สุขภาพ
กินน้ำเย็นแล้วปวดหัว เกิดจากอะไร? กินน้ำเย็นมาก ๆ อันตรายไหม?
ก.ค.
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น “ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้” หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
เครื่องดื่มเย็น ๆ คงเป็นของโปรดของใครหลาย ๆ คน แต่เวลาที่กินของเย็นเหล่านี้ทีไร มักจะเกิดอาการปวดหัวทุกที การที่ กินน้ำเย็นแล้วปวดหัว เกิดจากอะไร? บทความนี้จะพาท่านผู้อ่านไปไขข้อสงสัย พร้อมทั้งมีสาระน่ารู้เกี่ยวกับน้ำเย็น ไม่ว่าจะเป็นวิธีการแก้ปวดหัวหลังกินน้ำเย็น หรือข้อเท็จจริงว่า การกินน้ำเย็นเป็นประจำอันตรายไหม มาดูสาระดี ๆ ในบทความนี้กันค่ะ
สารบัญ
กินน้ำเย็นแล้วปวดหัว เกิดจากอะไร?
เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงสงสัยว่าทำไมเวลากินน้ำเย็น หรือกินของเย็น ๆ ถึงได้มีอาการปวดหัวจี๊ด ๆ ทุกที ทำให้กินของเย็นเหล่านั้นได้ไม่เยอะ แถมกินไปก็ทรมานไป ทำไมการกินของเย็นถึงส่งผลกระทบต่อร่างกายแบบนี้นั้น นั่นก็เป็นเพราะอุณหภูมิของร่างกายที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเกินไปนั่นเองค่ะ
หากเราดื่มน้ำเย็นเข้าไปโดยที่อุณหภูมิร่างกาย และบริเวณรอบ ๆ นั้น เย็นไม่เท่าน้ำ จะทำให้หลอดเลือดในศีรษะหดตัวลงกะทันหัน ซึ่งเป็นการตอบสนองตามธรรมชาติของร่างกายในการควบคุมอุณหภูมิ จึงทำให้บริเวณนั้นเกิดอาการเจ็บปวดได้ นอกจากนี้ ในส่วนของเส้นประสาทในปากและลำคอของเรา ยังไวต่ออุณหภูมิที่เย็นจัด เมื่อน้ำเย็นสัมผัสกับเส้นประสาทบริเวณนี้ ก็ส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวได้ค่ะ
กินน้ำเย็นแล้วปวดหัว แก้ยังไง?
อากาศร้อน ๆ แบบนี้ คงเลี่ยงที่จะไม่ได้ดื่มน้ำเย็นหรือของเย็น ๆ ได้ใช่ไหมล่ะคะ ใคร ๆ ก็คงอยากดื่มน้ำเย็น แต่จะดื่มอย่างไรไม่ให้เกิดอาการปวดหัวที่แสนทรมานนั้น ALLWELL มีวิธีแก้ปัญหากินน้ำเย็นแล้วปวดมาฝากค่ะ สามารถทำได้ง่าย ทุกท่านทำตามได้ มีอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ
วิธีบรรเทาอาการปวดหัวจากการดื่มน้ำเย็น
- ก่อนเริ่มกินน้ำเย็นจัดหรืออาหารเย็น ๆ ควรเริ่มจากการจับน้ำเย็นที่ไม่มากก่อน เย็นกว่าอุณหภูมิห้องนิดหน่อย แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นอุณหภูมิที่เย็นขึ้น ๆ สิ่งนี้ทำให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้ทีละน้อย ลดโอกาสในการปวดหัวได้
- การใช้หลอดเมื่อดื่มน้ำเย็น เมื่อใช้หลอดจะช่วยลดการสัมผัสโดยตรงของน้ำเย็นกับฟันและบริเวณที่บอบบางในปาก สิ่งนี้สามารถช่วยป้องกันการกระตุ้นการตอบสนองของเส้นประสาท และลดโอกาสเกิดอาการปวดหัวได้
กินน้ำเย็นดีไหม? ดี-ไม่ดีต่อร่างกายอย่างไรบ้าง?
