บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น “ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้” หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
โรคริดสีดวง เปรียบเสมือนฝันร้ายสำหรับใครหลาย ๆ คน เพราะอาการริดสีดวงสร้างความทรมานต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ทั้งขับถ่ายได้ยาก มีเลือดออกเวลาถ่ายอุจจาระ รู้สึกเจ็บบริเวณทวารหนักไปหมด จะลุก นั่ง หรือเดินก็สุดแสนจะลำบาก มาเช็กกันว่า อาการริดสีดวงเริ่มแรกเป็นอย่างไร? รักษายังไง จำเป็นต้องไปหาหมอไหม? บทความนี้มีคำตอบค่ะ
สารบัญ
- อาการริดสีดวงเริ่มแรก และอาการแต่ละระยะเป็นอย่างไร?
- เพราะอะไรถึงกลายเป็นโรคริดสีดวง?
- รักษาริดสีดวงด้วยตัวเองได้ไหม? จำเป็นต้องไปหาหมอหรือเปล่า
- ทำอย่างไรถึงจะไม่เป็นริดสีดวง
อาการริดสีดวงเริ่มแรก และอาการแต่ละระยะเป็นอย่างไร?
หลายคนมีอาการเจ็บที่บริเวณรูทวารขณะขับถ่าย หรือขับถ่ายออกมาแล้วเจอเลือดออกมาด้วย ซึ่งไม่แน่ใจว่าอาการเจ็บที่เป็นอยู่ใช่อาการริดสีดวงหรือเปล่า เพราะกับขับถ่ายพร้อมเลือดอาจเป็นอาการของโรคร้ายก็ได้ ดังนั้น เรามาสังเกตกันว่า อาการริดสีดวงจริง ๆ แล้วเป็นอย่างไร อาการที่เป็นอยู่เข้าข่ายระยะไหนแล้วบ้าง
อาการริดสีดวง
- ระยะเริ่มแรก : เริ่มสังเกตเห็นเลือดปนออกมากับอุจจาระ หรือมีเลือดเปื้อนบนกระดาษชำระหลังการเช็ดทำความสะอาด โดยในระยะแรกจะยังไม่รู้สึกเจ็บหรือระคายเคือง
- ระยะเริ่มรุนแรง : มีติ่งริดสีดวงทวารยื่นออกมาจากรูทวาร โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ต้องเบ่งอุจจาระ ไอจาม หรือในช่วงที่ต้องออกแรงยกของหนัก ๆ แต่ก็ยังสามารถใช้นิ้วมือดันกลับให้เข้าที่ได้ ส่วนใหญ่อาการริดสีดวงในระยะนี้มักมีอาการระคายเคือง และรู้สึกเจ็บเล็กน้อย
- ระยะรุนแรง : บริเวณติ่งริดสีดวงที่ยื่นออกมาหรือบริเวณรอบปากทวารหนัก จะเกิดอาการบวม อักเสบ และรู้สึกปวดอย่างรุนแรง จนทำให้ใช้ชีวิตประจำวันได้ลำบาก มีเลือดหรือน้ำเหลืองไหลออกจากติ่งริดสีดวงตลอดเวลา จนทำให้เกิดปัญหาอับชื้นและคัน หากปล่อยทิ้งไว้และไม่รับการรักษาอย่างเหมาะสม จะทำให้เกิดการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้
เพราะอะไรถึงกลายเป็นโรคริดสีดวง?
