ทั่วไป
ตรุษจีน 2566 เลือกซื้อของไหว้ตรุษจีนอย่างไร ให้บรรพบุรุษถูกใจ ลูกหลานก็แฮปปี้
ม.ค.
เมื่อใกล้เข้าเทศกาล ตรุษจีน 2566 ลูกหลานแดนมังกร คงจะเริ่มหาซื้อของไหว้ตรุษจีน เพื่อเซ่นไหว้บรรพบุรุษและเจ้าที่ที่บ้าน ซึ่งเมื่อไหว้เสร็จ อาหารเหล่านั้นจะถูกนำมาแจกจ่ายให้ลูกหลานได้กินกัน โดยเชื่อว่าจะเสริมสร้างสิริมงคลต่าง ๆ
แต่รู้หรือไม่คะว่า ของไหว้เหล่านี้มีอันตรายแฝงอยู่มากมาย แต่จะให้เปลี่ยนของไหว้เป็นอย่างอื่นไปเลย ก็กลัวอากงอาม่าบนสวรรค์จะไม่ถูกใจใช่ไหมล่ะคะ ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ ของไหว้เรายังใช้แบบเดิมได้ เพียงแต่เราต้องเลือกซื้อให้ถูกวิธี เรามาดูกันว่าควรเลือกซื้อของไหว้อย่างไรถึงจะเหมาะสม
สารบัญ
- ตรุษจีน 2566 ต้องเตรียมของไหว้อะไรบ้าง?
- 7 อันตรายจากของไหว้ตรุษจีนที่ไม่ควรมองข้าม
- ตรุษจีน 2566 นี้ มาเลือกซื้อ – เลือกกินของไหว้ตรุษจีนให้ปลอดภัยกันเถอะ!
ตรุษจีน 2566 ต้องเตรียมของไหว้อะไรบ้าง?
ตรุษจีน 2566 นี้ จะตรงกับวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม ซึ่งเปรียบเสมือนวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 3 วันหลัก ๆ คือ วันจ่าย (วันก่อนสิ้นปี) วันไหว้ (วันสิ้นปี) และวันเที่ยวหรือวันตรุษจีน (วันปีใหม่) ซึ่งคนจีนหรือคนไทยเชื้อสายจีน จะให้ความสำคัญต่อบรรพบุรุษและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก จึงต้องมีการเซ่นไหว้ด้วยอาหารต่าง ๆ เพื่อแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษและแสดงเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งยังเชื่อว่าจะเสริมสร้างสิริมงคลต่าง ๆ ให้กับผู้ที่ไหว้
ในส่วนของ ของไหว้วันตรุษจีนนั้น จะประกอบไปด้วยอาหาร 3 ประเภทใหญ่ ๆ (ไม่รวมเครื่องดื่ม เนื่องจากจะเป็นอะไรก็ได้) คือ เนื้อสัตว์ ของหวาน และผลไม้ ซึ่งของไหว้ทั้ง 3 ประเภทนี้ ผู้ไหว้จะเลือกไหว้ประเภทละ 3 อย่างหรือ 5 อย่างก็ได้ แต่ห้ามมี 4 อย่างเด็ดขาด (4 ออกเสียงคล้ายกับคำว่าตายในภาษาจีน)
1.ของไหว้ตรุษจีน ประเภทเนื้อสัตว์
ชุดซาแซ (ชุดเนื้อสัตว์ 3 อย่าง) และชุดโหงวแซ (ชุดเนื้อสัตว์ 5 อย่าง) ส่วนมากนิยมใช้เป็ด ไก่ หมู ห่าน ปลา ปลาหมึก หรือไข่ย้อมสี เนื่องจากมีความหมายเป็นมงคล โดยที่เนื้อสัตว์เหล่านี้ จะต้องไหว้ทั้งตัว ห้ามขาดอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งหรือเครื่องในไป ส่วนเนื้อสัตว์ที่จะไหว้เจ้า จะต้องใช้สีแดงป้ายหรือวางกระดาษแดงบนของไหว้ เพื่อความเป็นมงคล
2.ของไหว้ตรุษจีน ประเภทของหวาน
ชุดซาเปี้ย (ชุดของหวาน 3 อย่าง) และชุดโหงวเปี้ย (ชุดของหวาน 5 อย่าง) จะนำของหวานอะไรก็ได้ ที่มีความหมายเป็นมงคล มาประกอบให้ครบตามจำนวนชุดที่เลือกไหว้ เช่น ขนมเข่ง แทนความรักความสัมพันธ์ในครอบครัวที่หวานและเหนียวแน่น ขนมถ้วยฟู แทนความงอกงาม – เฟื่องฟู ขนมบัวลอย แทนความกลมเกลียว แปะก้วยเชื่อมน้ำตาล แทนสุขภาพที่แข็งแรง
3.ของไหว้ตรุษจีน ประเภทผลไม้
