ค่าความดันปกติ แต่ละช่วงอายุ ควรอยู่ที่เท่าไหร่? ค่าที่ได้ไม่เท่ากันผิดปกติไหม?

ค่าความดันปกติ

         เชื่อว่าคุณผู้อ่านเกือบทุกคน คงเคยผ่านการวัดความดันโลหิตมาบ้างใช่มั้ยล่ะคะ ไม่ว่าจะไปโรงพยาบาล คลินิก หรือซื้อเครื่องวัดความดันมาตรวจวัดเองที่บ้าน แล้วเคยสงสัยไหมคะว่า ทำไมตรวจความดันเด็กเล็กถึงต่างกับผู้ใหญ่? นั่นก็เพราะว่า ค่าความดันปกติ ของแต่ละช่วงอายุนั้นไม่เท่ากันค่ะ แล้วอายุเท่าคุณเหมาะกับตัวเลขเท่าไหร่? หากวัดหลายครั้งแล้วตัวเลขไม่ตรงกันผิดปกติไหม? หาคำตอบได้ในบทความนี้เลยค่ะ

ค่าความดันโลหิต คืออะไร?

ค่าความดันปกติ

         ความดันโลหิต คือ ค่าความดันของกระแสเลือดในหลอดเลือดแดง ซึ่งเกิดจากการสูบฉีดเลือดของหัวใจ โดยที่เมื่อหัวใจบีบตัว เราจะได้ค่าความดันตัวบน และเมื่อหัวใจคลายตัว เราจะได้ค่าความดันตัวล่าง โดยที่ค่าความดันปกติ เฉลี่ยโดยทั่วไป จะอยู่ที่ประมาณ 120/80 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งค่าความดันเหล่านี้วัดได้โดยการใช้เครื่องวัดความดัน

วัดความดันอย่างไรให้แม่นยำ? อ่านค่าตัวเลขบนหน้าจออย่างไร? คลิกเลย!

สารบัญ

ค่าความดันปกติ แต่ละช่วงอายุ ควรอยู่ที่เท่าไหร่?

          หลายคนคงเคยได้ยินมาบ้างว่า ค่าความดันปกติ โดยเฉลี่ยแล้วควรอยู่ที่ประมาณ 120/80 มิลลิเมตรใช่มั้ยล่ะคะ แต่การที่ตัวเลขที่ตรวจวัดได้สูงหรือต่ำกว่านี้ ก็ไม่ได้น่ากังวลใจเสมอไปนะคะ เพราะในแต่ละช่วงอายุ ก็มีตัวเลขที่เหมาะสมแตกต่างกันออกไป (อ้างอิงจาก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข) ดังนี้ค่ะ

ค่าความดันปกติ

  • วัยทารก : ไม่ควรเกิน 90/60 มิลลิเมตรปรอท
  • เด็กเล็ก 3 – 6 ปี : ไม่ควรเกิน 110/70 มิลลิเมตรปรอท
  • เด็กโต 7 – 17 ปี : ไม่ควรเกิน 120/80 มิลลิเมตรปรอท
  • วัยทำงาน 18 ปีขึ้นไป : ไม่ควรเกิน 140/90 มิลลิเมตรปรอท
  • ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป : ไม่ควรเกิน 160/90 มิลลิเมตรปรอท 

         ดังนั้น ค่าความดันปกติที่เราคุ้นเคยอย่าง 120/80 ไม่ใช่ความดันปกติของทุกช่วงวัยนะคะ เช่น ถ้าวัดเด็กเล็ก แล้วได้ค่าความดัน 120/80 นั่นหมายถึงมีความดันสูงจนผิดปกติ เพราะฉะนั้น การดูช่วงวัยหรือช่วงอายุ ก็สำคัญนะคะ

หากค่าความดันสูงเกินกว่าที่กล่าวข้างต้น อาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความเหนื่อยล้า อุณหภูมิ สภาพแวดล้อม โรคภัย แต่ถึงอย่างไร เมื่อมีค่าความดันที่ผิดปกติ ก็ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการวินิจฉัยหาสาเหตุต่อไปนะคะ

เครื่องชั่ง BFS200B

ทำไมวัดความดันแต่ละครั้ง ถึงไม่เท่ากัน?