โรคริดสีดวงทวาร คือ กลุ่มอาการที่เส้นเลือดดำบริเวณขอบทวารหนัก หรือปลายสุดของลำไส้ใหญ่ เกิดการโป่งพอง บวมเป็นก้อนคล้ายเส้นเลือดขอด และอาจเป็นติ่งยื่นออกมาเมื่ออาการรุนแรงขึ้น โดยโรคริดสีดวง สามารถแบ่งกลุ่มได้เป็น 2 ประเภท ตามลักษณะการเกิดริดสีดวง คือ
1.ริดสีดวงทวารภายใน : เป็นริดสีดวงที่เกิดขึ้นในตำแหน่งที่สูงกว่าทวารหนัก หรือหูรูดทวารหนัก ไม่สามารถเห็นก้อนติ่งริดสีดวง หรือสังเกตเห็นได้น้อยมาก เมื่อติ่งยื่นออกมาจะสามารถหดกลับได้เอง และสามารถใช้นิ้วมือดันกลับเข้าไปได้ แต่หากมีอาการรุนแรง ติ่งริดสีดวงจะยื่นออกมาจากทวารหนักตลอดเวลา และไม่สามารถดันกลับเข้าไปได้
2.ริดสีดวงทวารภายนอก : เป็นภาวะที่เส้นเลือดดำที่บริเวณรอบปากทวารหนักโป่งพองเป็นก้อนบวม สามารถมองเห็นก้อนติ่งริดสีดวงได้อย่างชัดเจน และมักมีอาการเจ็บร่วมด้วย
สาเหตุของโรคริดสีดวงทวาร
- ทานอาหารที่มีกากใยน้อยเกินไป ไม่ค่อยทานผัก ผลไม้ หรือธัญพืชเต็มเมล็ด จนทำให้ท้องผูกเรื้อรัง ขับถ่ายยาก จนกลายเป็นริดสีดวง
- ดื่มน้ำน้อยเกินไป ผู้ที่ดื่มน้ำน้อยกว่า 1.5 ลิตร/วัน จะส่งผลให้อุจจาระแห้ง เสี่ยงท้องผูก ขับถ่ายลำบาก
- ผู้ที่ตั้งครรภ์ หรือมีภาวะน้ำหนักตัวเกิน มักจะประสบปัญหาท้องผูก ทำให้ขับถ่ายลำบาก หรือมีปัญหาสุขภาพที่ส่งผลต่อการขับถ่าย
- มีโรคประจำตัวที่ส่งผลต่อการขับถ่าย เช่น ผู้ป่วยโรคตับแข็ง โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มีเนื้องอกในมดลูก เป็นต้น
- ถ่ายอุจจาระไม่เหมาะสม เช่น ใช้เวลาในการถ่ายอุจจาระเป็นเวลานานเกินไป ติดนิสัยเบ่งอุจจาระแรง ๆ เป็นประจำ ฯลฯ
- ใช้ยาสวนระบายหรือยาถ่ายเป็นประจำ ทำให้ลำไส้แปรปรวนและไม่สามารถขับถ่ายได้เอง นอกไปจากนี้ยาระบายยังออกฤทธิ์ทำให้ลำไส้เกิดการบีบรัดตัวมากเกินไป จนทำให้ลำไส้ทะลุหรืออักเสบและกลายเป็นโรคริดสีดวงทวารได้
- เป็นผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุเสี่ยงเป็นโรคริดสีดวงมากกว่าช่วงวัยอื่น ๆ
ทำไมยิ่งอายุมากยิ่งเสี่ยงเป็นริดสีดวง?
เมื่ออายุมากขึ้น ระบบการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายก็จะเริ่มเข้าสู่สภาวะเสื่อมถอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบการย่อยอาหารและระบบการขับถ่าย เนื่องจากการบีบตัวของอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายเริ่มลดน้อยลง มักตามมาด้วยปัญหาปัญหาท้องอืด ย่อยยาก ลำไส้ใหญ่บีบตัวน้อย ไม่ค่อยขับถ่าย ทำให้อุจจาระตกค้างอยู่ในลำไส้เป็นเวลานาน อุจจาระจึงเป็นก้อนแข็ง ขับถ่ายยาก และทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวารตามมาในที่สุด
ผู้สูงอายุ “กลั้นปัสสาวะไม่อยู่” แก้ได้! ด้วย 5 เทคนิคแก้ปัญหาช้ำรั่ว ไม่ให้ช้ำใจรักษาริดสีดวงด้วยตัวเองได้ไหม? จำเป็นต้องไปหาหมอหรือเปล่า
เรียกได้ว่าเป็นข้อสงสัยยอดฮิตเลยก็ว่าได้ค่ะ กับคำถามที่ว่า โรคริดสีดวงสามารถรักษาให้หายเองได้ไหม เพราะเขินอายหรือไม่กล้าไปหาหมอ อยากรักษาด้วยตัวเองให้หายที่บ้านมากกว่า ต้องบอกเลยว่า อาการริดสีดวงส่วนใหญ่ สามารถรักษาให้หายด้วยตนเองได้ค่ะ ถ้าไม่ได้เข้าขั้นเป็นรุนแรงมาก ก็พอจะปฏิบัติให้ริดสีดวงนั้นหายไวขึ้นได้ค่ะ
