บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น “ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้” หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
อาการผิดปกติของดวงตาอย่า “ต้อลม” เป็นอีกหนึ่งอาการของโรคที่ปรากฎกับอวัยวะสำคัญของร่างกายอย่างดวงตา โดยในปกติแล้วเรามักจะได้ยินว่าผู้สูงอายุเท่านั้นที่จะเกิดต้อลมบริเวณดวงตา แล้วต้องเข้ารับการผ่าตัดหรือการลอกดวงตา ในส่วนนี้อาจมีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องปะปนอยู่บ้าง แต่ที่จริงแล้วต้อที่บริเวณดวงตาสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะต้อลม ซึ่งต้อลม อาการอย่างไรเราจะขอกล่าวต่อไปในบทความ
สารบัญ
- ต้อลม อาการเป็นอย่างไร?
- ต้อเนื้อ VS ต้อลม ต่างกันไหม? แล้ว ต้อลม เกิดจากอะไร ?
- ต้อลมรักษาได้ไหม?
- ดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อเป็นต้อลม?
ต้อลม อาการเป็นอย่างไร?
ต้อลม อาการที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกช่วงวัย ไม่ใช่เพียงผู้สูงอายุ และอาการที่ปรากฎในแต่ละท่านจะมากหรือน้อย นั้นขึ้นอยู่กับสภาพดวงตาของท่านนั้น ๆ รวมไปถึงปัจจัยแวดล้อมที่ผู้เป็น ต้อลม ต้องเผชิญในชีวิตแต่ละวันด้วย โดยต้อลม อาการ ที่บ่งบอกว่าคุณอาจเสี่ยงเป็น มีดังนี้
ต้อเนื้อ VS ต้อลม ต่างกันไหม?
แล้ว ต้อลม เกิดจากอะไร ?
ต้อเนื้อ และ ต้อลมจัดเป็นต้อพี่น้องกันเลยก็ว่าได้ ทั้งสาเหตุการเกิด การรักษาที่เหมือนกัน จะแตกต่างกันก็เพียงลักษณะและบริเวณที่เกิดเท่านั้น คือ ต้อลมจะเกิดอาการปรากฎเฉพาะที่เยื่อบุตาขาวเท่านั้น ส่วนต้อเนื้อจะเกิดอาการปรากฎที่ข้างกระจกตาดำด้วย ส่วนใน ต้อลม อาการนั้นเกิดจากสาเหตุที่หลากหลาย ร่วมด้วยปัจจัยที่แตกต่างในแต่ละบุคคล ซึ่งเราได้รวบรวมมาไว้ให้แล้ว ดังนี้
1.อายุที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ดวงตาที่ผ่านการใช้งานอย่างหนักเกิดอาการปรากฎของต้อลมขึ้น
2.ดวงตาเผชิญกับแสงแดด ทั้งส่วนของรังสียูวีเอ และ รังสียูวีบี ในแสงแดด ล้วนเป็นปัจจัยประกอบที่ทำให้เกิดต้อลมขึ้น
3.ดวงตาเผชิญกับฝุ่น โดยมากมักเป็นการเผชิญกับฝุ่นในปริมาณมาก หรือ การเผชิญกับฝุ่นในปริมาณน้อย ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน
4.ดวงตาเผชิญกับสารเคมีบางชนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน สาเหตุหรือปัจจัยในข้อนี้มักเกี่ยวเนื่องกับการประกอบอาชีพ
5.ดวงตาใช้งานอย่างหนัก โดยเฉพาะเมื่อต้องเพ่งกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งติดต่อกันเป็นเวลานาน
6.ดวงตาต้องเผชิญกับแสงสีฟ้า ซึ่งจัดเป็นแสงแห่งเทคโนโลยีที่มีอยู่ในหน้าจอโทรศัพท์มือถือ หน้าจอแท๊ปแล๊ป หรือ หน้าจอโน๊ตบุ๊ค ซึ่งมักเป็นกิจวัตรของคนในยุคนี้
7.ดวงตาเกิดอาการแห้งบ่อยครั้ง มักเกิดจากการที่ใช้สายตาอย่างหนักต่อเนื่องเป็นเวลานาน และ การอยู่สภาพอาการที่แห้งอย่างห้องปรับอากาศจนมีอาการตาแห้ง เป็นต้น
ต้อลม รักษาได้ไหม ?
