รู้ไว้จะได้ไปหาหมอทัน! ไส้ติ่งอักเสบ อาการเป็นอย่างไร? ปวดท้องข้างไหนใช่อาการไส้ติ่ง

         อวัยวะสำคัญขนาดเล็กที่เรามักมองข้าม นั่นคือไส้ติ่ง เพราะเป็นอวัยวะที่รวมเชื้อจุลินทรีย์สำคัญ ๆ ที่จำเป็นในการย่อยอาหารของเราไว้มากมาย ซึ่งหากไส้ติ่งเกิดการติดเชื้อ มีสิ่งสกปรก หรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปสะสมจำนวนมาก จะทำให้เกิดอาการปวดท้องเฉียบพลัน ที่เรารู้จักกันในชื่อไส้ติ่งอักเสบนั่นเอง ซึ่งไส้ติ่งอักเสบ อาการเป็นแบบไหน ปล่อยไว้จะเสียชีวิตจริง ๆ หรือเปล่า ไปดูกันเลย!

สารบัญ

• ไส้ติ่งอักเสบ อาการปวดท้องข้างไหน เกิดมาจากสาเหตุอะไร?
• รู้ไว้! ไส้ติ่งอักเสบ อาการเป็นอย่างไร?
• ไส้ติ่งอักเสบ อาการอันตรายแค่ไหน หากรักษาไม่ทัน!
• รักษาไส้ติ่งอักเสบ จำเป็นต้องผ่าตัดไหม?
• ดูแลตัวเองอย่างไร หลังผ่าตัดไส้ติ่ง

ไส้ติ่งอักเสบ อาการ ปวดท้องข้างไหน เกิดมาจากสาเหตุอะไร?

         หลายคนอาจมีความสงสัยว่าไส้ติ่งอยู่ข้างไหน และการที่ไส้ติ่งเกิดการอักเสบขึ้นมานั้นมีสาเหตุมาจากอะไร ซึ่งไส้ติ่งเป็นอวัยวะที่มีขนาดเล็ก อยู่บริเวณด้านขวาของช่องท้อง หากอวัยวะส่วนนี้เกิดการติดเชื้อ หรือเกิดการอักเสบขึ้นมา จะเกิดอาการปวดท้องข้างขวา โดยจะปวดมากจนรู้สึกทนไม่ได้ แล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ไส้ติ่งเกิดการอักเสบ?

         คำตอบคือ ของเสียหรือกากอาหารที่ร่างกายเราขับออกไม่หมด หรือสิ่งแปลกปลอมทั้งหลาย เศษอาหาร อุจจาระ พยาธิ และสิ่งอื่น ๆ ที่เข้าไปอุดตันได้ เนื่องจากว่าลักษณะของไส้ติ่งจะมีช่องว่างทำให้มีพื้นที่ในการเก็บสิ่งเหล่านั้นไว้ แต่ไม่ระบายออกมา

         ดังนั้นเมื่อสิ่งแปลกปลอมเข้าไปสะสมมาก ๆ จึงทำให้เกิดการอุดตัน และนำไปสู่อาการที่เรียกว่าไส้ติ่งอักเสบ อาการที่ปวดท้องแบบฉับพลัน มีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า Appendicitis หากปล่อยไว้ไม่ไปพบแพทย์จะนำไปสู่ภาวะ ไส้ติ่งแตก ได้ ซึ่งอันตรายมากถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้

รู้ไว้! ไส้ติ่งอักเสบ อาการ เป็นอย่างไร?

         ในระยะเริ่มแรก ผู้ป่วยสามารถประเมินเองได้เบื้องต้นจากอาการปวดท้อง โดยจะมีอาการปวดตรงลิ้นปี่หรือบริเวณรอบๆ สะดือ ซึ่งทำให้ลักษณะอาการมีความใกล้เคียงกับโรคกระเพาะ โรคนิ่วในถุงน้ำดี หรือ โรคท้องเดิน แต่ทั้ง 3 โรคนี้ จะไม่มีอาการเจ็บตรงท้องน้อยด้านขวา แล้วไส้ติ่งอักเสบ อาการเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ

ไส้ติ่งอักเสบ อาการเป็นอย่างไร

• รู้สึกเบื่ออาหาร
• เกิดท้องอืดหรือท้องผูก
• รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน
• ปวดเสียดท้องทางด้านขวา
• หนาวสั่น มีไข้

         ถ้าถึงระยะที่มีอาการปวดท้องทางด้านขวา และมีอาการหนาวสั่น มีไข้ ต้องรีบไปพบแพทย์ เพราะหากปล่อยไว้ไส้ติ่งอาจแตกได้ จากนั้นเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ภายในนั้น จะแพร่กระจายออกมาไปสู่อวัยวะอื่น ๆ และอาจลุกลามไปถึงกระแสเลือด ส่งผลให้ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ในที่สุด

ไส้ติ่งอักเสบ อาการ อันตรายแค่ไหน หากรักษาไม่ทัน!