การดื่มน้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาสุขภาพที่ดีและการทำงานของร่างกายที่เหมาะสม ซึ่งน้ำเย็นจะทำให้หลาย ๆ คนกินน้ำง่ายขึ้น เพราะรู้สึกสดชื่นกว่าการกินน้ำอุ่นหรืออุณหภูมิห้องทั่วไป แต่รู้หรือไม่ว่า การกินน้ำเย็นก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะคะ
ประโยชน์ของการดื่มน้ำเย็น
- ช่วยให้รู้สึกสดชื่น โดยเฉพาะในเวลาที่เหนื่อยหรืออากาศร้อน ๆ น้ำเย็นจะทำให้รู้าึกดีมากขึ้น
- หลายคนที่มีเป้าหมายในการดื่มน้ำให้ได้เพียงพอต่อปริมาณที่ควรดื่มต่อวัน แต่เป็นคนที่ไม่ชอบกินน้ำเปล่าหรือกินได้ไม่มาก น้ำเย็นจะช่วยทำให้กินน้ำได้ในปริมาณที่มากขึ้น
- ช่วยในการย่อยอาหาร น้ำเย็นช่วยเพิ่มการเผาผลาญได้ชั่วคราว เนื่องจากร่างกายต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อทำให้น้ำเย็นที่ดื่มเข้าไป อุ่นขึ้นเท่ากับอุณหภูมิของร่างกาย
- เผาผลาญแคลอรี่หรือลดน้ำหนัก หลังจากออกกำลังกายอย่างหนัก การดื่มน้ำเย็นสามารถช่วยทำให้ร่างกายเย็นลง และลดการอักเสบหลังออกกำลังกายและอาการปวดกล้ามเนื้อได้
ผลเสียของการดื่มน้ำเย็น มีดังนี้
- กระทบต่อการย่อยอาหาร น้ำเย็นสามารถบีบรัดหลอดเลือดในระบบทางเดินอาหาร ทำให้กระบวนการย่อยอาหารช้าลง และอาจทำให้รู้สึกไม่สบายและอาหารไม่ย่อยได้ แนะนำให้ดื่มน้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่นระหว่างมื้ออาหารเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร
- การดื่มน้ำเย็นจัดในปริมาณที่มากเกินไป อาจเกิดภาวะขาดน้ำ เมื่อร่างกายสัมผัสกับน้ำอุณหภูมิที่เย็นกว่าร่างกาย ร่างกายจะสูญเสียความร้อน ซึ่งทำให้อุณหภูมิของร่างกายลดลง อาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำผ่านการขับเหงื่อและการผลิตปัสสาวะเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดน้ำ
- น้ำเย็นอาจทำให้อาการเสียวฟันรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาฟันหรือฟันผุอยู่แล้ว การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างกะทันหันอาจทำให้รู้สึกไม่สบายและปวดฟัน
ใครที่ไม่ควรกินน้ำเย็นบ้าง?
น้ำเย็นมักเป็นทางเลือกที่สดชื่นสำหรับดับกระหายโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับประโยชน์จากการบริโภคน้ำเย็น ในความเป็นจริงมีบุคคลบางกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็นเนื่องจากอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ ซึ่งมีด้วยกันอยู่ 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
กลุ่มคนที่ควรงดดื่มน้ำเย็น
- บุคคลที่มีภาวะระบบทางเดินหายใจ : สำหรับคนกลุ่มนี้ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็น น้ำเย็นมีโอกาสทำให้ทางเดินหายใจตีบ ทำให้เป็นปัญหาอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีภาวะทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด หรือโรคปอดอุดกั้น
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหาร : น้ำเย็นทำให้กระบวนการย่อยอาหารช้าลง เนื่องจากอาจทำให้กล้ามเนื้อในระบบทางเดินอาหารหดตัวได้ ซึ่งอาจส่งผลให้ประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหารลดลง และอาจส่งผลให้ท้องอืดและปวดท้อง โดยเฉพาะในผู้ที่มีระบบย่อยอาหารบอบบาง ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาเรื่องการย่อยอาหารควรระมัดระวังเมื่อต้องดื่มน้ำเย็น เพราะอาจทำให้อาการแย่ลงได้
- บุคคลที่มีโรคประจำตัว : โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้ เพราะการกินน้ำเย็นภูมิแพ้อาจหนักขึ้นได้ หรือผู้ที่มีอาการไมเกรนหรือปวดศีรษะ น้ำเย็นกระตุ้นหรือทำให้อาการรุนแรงขึ้น อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันอาจทำให้หลอดเลือดในศีรษะตีบตัน ทำให้เกิดอาการปวดและรู้สึกไม่สบายมากขึ้น
สรุป
อย่างที่ทุกท่านทราบกันดีว่า อากาศที่ร้อนของประเทศไทยเรา น้ำเย็นมักเป็นทางเลือกที่สดชื่นสำหรับดับกระหายโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับประโยชน์จากการบริโภคน้ำเย็น ดื่มน้ำเย็นเข้าไปในช่วงเวลาที่ต่างกันของน้ำและอากาศในปัจจุบัน นั้นจะทำให้ หลอดเลือดในศีรษะจะหดตัวกะทันหัน ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ควรดื่มน้ำที่เย็นจัดจนเกินไปนะคะ