อาการปวดเมื่อยตามร่างกายรวมไปถึงอาการปวดหลังที่เป็นบ่อย จนบางครั้งต้องหันมาใส่ใจสุขภาพของตัวเองและสังเกตอาการที่เป็นอยู่ว่ามีอาการปวดหลังบ่อยครั้ง และเป็นถี่มากยิ่งขึ้นหรือไม่ เพราะอาจจะเป็นอันตรายที่จะเสี่ยงต่อการปวดหลังเรื้อรัง
เมื่อผู้ป่วยสังเกตอาการของตัวเองว่ามีอาการปวดหลังไม่หาย อาจเป็นไปได้ว่าผู้ป่วยอาจจะสุ่มเสี่ยงต่อการเป็นภาวะปวดหลังเรื้อรังได้ โดยโรคปวดหลังเรื้อรังหรือเรียกว่า Office Syndrome เป็นปัญหาสุขภาพของคนวัยทำงานที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะกลุ่มทำงานออฟฟิศที่นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ นั่นเอง
สารบัญ
- อาการแบบไหนถึงเรียกว่าปวดหลังเรื้อรัง
- ปวดหลังเรื้อรัง เกิดจากสาเหตุอะไร
- ปวดหลังเรื้อรังแบบไหนที่ควรรีบไปหาหมอ
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ให้ปวดหลัง
อาการแบบไหนถึงเรียกว่าปวดหลังเรื้อรัง
อาการปวดหลังเรื้อรังที่ผิดปกติจากการปวดหลังแบบธรรมดา มักจะขึ้นเกิดขึ้นจากการใช้ชีวิตประจำวันโดยทั่วไปและอาการนี้จะหายได้เอง แต่เมื่อไหร่ที่มีอาการปวดหลังรุนแรงมากขึ้นและไม่หายมากกว่า 90 วัน ให้สันนิษฐานได้เลยว่ามีอาการเข้าขั้นเรื้อรังแล้ว วิธีการสังเกตุอีกแบบหนึ่งที่สามารถจะสังเกตุความแตกต่างของอาการปวดหลังเรื้อรังจากอาการปวดหลังธรรมดาได้ ก็คือให้ดูจากอาการดังต่อไปนี้
วิธีสังเกตอาการปวดหลังเรื้อรัง
- มีอาการปวดหลังถี่มากขึ้นจนเข้าข่ายอาการเรื้อรัง
- มีอาการปวดมากขึ้นรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันจนต้องรับประทานยาแก้ปวดอย่างต่อเนื่อง
- มีอาการปวดบริเวณหลังร้าวไปที่แขนหรือขา
- มีอาการขาอ่อนแรงร่างกายอ่อนเพลีย
- มีอาการปัสสาวะอุจจาระผิดปกติที่ไม่เหมือนเดิม
- รู้สึกเบื่ออาหาร น้ำหนักลดลงและมีไข้เวลากลางคืน
ปวดหลังเรื้อรัง เกิดจากสาเหตุอะไร
ต้นเหตุสำคัญที่เป็นปัญหาหลักของอาการ ปวดหลังเรื้อรัง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับคนนั่งทำงานอย่างพนักงานออฟฟิศตั้งแต่ระดับผู้บริหารจนถึงระดับปฏิบัติงาน รวมถึงบุคคลที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นหลักในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นวัยทำงานหรือวัยเรียน ซึ่งเกิดจากสาเหตุสำคัญดังต่อไปนี้
สาเหตุปวดหลังเรื้อรัง
- กระดูกสันหลังเสื่อม โดยมักจะเกิดกับคนที่มีอายุมาก เพราะข้อกระดูกมีการเสื่อมไปตามวัยนั่นเอง จึงทำให้มีอาการปวดหลังได้บ่อยๆ และปวดแบบเรื้อรังในที่สุด
- กระดูกตรงบริเวณหลัง ที่มีอาการเสื่อมจนทับเส้นประสาทเมื่ออวัยวะของกระดูกสันหลังมีอาการเสื่อมลงเรื่อยๆ จะทำให้อวัยวะของร่างกายมีการปรับตัว จึงมีโอกาสที่จะกดทับเส้นประสาท บริเวณอวัยวะตรงหลังได้แล้วทำให้เกิดอาการปวดหลังอย่างต่อเนื่อง
- อวัยวะตรงหมอนรองกระดูกบริเวณหลัง อาจจะเกิดจากหมอนรองกระดูกมีการเคลื่อนตัวไปทับเส้นประสาทหรือหมอนรองกระดูกตรงบริเวณหลังมีอาการเสื่อมจากการใช้ร่างกายที่หนักจนเกินไป ทำให้มีการอักเสบบริเวณรอบๆ ได้ และเกิดอาการปวดขึ้นมานั่นเอง
- กล้ามเนื้อบริเวณหลังมีอาการอักเสบ ที่เป็นอย่างต่อเนื่องจนเข้าข่ายเรื้อรัง เป็นสาเหตุหนึ่งที่อาจจะเกิดจากการที่มีอวัยวะกล้ามเนื้อ 1 มัดหรือมากกว่านั้นมีอาการอักเสบ ทำให้เกิดอาการปวดร้าวบริเวณหลังได้
ปวดหลังเรื้อรังแบบไหนที่ควรรีบไปหาหมอ