         คุณคงเคยได้ยินการเสียชีวิตจากไส้ติ่งอักเสบ อาการขั้นรุนแรงมาบ้างแล้ว ถึงแม้ว่าไส้ติ่งจะเป็นอวัยวะที่มีขนาดเล็ก ไม่ได้มีหน้าที่ที่ชัดเจน และหลายๆคนมักจะเข้าใจว่าไม่ได้มีความสำคัญต่อร่างกาย แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเกิดการติดเชื้อหรือเกิดการอักเสบขึ้นมา ก็อันตรายต่อชีวิตได้เหมือนกัน

         อยากให้คุณนึกภาพของไส้ติ่งที่มีพื้นที่ที่เศษของเสียต่าง ๆ สามารถลงไปหมักหมกกันอยู่ได้ แต่ไม่มีช่องทางออกหรือรูระบายใด ๆ ที่ทำให้เศษของเสียเหล่านั้นออกมาได้และภายในไส้ติ่งเองก็มีจุลินทรย์อยู่จำนวนหนึ่งที่สามารถย่อยเศษเหล่านั้นได้ เพราะฉะนั้นจึงเป็นของเสียที่ทับถมกันไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็เกิดอาการที่เราได้บอกไปข้างต้นและหากคุณปล่อยไว้บริเวณไส้ติ่งจะเกิดการติดเชื้อและมีการบวมขึ้น จนแตกออกมานั่นเอง

         โดยของเสียที่ถูกสะสมกันอยู่ในบริเวณนั้น จะแพร่กระจายไปในช่องท้องของเรา หากลุกลามไปที่อวัยวะอื่น ๆ จะส่งผลไม่ดีแน่นอน และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือเกิดการแพร่กระจายเข้าไปในกระแสเลือด ซึ่งโอกาสรอดแทบเป็นศูนย์เลยทีเดียว

รักษาไส้ติ่งอักเสบ จำเป็นต้องผ่าตัดไหม?

         โดยส่วนใหญ่แล้วหมอจะทำการกดบริเวณที่เราปวดเพื่อวินิจฉัยเบื้องต้น เพราะในผู้หญิงบางคนอาจมีปัญหาเกี่ยวกับรังไข่ทำให้ปวดท้องในบริเวณนั้น ซึ่งใกล้เคียงกับไส้ติ่ง จึงต้องตรวจให้แน่ใจว่าปวดท้องเพราะอะไรกันแน่ รวมถึงการตรวจเลือด เพื่อดูปริมาณของเม็ดเลือดขาวภายในร่างกายหากมีการติดเชื้อภายในปริมาณเม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่กำจัดสิ่งแปลกปลอมในร่างกายจะมีปริมาณสูงขึ้น

         และในผู้ป่วยบางรายอาจมีการตรวจปัสสาวะร่วมด้วยเพื่อตรวจโรคนิ่ว จากนั้นถ้าหากไส้ติ่งอักเสบ อาการบ่งชี้ที่แน่นอนแล้ว วิธีการรักษาขั้นต่อไปคือต้องผ่าตัดเอาไส้ติ่งออก เพื่อป้องกันอาการแทรกซ้อนที่จะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายยิ่งขึ้น ซึ่งหากใครสงสัยว่า หากเป็นไส้ติ่งต้องผ่าตัดไหม คำตอบคือจำเป็นต้องผ่าตัดค่ะ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น และไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำค่ะ

ดูแลตัวเองอย่างไร หลังผ่าตัดไส้ติ่ง

         เพราะการผ่าตัดไส้ติ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาโรคไส้ติ่งอักเสบ อาการที่ปวดท้องก็จะหายไปด้วย และเป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยทำให้ร่างกายหายกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมได้มากที่สุด ซึ่งวันนี้เรามีวิธีการดูแลตัวเองหลังจากการผ่าตัดไส้ติ่งมาฝากทุกคนกันค่ะ มีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

วิธีการดูแลหลังจากการผ่าตัดไส้ติ่ง

• งดการขยับตัวอย่างรุนแรง เช่น การเดินไว การไอ หรือจาม เพื่อป้องกันการฉีกขาดของแผล
• นอนพักฟื้นจนเริ่มไม่รู้สึกปวดท้อง หรือเจ็บ โดยทั่วไปแล้วควรที่จะนอนโรงพยาบาลเพื่อดูอาการ 10-15 วัน
• งดรับประทานอาหารรสจัด หรืออาหารที่ย่อยยากจนเกินไป
• ทำกิจกรรมเบา ๆ ที่ออกแรงน้อย ไม่ต้องขยับร่างกายมาแก้เบื่อ อาทิเช่น ฟังเพลง ดูหนัง หรือพูดคุยแบบเบากับครอบครัว สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณไม่โฟกัสกับอาการปวดท้อง
• ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด อาทิเช่น การรับประทานยา อาหาร หรืออื่น ๆ ที่แพทย์แนะนำ

สรุป

         อย่างไรก็ตามไส้ติ่งเป็นอวัยวะภายในร่างกายของเราอีกส่วนหนึ่ง ที่เมื่อเกิดการอักเสบขึ้นจะส่งผลต่อร่างกายของเราอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้นไม่ควรที่จะซื้อยามารับประทานเอง หากมีไส้ติ่งอักเสบ อาการปวดท้องแบบเฉียบพลัน ควรที่จะรีบไปพบแพทย์ทันที ห้ามปล่อยไว้นานเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นอาจอันตรายถึงชีวิต ดังนั้นอย่าได้ประมาทว่าไส้ติ่งเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของร่างกายอย่างเด็ดขาด!