บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น “ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้” หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
หลาย ๆ ท่านคงจะคุ้นเคยกับคำว่า “BPA free” เพราะเป็นคำที่มักพบเห็นเมื่อเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ภาชนะต่าง ๆ ที่เป็นประเภทพลาสติก แต่หลาย ๆ ท่านก็อาจจะยังไม่ทราบว่า BPA free คืออะไร และเพราะเหตุใดทำไมจึงต้อง free สำหรับบทความนี้เราจึงขอพาทุกท่านไปร่วมทำความรู้จักและทำความเข้าใจกับสาร BPA ให้มากขึ้นกันค่ะ
สารบัญ
- สาร BPA Free คืออะไร ?
- อาการที่บ่งบอกว่าคุณ อาจได้รับสาร BPA เข้าสู่ร่างกาย!
- อันตรายแค่ไหนหากได้รับสาร BPA?
- หลีกเลี่ยงสาร BPA ได้อย่างไร
สาร BPA Free คืออะไร ?
ก่อนที่เราจะไปทำความเข้าใจหรือทำความรู้จักกันว่า BPA free คืออะไร เราก็ต้องขอพาทุกท่านไปรู้จักกับคำว่า “BPA” กันก่อนเลย โดย “BPA” หรือ Bisphenol-A คือ สารประกอบในกลุ่ม Polycarbonate Plastic ซึ่งเป็นสารตั้งต้นสำหรับการทำบรรจุภัณฑ์ประเภทพลาสติก โดยสาร BPA จะช่วยทำให้พลาสติกที่ขึ้นรูปมีความใส แต่สาร BPA นี้ไม่ทนต่อความร้อนเพราะจะสลายตัวออกมาปะปนกับสิ่งที่บรรจุภัณฑ์เหล่านั้นบรรจุอยู่
คำถามถัดมาที่หลาย ๆ ท่านสงสัยก็คือบรรจุภัณฑ์เหล่านั้นจะได้รับความร้อนได้จากที่ใด ความร้อนเหล่านั้นก็มาจากแสงแดดที่มักสัมผัสกับขวดน้ำพลาสติกที่เราตั้งทิ้งไว้ในรถ หรือจะเป็นความร้อนจากการใส่อาหารที่มีความร้อน รวมไปถึงการอุ่นร้อนด้วยไมโครเวฟ และในส่วนของสาร BPA ที่ละลายปะปนออกมากับเครื่องดื่มและอาหารจะกลายเป็นสารก่อมะเร็งซึ่งกระทบต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก
มะเร็งลำไส้ใหญ่ อาการท้องผูกเรื้อรังแฝงโรคร้ายโดยที่คุณอาจไม่รู้ตัว!อาการที่บ่งบอกว่าคุณ อาจได้รับสาร BPA เข้าสู่ร่างกาย!
เนื่องจากสาร BPA ในภาชนะนั้นสามารถย่อยสลายและปะปนออกมากับเครื่องดื่มและอาหารได้เมื่อได้รับความร้อน ดังนั้นสาร Bisphenol-A จึงสามารถเข้าสู่ร่างกายของเราได้ผ่านทางการกินอาหารหรือการดื่มเครื่องดื่มที่มีสารเหล่านั้นปะปนอยู่ นอกจากนี้เมื่อเราหยิบจับหรือสูดดมภาชนะบรรจุภัณฑ์เมื่อยังร้อน ๆ อยู่ เราก็สามารถรับสาร Bisphenol-A ได้เช่นกัน ซึ่งถ้าเกิดเราได้รับสาร BPA เข้าสู่ร่างกาย จะมีอันตรายต่อร่างกาย ดังนี้
อาการเมื่อสาร BPA เข้าสู่ร่างกาย
- เมื่อสัมผัสจะเกิดการระคายเคืองที่ไม่รุนแรงมากคือมีลักษณะของการคัน การแดง และการบวม
- เมื่อสูดดมจะเกิดการระคายเคืองระบบทางเดินหายใจไม่ว่าจะเป็นจมูกหรือหลอดลม จนนำมาซึ่งการคลื่นไส้อาเจียนและวิงเวียนศีรษะได้
- เมื่อกินเข้าไปจะเกิดการระคายเคืองระบบทางเดินอาหารนำไปสู่อาการคลื่นไส้ และอาเจียนตามมาได้
อันตรายแค่ไหนหากได้รับสาร BPA?