หากสำรวจตนเองแล้วรู้สึกว่าคุณอาจเป็นกลุ่มเข้าข่ายจะเป็น ต้อลม ก็คงจะมีความคิดหนักใจเพราะกลัวว่าต้อลม อาการจะร้ายแรงและรักษาไม่ได้ แต่อย่าพึ่งเป็นกังวลใจไป เพราะต้อลม อาการเหล่านี้ สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและแผลผ่าตัดขนาดเล็ก โดยวิธีรักษาต้อลม มีดังนี้
1. เข้าพบแพทย์ เมื่อคุณเริ่มสงสัย หรือ มีอาการของต้อลมปรากฎ คุณควรรีบไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสายตา ซึ่งก็คือ จักษุแพทย์โดยด่วน
2. จักษุแพทย์ทำการตรวจประเมิน ส่วนนี้ทางจักษุแพทย์จะใช้เครื่องมือเฉพาะที่เรียกว่า กล้องจุลทรรศน์ Slit-lamp เพื่อทำการตรวจประเมินระดับอาการของต้อลมที่ปรากฎ
3. ต้อลมในระดับที่ไม่รุนแรง เมื่อจักษุแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าอาการต้อลมที่ปรากฎนั้นอยู่ในขั้นที่ไม่รุนแรง ไม่กระทบการมองเห็น หรือ การดำเนินชีวิตประจำวัน จะมีการสั่งจ่ายยาตามอาการที่ปรากฎ คือ
- หากตาเกิดความแห้ง : จักษุแพทย์จะจ่ายน้ำตาเทียม หรือ จ่ายขี้ผึ้ง ให้ใช้กับดวงตา เพื่อให้ดวงตาเกิดความชุ่มชื้น
- หากตาเกิดอาการบวมหรือแดง : จักษุแพทย์จะจ่ายยาหยอดตาเพื่อช่วยลดอาการดังกล่าว ซึ่งมักเป็นยาหยอดตาแบบสเตียรอยด์
4. ต้อลมในระดับที่รุนแรง ในส่วนนี้จักษุแพทย์จะทำการรักษาโดยเริ่มจากการปรึกษากับผู้ป่วย เนื่องจากระดับของต้อลมที่ปรากฎมีความรุนแรงกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน และ อาจนำไปสู่ปัญหาในด้านอื่น ๆ ของดวงตาได้ โดยมากแล้วจักษุแพทย์ก็จะแนะนำวิธีการลอกต้อลมออก ซึ่งเป็นเพียงการผ่าตัดเล็ก เปรียบเหมือนการทำตาสองชั้น ไม่เป็นอันตรายมากนัก สามารถพักฟื้นเป็นหลักชั่วโมงก็กลับไปดูอาการต่อที่บ้าน แล้วมาตรวจติดตามอาการหลังการลอกหรือการผ่าตามรอบที่จักษุแพทย์นัดอีกครั้งหนึ่ง
ดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อเป็นต้อลม ?
หากคุณได้รับการวินิจฉัยจากจักษุแพทย์ว่ามีอาการเป็น ต้อลม แล้ว การปรับตัวสำหรับใช้ชีวิตประจำวันก็จะต้องรัดกุมและระมัดระวังมากขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้ต้อลม อาการแย่ลง บทความนี้จึงรวบรวมสิ่งที่คุณควรพึงปฏิบัติและดูแลตนเองเอาไว้ ดังนี้
1. การหลีกเลี่ยงจากสาเหตุของการเกิด ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญหน้ากับแสงแดด แสงสีฟ้า ฝุ่น หรือ ควัน
2. การสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันดวงตา ยามอยู่ในที่แจ้งเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่แว่นดำเมื่อต้องเผชิญกับแสงแดด หรือ การสวมใส่แว่นกรองแสงสีฟ้าเมื่อต้องทำงานหน้าจอติดต่อกันเป็นเวลานาน
3. หลีกเลี่ยงการขยี้ตา เปลี่ยนเป็นใช้น้ำตาเทียมแทน หากมีอาการระคายเคืองตา หรือตาแห้ง จนกว่าอาการเหล่านั้นจะดีขึ้น โดยเลือกใช้น้ำตาเทียมจากคำแนะนำของจักษุแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น
4. พักสายตาเป็นระยะ หากมีอาการเมื่อยล้าตาและใช้สายตามากเกินไป
5. สังเกตดวงตาเสมอ หากดวงตามีลักษณะผิดปกติ เช่น คัน ระคายเคือง หรือการมองเห็นผิดปกติ จะได้เข้าพบแพทย์ได้อย่างทันท่วงที
6. ตรวจดวงตาอย่างน้อยปีละครั้ง โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 และผู้ที่ในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคต้อเนื้อ ต้อลม ต้อหิน
สรุป
ต้อลม หรือ อาการบริเวณดวงตาที่หลาย ๆ ท่านมองข้าม และ มองว่าเป็นเพียงแค่การระคายเคืองตา หากเพียงลืมตาในน้ำสะอาด หรือ ล้างดวงตาแล้วทิ้งไว้สักพักก็จะหายแล้ว แต่ความจริงที่ว่าต้อลม อาการที่ปรากฎนั้นไม่เพียงไม่สามารถหายได้เอง ในบางครั้งอาการที่ปรากฎก็จะเกิดการสะสม และสร้างเสียหายมาสู่ดวงตา ซึ่งคุณเองก็ควรรีบเข้ารับการรักษาจากจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างทันท่วงที