ชุดซาก้วย (ชุดผลไม้ 3 อย่าง) และชุดโหงวก้วย (ชุดผลไม้ 5 อย่าง) นิยมใช้ที่มีความหมายมงคลในภาษาจีน เช่น ส้ม แทนความโชคดีร่ำรวย องุ่น แทนความเจริญงอกงาม ทับทิม แทนเพชรนิลจินดา ท้อ แทนยาอายุวัฒนะ ไม่นิยมใช้มะม่วงไหว้ (พ้องเสียงกับคำว่าซวยในภาษาจีน) หรือคนไทยเชื้อสายจีน ก็ไม่นิยมไหว้ด้วยมังคุด (คุด แปลว่าไม่งอกงามในภาษาไทย)
7 อันตรายจาก ของไหว้ตรุษจีน ที่ไม่ควรมองข้าม
จะเห็นได้ว่าของไหว้ตรุษจีน มีอาหารมากมายหลากหลายชนิดเลยค่ะ ทั้งของคาว ของหวาน ผักผลไม้ โดยอาหารแต่ละชนิดก็มีกรรมวิธีการผลิตที่แตกต่างกันไป ซึ่งขั้นตอนนี้อาจจะมีกรรมวิธีบางอย่างที่ทำให้อาหารเกิดการปนเปื้อน โดยที่เราไม่รู้ตัวเลยค่ะ
1.สารฟอร์มาลีน : ร้านค้าบางราย ต้องการเก็บรักษาอาหารสดอย่างเนื้อสัตว์หรือผักผลไม้ให้ได้นานขึ้น จึงฉีดหรือแช่สารฟอร์มาลีนในอาหาร ซึ่งหากสารเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายแล้วล่ะก็ จะส่งผลเสียต่อตับ ไต หัวใจ และสมอง ยิ่งรับในปริมาณมาก ๆ อาจส่งผลให้เสียชีวิตได้เลยค่ะ
2.สารบอแรกซ์ : มักพบในอาหารที่ต้องการความนุ่มกรอบ เช่น ลูกชิ้น ขนมบัวลอยจีน ถั่วเคลือบน้ำตาล ซึ่งหากกินสารบอแรกซ์เข้าไป อาจทำให้เกิดอาการอาเจียน ท้องเสีย ความดันต่ำ หมดสติ หรือหากรับประทานในปริมาณมากหรือแพ้มาก อาจส่งผลให้เสียชีวิตได้
3.กรดซาลิซิลิค หรือสารกันเชื้อรา : มักถูกนำมาใช้ในอาหารประเภทหมักดอง และอาหารแห้ง เมื่อกรดซาลิซิลิคเข้าสู่ร่างกาย อาจจะเข้าไปทำลายเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้เป็นแผล และเกิดอาการอาเจียน หูอื้อ และมีไข้ได้
4.สารฟอกขาว : มักถูกใช้กับอาหารที่ต้องการความสด เช่น ถั่วงอก เต้าหู้ เห็ดหูหนู เส้นก๋วยเตี๋ยว หากร่างกายได้รับสารฟอกขาวในปริมาณมาก ๆ อาจเกิดการอักเสบบริเวณอวัยวะที่สัมผัสกับอาหารที่ปนเปื้อนสาร เช่น ปาก กระเพาะอาหาร มีอาการแน่นหน้าอก ปวดท้อง อาเจียน จนอาจเสียชีวิตได้
5.ยาฆ่าแมลง : พบได้บ่อยในผักผลไม้ ซึ่งหากร่างกายได้รับยาฆ่าแมลงในปริมาณมาก อาจทำให้กล้ามเนื้อสั่น ชักกระตุก หายใจติดขัด หมดสติ หากได้รับสารนี้อยู่เป็นประจำ อาจกลายเป็นสารก่อมะเร็งได้
6.อาหารค้างนาน : อาหารที่ถูกนำไปไหว้ จะถูกปล่อยทิ้งไว้หลายชั่วโมง กว่าจะนำมากิน อาหารเหล่านั้นก็เย็นชืดซึ่งเสี่ยงที่จะเกิดจุลินทรีย์ในอาหาร ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ค่ะ
7.สีย้อมผ้า : พบมากจากการนำเชือกฟางมัดไก่หรือเป็ด แล้วนำไปต้มสุก อีกทั้งยังพบจากสีจากก้านธูปที่ปักลงไปในอาหาร ซึ่งสีย้อมผ้ามีสารประกอบที่อันตรายต่อร่างกายมากมาย เช่น สารตะกั่ว สารปรอท สารหนู โดยสารเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการฉับพลัน เช่น คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย ความดันสูง หรือหากได้รับเป็นประจำ อาจเสี่ยงเป็นมะเร็งได้
ตรุษจีน 2566 นี้ มาเลือกซื้อ – เลือกกินของไหว้ตรุษจีนให้ปลอดภัยกันเถอะ!