หากเมื่อสาร BPA เข้าสู่ร่างกายของเราไปแล้วนั้น การที่สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายก็สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน โดยสามารถแบ่งได้จากช่วงอายุของของผู้ที่ได้รับสารนี้เข้าไป คือ อันตรายของสาร BPA ต่อเด็ก และอันตรายของสาร BPA ต่อผู้ใหญ่ ซึ่งมีความอันตรายเกิดขึ้นนั้นไม่แพ้กันเลยค่ะ
อันตรายของสาร BPA ต่อเด็ก
- กระทบต่อระบบประสาทและสมอง ที่ส่งผลต่อพัฒนาการในส่วนของการเรียนรู้ ความทรงจำ และส่วนของความคิดสร้างสรรค์
- ส่งผลต่อระบบฮอร์โมนก็มีส่วนทำให้เด็กเติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาวเร็วกว่าวัยอันควร ซึ่งก็จะนำมาซึ่งความแก่ชราก่อนวัยอันควรอีกเช่นกัน
- มีผลต่อพฤติกรรมและสภาวะอารมณ์ของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมไม่จดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือการมีสมาธิสั้น
- พฤติกรรมการบริโภคที่มากกว่าปกติ ทำให้กลายเป็นโรคอ้วนได้ง่าย
- ทำให้เด็กไม่สามารถเติบโตอย่างเต็มศักยภาพได้
อันตรายของสาร BPA ต่อผู้ใหญ่
- ในเพศชายนั้นส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศลดลง ซึ่งจะไปลดการเคลื่อนที่ของสเปิร์มในการปฏิสนธิกับไข่ และยังนำความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากมาสู่เพศชายอีกด้วย
- ส่วนในเพศหญิงนั้นสาร BPA จะก่อความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมจากการทำงานที่ผิดปกติของต่อมไทรอยด์ และยังส่งผลให้ความสามารถในการตั้งครรภ์ของเพศหญิงลดลงอีกด้วย เพราะอัตราความสำเร็จในการปฏิสนธิระหว่างไข่ที่สมบูรณ์กับอสุจิลดลง
- หญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับสาร BPA ก็มีความเสี่ยงในการแท้งสูง ครรภ์เป็นพิษ หรือตัวอ่อนภายในครรภ์เกิดความไม่สมบูรณ์ของโครโมโซมนำไปสู่การเป็นโรคที่เกิดจากการผิดปกติของโครโมโซม ไม่ว่าจะเป็นโรคไฮเปอร์แอคทีฟ หรือโรคดาวน์ซินโดรม เป็นต้น
หลีกเลี่ยงสาร BPA อย่างไรได้บ้าง?
เมื่อเราทราบแล้วว่าสาร BPA เป็นอันตรายต่อทุกเพศทุกวัยกันมาแล้ว ดังนั้นเราควรที่จะเลือกผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีคำว่า BPA free เพื่อความปลอดภัยของชีวิตของเราเองนั้น โดยเราจะสามารถหลีกเลี่ยงสาร BPA ในชีวิตประจำวันของเรา ได้ดังนี้
วิธีการหลีกเลี่ยงสาร BPA
- การใช้บรรจุภัณฑ์ที่สัญลักษณ์ BPA free ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องการันตีว่าบรรจุภัณฑ์ที่คุณเลือกใช้ปลอดภัยปราศจาก BPA
- หลีกเลี่ยงการใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีเครื่องหมายแสดงสัญลักษณ์หมายเลข 3 และหมายเลข 7 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกชนิดของพลาสติก โดยหมายเลข 3 เป็นสัญลักษณ์ของพลาสติก PVC และ หมายเลข 7 เป็นสัญลักษณ์ของพลาสติก Other เพราะพลาสติกทั้งสองชนิดนี้มาจากการรีไซเคิลที่มีส่วนผสมของสาร BPA อย่างแน่นอน
สรุป
BPA free คือหนึ่งในคำตอบของความปลอดภัยของมนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ เพราะสาร BPA นั้นเป็นสารพิษที่ก่อให้เกิดอันตรายเป็นอย่างมาก และอีกหนึ่งเรื่องที่น่ากลัวก็คืออันตรายเหล่านั้นเป็นอันตรายแบบสะสมทำให้ผู้ที่ได้รับสารอันตรายนี้จะไม่รู้ตัว เมื่อสะสมจนเกินลิมิตของร่างกายจึงส่งผลเสียให้เห็น การแก้ไขจึงเป็นเรื่องยาก การป้องกันจึงเป็นแนวทางที่ดีที่สุดและ BPA free คือคำตอบนั่นเอง