NEET คือ คนโลกส่วนตัวสูง หรือ ควรเข้าพบจิตแพทย์ ?

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้ หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย

หลายปีที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่นประสบปัญหากับประชากรกลุ่มหนึ่ง ที่ถูกเรียกว่า NEET คือ กลุ่มคนที่ไม่ได้เรียน หรือไม่ได้ทำงานใด ๆ และหลีกหนีสังคมด้วยการเก็บตัวอยู่ภายในห้อง โดยที่เขาเหล่านี้ จะถูกครอบครัวช่วยเหลือทางด้านการเงินไปตลอดชีวิต ทำให้เกิดผลกระทบกับสังคมเป็นวงกว้าง

ปัจจุบัน กลุ่มคนเหล่านี้ ไม่ได้มีแค่ในประเทศญี่ปุ่น แต่ด้วยภาวะนี้ ไม่ได้เป็นที่รู้จักในหลายประเทศ จึงคิดว่าอาการที่พบ เป็นเพียงแค่คนที่โลกส่วนตัวสูงเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง ภาวะเหล่านี้ต้องได้รับการบำบัดจากจิตแพทย์ ดังนั้น บทความนี้จึงจะพาทุกท่านไปรู้จักกับNEET เพื่อแก้ไข และเฝ้าระวังภัยร้ายนี้กันค่ะ

NEET ต่างจากคนที่โลกส่วนตัวสูงอย่างไร?

NEET เป็นตัวย่อมาจาก Not in Education , Employment or Training คือ บุคคลอายุระหว่าง 15 – 24 ปี ที่ไม่ได้เรียน ไม่ได้ทำงาน หรือไม่ได้ฝึกฝนอะไรเลย โดยบุคคลเหล่านี้ จะเก็บตัวอยู่ในห้อง หมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่สนใจ เช่น เกม การ์ตูน คอมพิวเตอร์ โดยมีครอบครัวช่วยเหลือในเรื่องของการเงินต่าง ๆ

NEETยังสามารถออกจากห้องได้ แต่จะหลีกเลี่ยงคนหมู่มาก เช่น การออกไปซื้อของกิน ในตอนกลางดึกที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน ไม่เข้าสังคม และไม่ค่อยพูดกับใคร แต่หากถูกบังคับให้ออกจากบ้าน หรือต้องเจอคนหมู่มาก อาจจะเกิดอาการแพนิคได้
สาเหตุของการเกิดภาวะนี้ มีอยู่หลายปัจจัย เช่น

พบความล้มเหลวในชีวิต
ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
การเลี้ยงดูจากพ่อแม่แบบ overprotection
ได้รับแรงกดดันจากสังคมและคนรอบข้าง
ปรับตัวเข้ากับสังคมไม่ได้

คำว่าNEET ถูกคิดค้นและใช้ครั้งแรกที่ประเทศอังกฤษ แต่ไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เพราะNEET เป็นชื่อที่ถูกใช้เรียกภาวะหนึ่ง ไม่ใช่โรคที่เป็นสากล แต่NEET มาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จากประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากประเทศญี่ปุ่น ประสบปัญหากับบุคคลเหล่านี้เป็นอย่างมาก และเนื่องด้วยญี่ปุ่นเป็นประเทศมหาอำนาจ ดังนั้น ปัญหาอย่าง NEETจึงเป็นที่จับตามองจากสังคมโลก

แตกต่างจากคนโลกส่วนตัวสูง ที่ยังคงไปทำงาน หรือไปเรียน หาเงินด้วยตัวเอง ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป ไม่ชอบการเข้าสังคม มีเพื่อนน้อย ไม่ค่อยพูดคุยกับใคร แต่ก็สามารถเข้าร่วมกิจกรรมกับผู้อื่นได้บ้าง หรือมักจะเรียกคนโลกส่วนตัวสูงว่า Introvert

อ่านบทความ : โรคซึมเศร้า อาการ เป็นอย่างไร? ความเศร้ารุนแรงที่ต้องระวังไว้ ก่อนที่จะสายเกินไป!

