ความดันสูง เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต โรคร้าย ไปจนถึงพันธุกรรม จึงเป็นสาเหตุที่ทำไมเวลาไปโรงพยาบาลหรือคลินิค จะต้องมีการตรวจวัดความดันก่อนเริ่มทำการรักษา เพราะค่าความดันสามารถบ่งบอกถึงสุขภาพร่างกายได้ ซึ่งค่าความดันสูงนี้ จะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่จะทราบก็ต่อเมื่อคุณใช้เครื่องมือที่เรียกว่า เครื่องวัดความดันโลหิต (Blood Pressure Monitor) หรือที่เราเรียกกันง่าย ๆ ว่า เครื่องวัดความดัน
แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าโรคความดันเหล่านี้อันตรายอย่างไร? บทความนี้มีคำตอบให้ค่ะ
สารบัญ
- ทำความรู้จัก! ความดันสูง เกิดจากอะไร?
- ลองเช็กดูว่าคุณกำลังมีอาการความดันสูง หรือเปล่า?
- ความดันสูง รักษาหรือไม่รักษาดี?
- ป้องกันความดันสูง อย่างไรได้บ้าง?
- สรุปโรคความดันสูง ทำไมถึงควรระวัง
ความดันโลหิต (Blood Pressure) คือ ค่าแรงดันของกระแสเลือดในหลอดเลือดแดง ซึ่งเกิดจากการสูบฉีดเลือดของหัวใจไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยที่เมื่อหัวใจบีบตัว เราจะได้ค่าความดันตัวบน และเมื่อหัวใจคลายตัว เราจะได้ค่าความดันตัวล่าง โดยค่าความดันปกติ คือไม่เกิน 120/80 มิลลิเมตรปรอท ถ้าค่าความดันสูงหรือต่ำกว่านี้ตามเกณฑ์วินิจฉัยของแพทย์ นั่นหมายถึงว่า คุณเป็นโรคความดันค่ะ
ทำความรู้จัก! ความดันสูง เกิดจากอะไร?
ความดันสูง (Hypertension) คือ ภาวะที่ความดันของกระแสเลือดในหลอดเลือดแดงสูงกว่าปกติ อันเนื่องมาจากปัจจัยต่าง ๆ โดยค่าความดันสูง เป็นค่าความดันที่มากกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท (ค่าความดันปกติจะไม่เกิน 120/80 มิลลิเมตรปรอท) ซึ่งหากปล่อยให้ความดันในหลอดเลือดสูงต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จะทำให้หลอดเลือดได้รับความเสียหาย และนำไปสู่โรคเรื้อรังอื่น ๆ และในกรณีความดันสูงร้ายแแรง อาจเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้อีกด้วย
ระดับความดัน | ค่าตัวบน (Systolic) | ค่าตัวล่าง (Diastolic) |
ความดันปกติ | ไม่เกิน 120 mmHg | ไม่เกิน 80 mmHg |
ความดันสูง | 140 mmHg | 90 mmHg |
ความดันสูงมาก | 160 mmHg | 100 mmHg |
ความดันสูงอันตราย | ≥ 180 mmHg | ≥ 110 mmHg |
(อ้างอิงค่าจาก โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาการุณย์)
สาเหตุของความดันสูง
ความดันสูง เกิดจากหลายสาเหตุทั้งภายนอก ภายใน ตั้งแต่พฤติกรรมการใช้ชีวิต ช่วงอายุ โรคประจำตัว ไปจนถึงพันธุกรรม นอกจากนี้ ในบางรายอาจมีอาการความดันสูง ที่เกิดโดยหาสาเหตุไม่ได้ ดังนั้น จึงขอสรุปสาเหตุของการเกิดโรคความดันสูง โดยแบ่งเป็น 2 ชนิด ดังนี้
1.ชนิดทราบสาเหตุ
- เป็นโรคอื่นอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งเป็นผลให้เกิดภาวะความดันเลือดสูง เช่น โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดแดงตีบ โรคต่อมหมวกไต เนื้องอกบางชนิด