          การที่วัดความดันโลหิต แล้วมีค่าออกมาไม่เท่ากัน ไม่ได้แปลว่าเครื่องวัดความดันโลหิตเสียหรือไม่แม่นยำเสมอไปนะคะ จริง ๆ แล้วเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องวัดความดันโลหิตแบบผิดวิธี (วิธีการวัดความดันให้ถูกวิธีควรทำอย่างไร Click!) แต่ละครั้งวัดติด ๆ กันทันที หรือก่อนวัดความดันอาจจะเพิ่งทานอาหารมา ดังนั้น ถ้าอยากรู้ว่าค่าความดันไม่เท่ากันแบบไหนที่ผิดปกติ ก็ควรตัดปัจจัยที่ทำให้ค่าความดันคลาดเคลื่อนออกก่อนนะคะ หากทำแล้วยังไม่เท่ากันอยู่ ให้ปฏิบัติตัว ดังนี้ค่ะ

ค่าความดันปกติ

1.วัดความดันในแต่ละครั้งไม่เท่ากัน         

ในกรณีที่วัดแขนข้างเดียวกันและในท่าเดียวกันอย่างถูกวิธี แต่ได้ค่าความดันในแต่ละครั้งไม่เท่ากัน ให้วัดใหม่อย่างน้อย 2 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 1 นาที ค่าความดันที่ได้ จะต้องไม่ห่างกันเกิน 5 มิลลิเมตรปรอท หากเกินให้วัดซ้ำ 1 – 2 ครั้ง ส่วนใหญ่ในการวัดครั้งแรก มักมีค่าความดันสูงกว่าครั้งถัด ๆ ไป ให้นำค่าที่ได้ในแต่ละครั้งมาหาค่าเฉลี่ยค่ะ ถ้าวัดหลายครั้งหรือหาค่าเฉลี่ยแล้วยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่สูง ควรมาพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุนะคะ

2.วัดความดันที่บ้าน ไม่เท่ากับวัดที่โรงพยาบาล         

การวัดความดันที่บ้าน แล้วได้ค่าที่ไม่เท่ากับที่โรงพยาบาล จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องปกตินะคะ อาจเกิดจากการเพิ่งเดินทาง ตื่นเต้นหรืออาจจะตื่นกลัวคุณหมอ ให้นั่งพักให้ผ่อนคลายอย่างน้อย 5 นาทีก่อนทำการวัด โดยส่วนใหญ่ค่าที่โรงพยาบาลจะสูงกว่าที่บ้านไม่เกิน 5 มิลลิเมตรปรอท ค่าความดันโลหิตที่สูงคือ วัดที่โรงพยาบาลได้มากกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท วัดจากที่บ้านได้มากกว่า 135/85 มิลลิเมตรปรอท โดยแนะนำให้ยึดผลวัดความดันจากที่บ้านมากกว่านะคะ เพราะสามารถเป็นความดันที่เกี่ยวกับโรคแทรกซ้อนได้ อีกทั้งคุณหมอส่วนใหญ่ จะดูค่าความดันที่วัดได้จากที่บ้าน (อย่างสม่ำเสมอ) เพื่อใช้ประกอบการรักษาอีกด้วย

3.วัดความดันแขน 2 ข้างไม่เท่ากัน         

จริง ๆ แล้วไม่ว่าจะวัดความดันที่แขนข้างซ้ายหรือขวา ผลลัพธ์ที่ได้ก็ควรจะใกล้เคียงกันนะคะ โดยที่ความดันตัวบนของแขนสองข้าง จะต่างกันมากกว่า 10 มิลลิเมตรปรอท แต่ไม่เกิน 20 มิลลิเมตรปรอท ในกรณีนี้จะพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ หากค่าความดันของแขนทั้งสองข้างต่างกันเกิน 20 มิลลิเมตรปรอท ให้วัดซ้ำหลาย ๆ ครั้ง หากยังเป็นเช่นนี้อยู่ นั่นอาจจะมีความผิดปกติของหลอดเลือด แนะนำให้พบคุณหมอเลยค่ะ


เครื่องวัดความดัน ใช้แบบไหนถึงจะดี?