- นั่งแช่ในน้ำอุ่นที่ผสมด่างทับทิม เป็นเวลาประมาณ 10-15 นาที ทั้งช่วงก่อนและหลังการขับถ่าย เพื่อลดอาการบวมและอักเสบ
- ใช้ยาเหน็บ ยาแก้ริดสีดวงที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป โดยแนะนำให้ปรึกษาอาการกับเภสัชกรก่อน
- เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน กินอาหารที่มีกากใยมาก ๆ ดื่มน้ำสะอาดให้มากขึ้น
- เข้าห้องน้ำให้เป็นเวลา หรืออาจใช้ยาระบายอ่อน ๆ ร่วมด้วยก็จะช่วยให้อาการดีขึ้นได้
แต่หากอาการริดสีดวงมีความรุนแรงมาก หรือทำตามวิธีข้างต้นนานแล้วก็ยังไม่หาย แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาให้ตรงจุดจะดีกว่านะคะ โดยแพทย์อาจพิจารณารักษาด้วยการฉีดยาเข้าที่หัวริดสีดวง การใช้ยางรัดเพื่อให้ติ่งเนื้อฝ่อและหลุดไปเอง การใช้เลเซอร์หรือเครื่องจี้ไฟฟ้า รวมไปจนถึงการผ่าตัดเพื่อนำกลุ่มก้อนเนื้อเยื่อที่มีปัญหาออกไปจนหมดและทำการเย็บผูกเส้นเลือดเพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีกค่ะ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น “ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้” หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
ทำอย่างไรถึงจะไม่เป็นริดสีดวง
ถึงแม้โรคริดสีดวง จะดูเป็นอาการทั่วไป ใคร ๆ ก็เป็นได้ หายเองได้ตามธรรมชาติ แต่บอกเลยว่าตอนเป็นนั้นทรมานต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากค่ะ ดังนั้น ถ้าไม่อยากเป็นต้องหันมาป้องกันด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสม ดังนี้ค่ะ
- ปรับเปลี่ยนการทานอาหารให้เหมาะสม รับประทานผัก ผลไม้และธัญพืชเต็มเมล็ดเป็นประจำ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด อาหารที่มีไขมันสูงโดยเฉพาะในช่วงที่มีอาการท้องผูก เพราะอาหารเหล่านี้ย่อยยากและอาจทำให้ปัญหาเกี่ยวกับการขับถ่ายรุนแรงมากยิ่งขึ้น
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ ให้ได้อย่างน้อย 1.5 ลิตร/วัน
- ฝึกเข้าห้องน้ำและขับถ่ายให้เป็นเวลา จำกัดเวลาสำหรับการเข้าห้องน้ำและขับถ่าย ไม่กลั้นอุจจาระและไม่ออกแรงเบ่งอุจจาระแรงเกินไป
- หมั่นขยับร่างกายหรือออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย
- ในกลุ่มของผู้สูงอายุ ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีเนื้อนิ่ม ชิ้นเล็ก เพื่อให้สามารถเคี้ยวและย่อยได้ง่าย ลดอาการท้องผูกถ่ายยาก โดยอาจเลือกใช้วิธีการต้ม นึ่ง ตุ๋น ฉีก หรือสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ นอกจากนี้ ควรทำกิจกรรมระหว่างวันให้ได้ขยับร่างกายเพิ่มขึ้น ส่งเสริมการทำงานของระบบขับถ่ายและระบบย่อยอาหาร
สรุป
อาการริดสีดวงทรมาน เป็นความทรมานที่หลายคนไม่อยากให้เกิด ซึ่งพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และการขับถ่ายที่ไม่เหมาะสมนี่แหละค่ะคือสาเหตุหลักเลย อายุยิ่งเพิ่มมากขึ้นก็ยิ่งเสี่ยง ดังนั้น หากสังเกตพบอาการริดสีดวงเริ่มแรก ก็ควรหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด่วนเลยค่ะ หรือหากใครที่ตอนนี้เริ่มเป็นแล้วก็ลองใช้วิธีรักษาริดสีดวงด้วยตนเองข้างต้น ลองทำกูก่อน หากไม่หายหรือแย่ลง แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ทันทีเลยนะคะ