ทำไม NEET ถึงเป็นปัญหาสังคม

การที่NEET ไม่ได้ทำงาน ในทางการเมือง จะจัดอยู่ในกลุ่มผู้ว่างงาน ซึ่งในรัฐบาลของเกือบทุกประเทศ จะมีนโยบายออกมารองรับคนเหล่านี้ ด้วยการให้ค่าครองชีพ ในขณะที่กำลังมองหางานใหม่ แต่ NEETไม่ได้เหมือนกับคนว่างงานทั่วไป เพราะเขาไม่ได้ต้องการทำงาน จึงทำให้เขาเหล่านั้น ได้รับเงินในส่วนนี้ในทุก ๆ เดือนเป็นระยะเวลานาน ซึ่งเงินจากนโยบายนี้ เป็นเงินภาษีของประชาชนที่ทำงานทุกคน ดังนั้นประชาชนในประเทศ จึงไม่พอใจ และต่อต้านบุคคลเหล่านี้ เพราะเขาไม่มีส่วนร่วมในการเสียภาษี หรือทำประโยชน์ใด ๆ ให้กับประเทศ

ซึ่งNEET อาจจะพบได้มากในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากถูกกดดันและเป็นที่คาดหวังของสังคม ทั้งในเรื่องเรียน และเรื่องงาน แต่ปัจจุบันผู้ที่เข้าข่ายNEET มีอยู่ทั่วโลก ยกตัวอย่างเช่น ประเทศจีนก็มีผู้ที่มีอาการเหมือนNEET อยู่มาก แต่คนจีนจะเรียกคนกลุ่มนี้ว่า เขิ่นเหล่าจู๋ (啃老族) และในประเทศไทยเองก็มีเช่นกัน จากผลสำรวจในปี 2562 ประเทศไทยมีจำนวนผู้ที่เป็นNEET มากถึง 1.3 ล้านคน คิดเป็น 14% ของเยาวชนไทย และมีอัตราการเติบโต เฉลี่ยต่อปีที่ 1% สวนทางกับจำนวนเยาวชนไทย ที่ลดลงเฉลี่ย 1.2% ในทศวรรษที่ผ่านมา
อีกทั้งNEET ยังเป็นภาระอันหนักอึ้งของครอบครัว เพราะครอบครัวจะต้องหาเงินมาเลี้ยงดู มีรายจ่ายมากกว่ารายรับ ทำให้สภาพเศรษฐกิจ ภายในครอบครัวแย่ไปด้วย โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ เพราะถ้าผู้สูงอายุเหล่านี้เสียชีวิตไป NEETจะไม่สามารถดูแลตัวเองได้ และจะกลายเป็นปัญหาของสังคมในที่สุด
การที่NEET ไม่ได้ทำงาน ทำให้ประเทศประสบกับปัญหาขาดแคลนแรงงาน ถ้าจำนวนคนที่เป็นNEET มีมากเกินครึ่งของจำนวนประชากรในประเทศ จะทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศไม่ขับเคลื่อน ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง และหากNEET ไม่ได้รับการบำบัด หรือแก้ไขพฤติกรรม จะกลายเป็นภาวะฮิคิโคโมริ (Hikikomori) ได้ ซึ่งภาวะนี้ จะมีอาการเหมือนNEET แต่จะปฏิเสธการเข้าร่วมกับสังคม และครอบครัวโดยสมบูรณ์ และจะไม่ออกจากห้องไปไหนเลย ซึ่งจะนำไปอาการทางจิต เช่น โรคซึมเศร้า ฆ่าตัวตาย ทำร้ายตัวเอง และผู้อื่นได้

ทำอย่างไรถึงจะหายจากการเป็น NEET

เนื่องจาก NEETไม่ใช่โรค แต่เป็นอาการที่เกิดจากสภาพจิตใจ ดังนั้น ต้องได้รับการบำบัดและรักษาจากจิตแพทย์โดยตรง อาจจะไม่ได้หายด้วยการรักษาเพียงครั้งเดียว แต่ถ้าเข้ารับการรักษาอยู่เป็นประจำ และทำตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด อาการเหล่านี้จะสามารถหายได้

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือครอบครัว ต้องเป็นกำลังใจสำคัญในการช่วยเหลือ เพราะครอบครัวคือผู้ที่ใกล้ชิด และสามารถพูดคุยกับพวกเขาได้ดีกว่าใคร ๆ อาจจะลองพูดกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจใ นการทำงาน หรือเรียน พาเขาออกไปพบปะผู้คนบ่อย ๆ หากิจกรรมที่ทำร่วมกัน พูดคุย และให้กำลังใจในขณะที่เขากำลังปรับตัว

สรุป

บุคคลที่เป็นNEET ไม่ใช่บุคคลที่โลกส่วนตัวสูง หากแต่เป็นภาวะที่ต้องได้รับการบำบัดจากจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และต้องได้แรงใจจากครอบครัว ให้การช่วยเหลือเขาในการรักษาและปรับเปลี่ยนตัวเอง และที่สำคัญ สังคมต้องให้โอกาสบุคคลเหล่านี้ ให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขด้วย

BED & MATTRESS PRODUCT