หลังจากที่เราทราบกันไปแล้วว่าอาการปวดหลังเรื้อรังอาการเป็นแบบไหน มีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง ต่อมาเรามาทราบกันต่อว่า สัญญาณอันตรายแบบไหน ที่ควรรีบพาตนเองหาหมอโดยเร็วที่สุด เพื่อรักษาอาการ ปวดหลังเรื้อรัง ให้บรรเทาลงได้ โดยมีสัญญาณอย่างไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ
สัญญาณของอาการปวดหลังเรื้อรัง
- มีอาการปวดหลังนานมากกว่า 90 วันขึ้นไป โดยอาการปวดไม่ลดลงเลย และเพิ่มทวีความรุนแรงความปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ
- อาการปวดหลังร้าวลงไปขา ทำให้เกิดอาการปวดขาร่วมด้วยติดต่อกันนานมากกว่า 14 วัน โดยอาจจะเป็นแค่ข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ ต้องรีบไปหาหมอเพื่อปรึกษาโดยด่วน
- ปวดหลังขนาดที่เมื่อเปลี่ยนอิริยาบถจะทำให้เกิดอาการปวดรุนแรงมาก และในตอนกลางคืนมักจะกระดกข้อเท้าไม่ได้
- รู้สึกกล้ามเนื้อขาอ่อนแรงจนเป็นที่สังเกตได้โดยมีวิธีการสังเกตตรงที่มีขาเล็กลงหรือมีลักษณะขาลีบลง
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ให้ปวดหลังเรื้อรัง
อาการปวดหลัง หรืออาการปวดหลังเรื้อรังสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายกับวัยเรียนและวัยทำงาน และอาการจะรุนแรงมากขึ้นหากไม่ได้รับการรักษา แต่อาการของการปวดหลังเรื้อรังสามารถรักษาได้ง่าย ๆ จากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่าง ๆ ในการใช้ชีวิตประจำวันให้ถูกต้อง โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้
วิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
- การใช้ร่างกายในกิจวัตรประจำวันให้ถูกวิธี และพยายามไม่ยกของที่หนักเกินไป หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำให้มากที่สุด และการนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้แต่เราสามารถใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่มาช่วยพยุงหลังของเราได้ อาจจะมีเบาะพยุงหลัง เบาะรองนั่ง เป็นตัวช่วยในการนั่งทำงานที่จะลดอาการปวดหลังได้ และยังทำให้ไม่เสียบุคลิกภาพอีกด้วย
- ออกกำลังกายดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โดยเฉพาะการเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังอย่างสม่ำเสมอ โดยการเล่นโยคะ พิลาทิสต์ หรือการว่ายน้ำ เป็นต้น
- ควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม เพราะการมีน้ำหนักเยอะเกินไปก็ทำให้ปวดหลังบ่อยได้เช่นกัน
- ยืดกล้ามเนื้อก่อนและหลังการใช้งาน
- เลือกเก้าอี้และเบาะรองนั่งที่เหมาะสมต่อการนั่งทำงานที่สามารถจะช่วยลดอาการปวดหลังได้ ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้มีเก้าอี้สุขภาพให้เลือกมากมายเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีอาการปวดหลังบ่อยๆ
สรุป
โดยส่วนใหญ่ผู้ที่มีอาการ ปวดหลังเรื้อรัง ซึ่งเป็นภาวะที่ทุกคนแทบจะเคยเป็น เพราะมนุษย์เป็นสิ่งที่ดำรงชีวิตโดยมีลำตัวตั้งตรงต่อสู้กับแรงโน้มถ่วงอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้มีลักษณะกล้ามเนื้อและกระดูกสันหลังที่มีถึง 29 ชิ้น ต้องมีการทำงานหนักตลอดเวลา โดยทำให้เกิดอาการปวดหลัง สามารถเกิดได้กับทุกเพศ ทุกวัยได้ทุกวันซึ่งคุณอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงมีอาการปวดหลัง
ในปัจจุบันแพทย์ได้พบว่าผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากภารกิจกิจวัตรประจำวันและพฤติกรรมของการใช้ชีวิตของมนุษย์เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นควรปรับพฤติกรรมของตนเอง และดูแลสุขภาพให้ดี เพื่อจะได้ห่างไกลจากอาการปวดหลังนั่นเอง