หลังจากทราบถึงอันตรายที่แฝงมากับของไหว้ตรุษจีนแล้ว หลาย ๆ คนอาจจะกลัวหรือระแวงไปเลย แต่จะให้เปลี่ยนของไหว้ก็ไม่ได้ หรือจะไหว้เสร็จแล้วทิ้งก็เสียดาย ไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ เรายังกินหรือใช้ของไหว้ประเภทเดิมได้ เพียงแต่เราต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเลือกซื้ออาหารเหล่านั้นกันค่ะ
- อาหารสด หากเป็นเนื้อสัตว์ ให้เลือกที่มีความสดใหม่ เนื้อแน่น สะอาด ไม่มีสีคล้ำ จ้ำเลือด และกลิ่นเหม็นค่ะ และที่สำคัญไม่ควรทาสีผสมอาหารนะคะ หากเป็นเนื้อหมู ให้เลือกที่มีเนื้อหมูที่มีสีแดงตามธรรมชาติ และไม่มีเม็ดสาคูหรือพยาธิตืดหมู ส่วนไข่ ควรเลือกที่มีผิวนวลคล้ายแป้ง ไม่แตกร้าวหรือมีคราบสกปรกติดมา พยายามเลือกไข่ที่มีน้ำหนักมาก และหากเขย่าไม่มีเสียงคลอน
- ผักและผลไม้ พยายามเลือกซื้อผักผลไม้ตามฤดูกาลจะมีคุณภาพมากกว่า ไม่ควรเลือกผักผลไม้ที่มีคราบสีขาวของยาฆ่าแมลง เมื่อซื้อมาแล้ว ควรล้างให้สะอาด ด้วยเบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำอุ่น 20 ลิตร แช่นาน 15 นาที แม้ผักและผลไม้ที่จะต้องปอกเปลือกก่อนทาน ก็ควรล้างทำความสะอาดก่อนปอกเปลือกเช่นกันค่ะ
- ขนม ควรเลือกขนมที่มีสีไม่ฉูดฉาด บรรจุอยู่ในภาชนะที่สะอาด
- อาหารแห้ง ควรเก็บรักษาไว้ในภาชนะที่แห้งเหมาะสม เพราะหากเก็บไว้ในที่ชื้น อาจก่อให้เกิดสารอะฟลาท็อกซิน ที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้ โดยก่อนที่จะนำมาทาน ควรล้างให้สะอาดก่อนทุกครั้ง
สรุป
อันตรายที่แฝงมากับของไหว้ตรุษจีน เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เลยนะคะ หากเลือกซื้อเลือกกินไม่ถูกวิธี มีหวังได้ไปอยู่กับอากงอาม่าบนสวรรค์แน่ ๆ เพราะฉะนั้น อย่าลืมที่จะหันมาให้ความสำคัญกับของไหว้ตรุษจีนกันนะคะ เนื่องในโอกาสวันตรุษจีนแบบนี้ ALLWELL ก็ขออวยพร “ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้” ขอให้ทุกท่านมีแต่ความสุข ความร่ำรวย และมีสุขภาพที่แข็งแรงในทุก ๆ วันนะคะ