บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้ หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
มีใครสังเกตเห็นผู้สูงอายุที่บ้านเป็นตะคริวบ่อย ๆ ไหมคะ? โดยเฉพาะตอนกลางคืน บางท่านถึงกับต้องตื่นขึ้นมากลางดึก เพราะปวดตะคริวจนทนไม่ไหว ไม่ว่าจะตะคริวที่ขา น่อง หรือเท้า ต่างก็ปวดไม่แพ้กัน งสัยไหมคะว่า ตะคริว เกิดจาก อะไร? ถ้าไม่อยากให้ผู้สูงอายุทรมานบ่อย ๆ จะแก้ปัญหาอย่างไรได้บ้าง? ถ้าสงสัยอยู่ล่ะก็ มาทำความรู้จักกับตะคริวในผู้สูงอายุ เพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้ปัญหาที่น่ากวนใจนี้ เกิดขึ้นกับคนที่คุณรักค่ะ
สารบัญ
- ตะคริว เกิดจากอะไร? ทำไมผู้สูงอายุต้องระวัง
- เมื่อผู้สูงอายุเป็นตะคริว จะช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง?
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้สูงอายุ ช่วยป้องกันการมาเยือนของตะคริวได้!
ตะคริว เกิดจาก อะไร? ทำไมผู้สูงอายุถึงชอบเป็นตอนกลางคืน?
ตะคริว (Muscle cramps) คือ ภาวะที่กล้ามเนื้อหดเกร็ง จนเกิดเป็นก้อนแข็ง ซึ่งเกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อส่วนใดก็ได้ แต่ส่วนมากจะเกิดขึ้นบริเวณน่องและขา ส่งผลให้เกิดอาการปวด หรือเจ็บกล้ามเนื้อบริเวณนั้น โดยตะคริวจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน และไม่สามารถล่วงรู้หรือบังคับ ให้เกิดหรือไม่เกิดขึ้นได้ โดยตะคริวมักจะเป็นในระยะเวลาสั้น ๆ ชั่วขณะหนึ่ง หลังจากนั้นอาการเจ็บปวดต่าง ๆ จะค่อย ๆ ทุเลาลงไปเอง แต่ในบางรายก็ใช้ระยะเวลานานกว่าจะทุเลาลง หรือบางรายอาจจะเป็นตะคริวได้บ่อย จนทำให้เกิดความทรมานหรือรู้สึกหงุดหงิดได้
ตะคริว เกิดจาก อะไร ทางการแพทย์ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุที่ชัดเจนได้ แต่สันนิษฐานว่า เกิดจากการที่เอ็นและกล้ามเนื้อไม่ได้ยืดตัวบ่อย ๆ จึงทำให้มีการหดรั้งหรือเกร็งได้ง่าย หรืออาจเกิดจากการที่เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อได้ไม่ดี (อ้างอิงข้อมูลจาก โรงพยาบาลเปาโล) อีกทั้ง จากการศึกษาพบว่า มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดตะคริวในผู้สูงอายุ และเป็นสาเหตุทำให้เกิดตะคริวในตอนกลางคืน ดังนี้
- ผู้สูงอายุอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานาน ไม่ค่อยได้ขยับ
- เซลล์กล้ามเนื้อเสื่อมถอย ตามอายุที่มากขึ้น
- ขาดการออกกำลังกาย มวลกล้ามเนื้อจึงลดลง หรือออกกำลังกายโดยที่ไม่ได้มีการยืดกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อตึงเกินไป
- ดื่มน้ำน้อย หรือดื่มแอลกอฮอล์ (ทำให้เพิ่มการขับน้ำทางปัสสาวะ) ทำให้เซลล์กล้ามเนื้อขาดน้ำ
- ภาวะเกลือแร่ในเลือดต่ำ จากอาการท้องเสีย อาเจียน เสียเหงื่อมากจากการทำงาน หรืออากาศที่ร้อน
- การได้รับบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ อาจเกิดจากการกระทบกระแทก จนเกิดการฟกช้ำที่กล้ามเนื้อ
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาลดความดัน ยาขยายหลอดลม ยารักษาโรคกระเพาะ
- ภาวะหลอดเลือดแดงส่วนปลายแข็ง หรือหลอดเลือดตีบตัน จึงส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดไม่ดี กล้ามเนื้อจึงขาดเลือด
- โรคประจำตัว เช่น โรคพาร์กินสัน โรคโลหิตจาง โรคเบาหวาน โรคตับ โรคไต เป็นต้น
เมื่อผู้สูงอายุเป็นตะคริว จะช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง?