- การไม่ได้ออกกำลังกายเป็นเวลานาน การไหลเวียนของเลือดจึงไม่ปกติ
- โรคอ้วนหรือน้ำหนักตัวเกิน เพราะเป็นสาเหตุของโรคเบาหวานและโรคหลอดเลือดต่าง ๆ ตีบจากภาวะไขมันเกาะผนังหลอดเลือด
- การกินอาหารเค็มอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ไตทำงานหนัก อาจนำไปสู่โรคไตชนิดต่าง ๆ ได้
- พันธุกรรม ผู้ที่มีคนในครอบครัวเป็นโรคความดันโลหิตสูง จะมีโอกาสและความเสี่ยงในการเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้มากกว่าผู้อื่น
2.ชนิดไม่ทราบสาเหตุ
ผู้ที่มีภาวะความดันสูงส่วนใหญ่กว่า 90% เป็นชนิดไม่ทราบสาเหตุ เนื่องจากไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ แต่พบว่าตนเองเป็นตอนคัดกรองโรค ส่วนสาเหตุที่สันนิษฐานได้ว่าเกิดจากพันธุกรรม การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ หรือในบางราย จะเกิดภาวะความดันสูง แค่ตอนเข้าพบแพทย์เท่านั้น (อ่านบทความ ความดันสูงเฉพาะไปวัดที่โรงพยาบาลเกิดจากอะไร?) ซึ่งสันนิษฐานได้ว่ามาจากภาวะตื่นเต้น กดดัน หรือเครียด
ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นความดันสูง
- ผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป+
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคหยุดหายใจขณะหลับ
- มีคนในครอบครัว (สายเลือดเดียวกัน) เป็นโรคความดันสูง
- คนที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย
- มีภาวะน้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วน
- ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่เป็นประจำ
- ชอบกินเค็ม หรือกินอาหารที่มีโซเดียมสูงเป็นประจำ
- ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ (อ่านบทความ ความดันสูงขณะตั้งครรภ์ อาการที่ต้องเฝ้าระวัง)
ลองเช็กดูว่าคุณกำลังมี อาการความดันสูง หรือเปล่า?
ผู้ที่เป็นโรคความดันสูง หรือมีภาวะความดันสูงชั่วคราวจากสาเหตุบางอย่าง อาจพบอาการผิดปกติเป็นสัญญาณเตือนได้ (แต่บางรายก็อาจจะไม่พบอาการใดๆ) ซึ่งสามารถตรวจเช็กอาการผิดปกติที่อาจพบได้ดังนี้
ความดันสูงอาการเป็นอย่างไร
- ปวดหัว เวียนหัว ปวดตึงต้นคอ
- หน้ามืดจะเป็นลม
- รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก
- ใจสั่น ใจเต้นเร็ว
- คลื่นไส้อาเจียน
- ตาพร่ามัว ปวดกระบอกตา
- มือเท้าชา
- เลือดกำเดาไหล
ความดันสูง รักษาหรือไม่รักษาดี?
หลายคนอาจตั้งคำถามว่า เป็นความดันสูง ควรไปรักษาหรือไม่รักษาดี เพราะไม่ได้พบอาการผิดปกติอะไรเลย หรือมีก็น้อยมาก ปล่อยไว้เฉย ๆ จะสามารถหายได้เองไหม? ต้องขอตอบเลยว่า ควรเข้ารับการรักษาจะดีที่สุดค่ะ ถึงแม้จะไม่มีอาการผิดปกติ แต่หากปล่อยให้ความดันสูงต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ สิ่งที่ตามมาคือโรคแทรกซ้อนและอันตรายต่าง ๆ ที่ร้ายแรงและน่ากลัวกว่าความดันสูงหลายเท่าเลยล่ะค่ะ
ความดันสูง ปล่อยไว้เสี่ยงโรคอะไรบ้าง?