         การวัดความดันแล้วได้ผลลัพธ์ที่ไม่แม่นยำ เครื่องวัดความดันที่ไม่ได้คุณภาพก็มีส่วนนะคะ (6 วิธีเลือกเครื่องวัดความดันให้คุ้มค่าคุ้มราคา Click!) ดังนั้น หากเราจะเลือกซื้อเครื่องวัดความดันมาใช้ที่บ้านสักเครื่อง เราต้องรู้จักข้อดีข้อเสียของเครื่องวัดความดันแต่ละประเภทก่อนนะคะ1.เครื่องวัดความดันโลหิตแบบปรอท

เครื่องวัดความดัน แบบไหนดี

         เครื่องวัดความดันโลหิตแบบปรอท เป็นเครื่องวัดความดันโลหิตที่ใช้แรงโน้มถ่วงของโลกเป็นหลัก จะใช้งานด้วยการบีบกระเปาะ เพื่อให้ปลอกแขนพอง เพื่อดูค่าความดัน ใช้ควบคู่กับหูฟังแพทย์ เพื่อฟังเสียงชีพจร ภายในบรรจุสารปรอทที่มีความอันตราย

  • ข้อดี : มีความแม่นยำสูง
  • ข้อเสีย : มีขนาดใหญ่ พกพาลำบาก หากมีการรั่วหรือแตกหัก อาจจะได้รับอันตรายจากสารปรอทได้ มีวิธีการใช้งานที่ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นถึงจะแม่นยำ อีกทั้งการอ่านค่าจะต้องอ่านจากแท่งปรอท ในท่าตรงระดับสายตา จึงส่งผลเสียกับผู้ที่สายตาไม่ดีหรือผู้สูงอายุ

2.เครื่องวัดความดันโลหิตแบบขดลวด

วัดความดันโลหิต

         เครื่องวัดความดันโลหิตแบบขดลวด มีวิธีใช้งานที่ซับซ้อน เหมาะกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากกว่าคนทั่วไป เพื่อให้แม่นยำ จะต้องปรับเครื่องมือโดยการเทียบกับชนิดปรอทอยู่บ่อย ๆ

  • ข้อดี : ราคาไม่แพง น้ำหนักเบา สามารถวางตำแหน่งไหนก็ได้
  • ข้อเสีย : มีวิธีการใช้งานที่ซับซ้อน หากผู้ป่วยใช้ไม่ถูกต้องอาจจะทำให้เครื่องชำรุด ผู้ที่สายตาไม่ดี หรือได้ยินไม่ชัด จะทำให้การวัดได้ผลไม่แม่นยำ

3.เครื่องวัดความดันแบบดิจิทัล

ครื่องวัดความดันโลหิต ALLWELL รุ่น BSX593 ระบบเสียงพูดภาษาไทย หน้าจอเปลี่ยนสีตามค่าความดันที่วัดได้ ตั้งปลุกและบันทึกค่าได้ มาพร้อมกระเป๋าพกพาสะดวก

         เป็นเครื่องมือที่ไม่ต้องมีหูฟังหรือลูกยางสำหรับบีบลมทำให้สะดวกในการใช้งาน เมื่อวัดผลจะแสดงผลเป็นตัวเลขที่หน้าจอพร้อมกับอัตราการเต้นของหัวใจ เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่สูงอายุสายตาและการได้ยินไม่ดี

  • ข้อดี : ใช้งานและอ่านค่าได้ง่าย บางรุ่นสามารถบันทึกผลได้ ไม่ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญก็สามารถใช้ได้เพียงกดปุ่ม
  • ข้อเสีย : ราคาค่อนข้างแพง และต้องใช้ไฟฟ้าการพันสายรัดแขนต้องพันให้ถูกตำแหน่ง

4.เครื่องวัดความดันแบบสอดแขน

ค่าความดันโลหิต

         มักนิยมใช้ตรวจคัดกรองในโรงพยาบาล เนื่องจากใช้งานง่าย เหมาะกับการใช้งานกับคนจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะมีการพิมพ์ผลค่าความดันออกมาให้ด้วย

  • ข้อดี : ใช้งานง่ายเพียงสอดแขน เหมาะกับใช้งานกับคนจำนวนมาก
  • ข้อเสีย : มีราคาสูงมาก (50,000 – 100,000) พกพาไม่ได้ เนื่องจากตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ จะต้องตั้งไว้บนโต๊ะเท่านั้น

จะเห็นได้ว่า เครื่องวัดความดันที่มีคุณสมบัติเหมาะกับการใช้งานที่บ้านมากที่สุด คือ เครื่องวัดความดันแบบดิจิทัล เนื่องจากใช้งานง่าย มีราคาที่จับต้องได้ แถมบางประเภทยังบันทึกผลได้อีกด้วยค่ะ

เครื่องวัดความดัน

เครื่องวัดความดัน ALLWELL BSX593 ดีอย่างไร?