เวลาที่เจอผู้สูงอายุที่บ้านเป็นตะคริว ผู้ดูแลหลายคนมักจะบรรเทาอาการปวดด้วยการบีบหรือนวดใช่ไหมล่ะคะ แต่บางครั้งบีบนวดไปเท่าไหร่ ผู้สูงอายุก็ยังปวดอยู่เหมือนเดิม งั้นลองมาดูวิธีรับมือกับอาการตะคริว ซึ่งเป็นวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ที่ผู้ดูแลสามารถทำได้ไม่ยาก หรือแม้แต่ผู้สูงอายุก็สามารถทำได้ด้วยตนเองค่ะ
- เริ่มจากการพักการใช้งานกล้ามเนื้อส่วนที่เป็นตะคริวทันที โดยให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นอยู่นิ่ง ๆ ไม่เคลื่อนไหว
- ค่อย ๆ ยืดเหยียดกล้ามเนื้อส่วนที่เป็นตะคริวช้า ๆ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น เช่น ถ้าผู้สูงอายุเป็นตะคริวที่น่อง จะสังเกตเห็นปลายเท้าจิกชี้ลงพื้น ให้พยายามค่อย ๆ ดันปลายเท้าขึ้น แล้วกระดกช้าๆ
- ให้ใช้มือค่อยๆ นวดส่วนที่เป็นตะคริว เพื่อช่วยคลายกล้ามเนื้อ หากกล้ามเนื้อมีการหดเกร็งมาก ให้ใช้น้ำอุ่นประคบบริเวณที่เป็นตะคริว เพื่อช่วยบรรเทาอาการลง
- เมื่อตะคริวหายแล้ว แล้วพบว่าผู้สูงอายุยังมีอาการปวดอยู่ ซึ่งเกิดจากตอนที่เป็นตะคริวกล้ามเนื้อหดเกร็งมาก ให้ผู้สูงอายุกินยาแก้ปวดพาราเซตามอล และช่วยทายานวด เพื่อบรรเทาอาการปวด
- หากพบว่าผู้สูงอายุเป็นตะคริวบ่อย จนรบกวนการนอนทำให้ต้องตื่นกลางดึก หรือนอนไม่หลับ ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและแนวทางรักษา เพราะไม่อย่างนั้น จะทำให้ผู้สูงอายุพักผ่อนได้ไม่เพียงพอ จนเกิดผลเสียทั้งทั้งร่างกาย อารมณ์ และจิตใจได้
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้สูงอายุ ช่วยป้องกันการมาเยือนของตะคริวได้!
แม้ตะคริวจะเป็นภัยที่เกิดได้บ่อยในผู้สูงอายุ แต่เราสามารถป้องกันได้ค่ะ แค่เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เป็นวิธีที่หากทำแล้วนอกจากจะช่วยป้องกันตะคริว ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย มาดูกันเลย
เตียงผู้ป่วยไฟฟ้า รุ่น Dali Low Entry สามารถปรับท่าทางให้อยู่ในลักษณะชันเข่าได้
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน โดยผู้สูงอายุไม่ควรนอนแบบเท้าทิ่มลงพื้น แต่ควรนอนในลักษณะที่ขาสูงขึ้นจากเตียง ประมาณ 10 เซนติเมตร หรือประมาณ 4 นิ้ว โดยการใช้หมอนรองใต้เข่า หรือปรับระดับท้ายเตียงให้อยู่ในลักษณะท่าชันเข่า (เตียงผู้สูงอายุไฟฟ้า ALLWELL นำเข้าจากต่างประเทศ มาพร้อมฟังก์ชันในการปรับท่าทางผู้สูงอายุ ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ สนใจคลิกเลย!!!)
- เปลี่ยนมาใช้รองเท้าที่ช่วยดูแลสุขภาพเท้าและกล้ามเนื้อขาของผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในคนที่มีเท้าแบนหรือเป็นโรคเบาหวาน (รองเท้าเพื่อสุภาพ Kaiho Shugi จาก ALLWELL ออกแบบโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อและกระดูก จากญี่ปุ่น ช่วยดูแลสุขภาพเท้าและป้องกันการสะดุดหกล้ม สนใจคลิกเลย!!!)
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ไม่นั่ง นอน หรือเดินเป็นเวลานาน ๆ ฝึกเหยียดกล้ามเนื้อบริเวณที่เป็นตะคริวบ่อย ๆ และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยที่ไม่หนักเกินกำลัง และที่สำคัญก่อนออกกำลังกายต้องยืดกล้ามเนื้อทุกครั้ง
- ปรับพฤติกรรมการกิน โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ ผู้สูงอายุที่มักเป็นตะคริวตอนกลางคืนบ่อย ๆ อาหารประเภทปลาและไข่ในมื้อเย็น หรือดื่มนมก่อนเข้านอน จะช่วยลดการเกิดตะคริวได้
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีอากาศเย็นมาก ๆ
สรุป
จะเห็นได้ว่า โดยส่วนใหญ่ที่ผู้สูงอายุเป็น ตะคริว เกิดจาก ร่างกายที่เสื่อมถอยไปตามอายุที่มากขึ้น รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่าง ที่เป็นปัจจัยกระตุ้นทำให้เกิดตะคริว แม้ตะคริวจะไม่ได้เป็นโรคภัยที่ร้ายแรงมาก แต่ก็สร้างความเจ็บปวดทรมานให้กับผู้สูงอายุไม่น้อยเลยล่ะค่ะ อีกทั้งหากเป็นขึ้นมาอย่างกะทันหัน ก็เสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด อย่างการสะดุดล้มหรือหกล้ม ซึ่งอุบัติเหตุเหล่านี้ อาจนำไปสู่การบาดเจ็บที่ร้ายแรงได้เลยนะคะ ดังนั้น แม้อาการตะคริวในผู้สูงอายุ จะพบได้บ่อยจนเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้ามเลยล่ะค่ะ