- โรคหลอดเลือดสมองตีบ-แตก-ตัน (Stroke) นำไปสู่อาการอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือติดเตียงได้
- หัวใจวายหรือล้มเหลว
- โรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง
- ไตเสื่อมหรือไตวายเรื้อรัง
- จอประสาทตาเสื่อม
- อัลไซเมอร์ หรือสมองเสื่อม (อ่านบทความ สมองเสื่อมกับอัลไซเมอร์ไม่เหมือนกัน)
ดังนั้น หากพบว่าความดันสูง ควรเข้ารับการรักษา และหมั่นตรวจเช็กให้ค่าความดันปกติอยู่เสมอ
เป็นความดันสูง รักษาได้ไหม?
เมื่อเป็นโรคความดันสูงแล้ว สามารถรักษาให้ค่าความดันคงที่ได้ แต่จะไม่หายขาด 100% โดยการรักษา แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยเพื่อหาสาเหตุของโรคความดันสูงที่พบ แล้วแก้ไขสาเหตุนั้น โดยรักษาไปพร้อม ๆ กับการให้ยาลดความดันในบางราย และที่สำคัญแพทย์จะให้คอยตรวจเช็กค่าความดันที่บ้านด้วยตนเองสม่ำเสมอ เพื่อความแม่นยำในการรักษา และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมควบคู่ไปด้วย ดังนี้
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน หรือตามค่า BMI
- หลีกเลี่ยงความเครียด ผ่อนคลาย มีสุขภาพจิตที่ดี
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารเค็ม อาหารโซเดียมสูง
- กินยาต่าง ๆ ให้ถูกต้อง ตามคำสั่งแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
- กินอาหารลดความดัน
- ออกกำลังกายเป็นประจำ และลดน้ำหนักในผู้ป่วยที่มีน้ำหนักเกิน
- ต้องตรวจเช็กความดันสม่ำเสมอ พร้อมจดบันทึกค่าความดันเอาไว้เพื่อให้แพทย์ติดตามการรักษา
ป้องกันความดันสูง อย่างไรได้บ้าง?
จะเห็นได้ว่า ความดันสูงไม่ใช่โรคที่เราควรชะล่าใจ เพราะความดันสูงอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงที่อันตรายถึงชีวิตได้ ทั้งตอนที่เป็นบางรายก็ไม่แสดงอาการหรือสัญญาณเตือนใด ๆ รู้ตัวอีกทีก็เข้าโรงพยาบาลซะแล้ว ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดคือการป้องกันตั้งแต่แรกเริ่ม ดีกว่าการปล่อยให้เป็นแล้วค่อยมาหาทางรักษาทีหลังนะคะ ซึ่งแนวทางการป้องกันความดันโลหิตสูง ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องพึ่งยาหรืออาหารเสริมอะไรเลยค่ะ
วิธีป้องกันความดันสูง
- เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์โดยเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมและอาหารแปรรูป
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงหรือลดแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ น้ำอัดลม
- หมั่นชั่งน้ำหนัก ดูแลให้ค่าน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน หรือมีค่า BMI ปกติเสมอ และดูแลให้รอบเอวมีสัดส่วนที่เหมาะสม (ส่วนสูงหารสอง)
- ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละอย่างน้อย 30 นาที
- พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง ไม่อดนอนหรือนอนดึก
- ความเครียดมีผลต่อความดัน พยายามเครียดให้น้อยลง ผ่อนคลายให้มากขึ้น
สรุปโรคความดันสูง ทำไมถึงควรระวัง
ความดันสุูงเปรียบเสทือนประตูที่เปิดไปสู่โรคร้ายต่าง ๆ ซึ่งอันตรายถึงชีวิต ความดันสูงมีทั้งแบบที่แสดงอาการ และแบบซ่อนแอบ เราจะไม่มีทางเห็นค่าความดันเหล่านี้ด้วยตาเปล่าได้เลย จึงจำเป็นต้องมีอุปกรณ์สำคัญอย่างเครื่องวัดความดันโลหิต ติดบ้านเอาไว้คอยตรวจเช็กสุขภาพตนเอง เพราะค่าความดันที่โรงพยาบาลกับที่บ้านไม่เท่ากัน เพื่อความแม่นยำในการรักษาจึงจำเป็นต้องตรวจเช็กด้วยตนเองสม่ำเสมอนะคะ