         หากจะหาซื้อเครื่องวัดความดันสักเครื่อง มาใช้เองที่บ้าน ก็คงหนีไม่พ้นเครื่องวัดความดันโลหิตแบบดิจิทัล เพราะด้วยวิธีการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน หาซื้อได้ง่าย และราคาย่อมเยากว่าแบบอื่น ๆ แต่เมื่อไปหาซื้อก็เจอร้านนู่นร้านนี้ หลากหลายราคาเต็มไปหมด แล้วแบบนี้ควรเลือกซื้อแบบไหนดี?

ค่าความดันปกติ

         ไม่ต้องไปมองหาที่ไหนไกลค่ะ ALLWELL ภูมิใจนำเสนอ เครื่องวัดความดันโลหิตดิจิทัล รุ่น BSX593 ที่มาพร้อมฟังก์ชันสุดล้ำไม่เหมือนใคร

  • ระบบเสียงพูดภาษาไทย : สำหรับใครที่มีผู้สูงอายุในบ้าน ที่อาจจะสายตาไม่ค่อยดี ไม่ต้องเพ่งมองจอให้ปวดตาเลยค่ะ เพราะเครื่องวัดความดัน BSX593 มีผู้ช่วยอัจฉริยะ ที่จะคอยบอกค่าความดันของคุณ โดยไม่ต้องอ่านค่าเองเลยค่ะ
  • หน้าจอเปลี่ยนสีตามค่าความดันที่วัดได้ : เราจะรู้ได้อย่างไรว่าค่าความดันที่วัดได้ปกติหรือเปล่า? จำไม่ได้เลยว่าตัวเลขไหนควรไปหาหมอ? สำหรับใครที่ขี้ลืมบ่อย ๆ แบบนี้ ไม่ต้องกังวลใจไปเลยค่ะ เครื่องวัดความดัน BSX593 จะเปลี่ยนสีหน้าจอตามค่าความดันที่วัดได้ (เขียว เหลือง แดง) แม่นยำตามเกณฑ์การวัดความดันโลหิต ตามองค์การอนามัยโลก (WHO) ไม่ต้องจำค่านู่นนี่นั่นให้ปวดหัวเลยค่ะ
  • ตั้งปลุกเพื่อเตือนให้วัดความดันได้ : เครื่องวัดความดันรุ่นนี้ ยังสามารถตั้งปลุกได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะลืมวัดความดันเลยค่ะ
  • บันทึกค่าได้ : เคยไหมคะ จดค่าความดันที่วัดได้ใส่กระดาษไว้ แล้วกระดาษหาย! ดันลืมไปแล้วว่าค่าความดันเมื่อวานได้เท่าไหร่ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะ BSX593 สามารถบันทุกค่าความดันที่วัดไว้ได้ถึง 2 คน คนละ 99 ค่า! ไม่ต้องจดให้เสียเวลาเลยค่ะ
  • อุปกรณ์ครบเซต : ไม่เสียเวลาหรือค่าใช้จ่ายเพิ่ม เพราะเครื่องวัดความดัน BSX593 มีให้ทั้งตัวเครื่อง ผ้าพันแขน ถ่าน สายชาร์จแบตเตอรี่ และกระเป๋าใส่อุปกรณ์ พกพาสะดวก พร้อมวัดได้ทันทีเลยค่ะ

เครื่องวัดความดันโลหิต ALLWELL รุ่น BSX593 มาพร้อมกับฟังก์ชันพิเศษต่าง ๆ อีกทั้งยังสามารถใช้งานง่าย แค่เพียงกดปุ่ม ผู้สูงอายุก็สามารถวัดความดันเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งลูกหลานเลยล่ะค่ะ 

สรุป

         ปัจจัยเรื่องอายุก็มีผลต่อค่าความดันโลหิตที่ตรวจวัดได้ ซึ่งในช่วงวัยก็มีเกณฑ์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ถึงอย่างนั้น หากมีค่าความดันที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะช่วงวัยไหนก็ควรปรึกษาแพทย์นะคะ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติบางอย่างได้ ดังนั้น อย่าพลาดที่จะมีเครื่องวัดความดันติดบ้านไว้สักเครื่อง เพื่อคอยตรวจเช็กสุขภาพในทุก ๆ วันนะคะ

ใส่ความเห็น

Website ของเรามีการเก็บ cookies เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้" ... อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายคุกกี้

Close Popup