินิจฉัยโรคต่าง ๆ
เมื่อฝ่าเท้าเป็นอวัยวะหนึ่งของร่างกายของเรา เราก็ควรหมั่นสังเกตอาการที่ปรากฎทั้งอาการที่เจ็บ บริเวณที่เจ็บ หรือแม้แต่สีของฝ่าเท้าเพื่อให้สัญญาณที่ร่างกายส่งถึงคุณนั้นเป็นสัญญาณที่คุณสามารถใช้ป้องกันโรคร้ายที่เกิดขึ้นกับร่างกายได้