บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้ หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
เบาหวานเป็นโรคที่พบได้บ่อย และสถิติผู้ป่วยโรคเบาหวานในประเทศไทย ก็มีการเพิ่มจำนวนขึ้นทุกวัน มีการสำรวจว่า มีประชากรไทยมากกว่า 3 ล้านคนที่เป็นเบาหวาน ซึ่งโรคดังกล่าว เป็นโรคที่ทำให้เกิดความผิดปกติกับเนื้อเยื่อ และ อวัยวะในร่างกาย รวมถึงดวงตา ซึ่งเรามักเรียกกันว่า โรคเบาหวานขึ้นตา นั่นเอง บทความนี้มาข้อควรรู้เกี่ยวกับ เบาหวานขึ้นตา มาฝากกันค่ะ
สารบัญ
- สังเกตได้อย่างไรว่าเป็นเบาหวานขึ้นตา
- เบาหวานขึ้นตาเกิดจากสาเหตุอะไร?
- หากเป็นเบาหวานขึ้นตารักษาให้หายได้ไหม?
- วิธีป้องกันโรคเบาหวานขึ้นตา
สังเกตได้อย่างไรว่าเป็น เบาหวานขึ้นตา
เบาหวานขึ้นตา หรือ Diabetic Retinopathy เป็นภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน เกิดจากการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน ทำให้เส้นเลือดที่จอประสาทตา (Retina) ได้รับความเสียหายจากน้ำตาลอุดตัน ทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ตามปกติ ในช่วงแรกอาจไม่พบอาการ หรือมีการมองเห็นผิดปกติเพียงเล็กน้อย แต่หากปล่อยไว้ และไม่รับการรักษา จนมีอาการรุนแรง อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ในที่สุด
ในระยะแรกของโรคเบาหวานขึ้นตา อาจจะยังไม่พบอาการ หรือความผิดปกติในการมองเห็น แต่เมื่อมีความรุนแรงมากขึ้น
ข้อสังเกตอาการเบาหวานขึ้นตา
- มองเห็นจุด หรือเส้นสีดำคล้ายหยากไย่ลอยไปมา
- มองเห็นภาพบิดเบี้ยว
- ตามัว การมองเห็นแย่ลง สายตาไม่คงที่
- แยกแยะสีได้ยากขึ้น
- ภาพที่มองเห็นมืดเป็นแถบ ๆ
- สูญเสียการมองเห็น
ภาวะแทรกซ้อนของเบาหวานขึ้นตา
- เลือดออกในวุ้นตา
อาจทำให้ผู้ป่วยมองเห็นเป็นจุดสีดำลอยไปมา แต่หากมีเลือดซึมออกจากตามาในปริมาณมาก อาจบังการมองเห็นทั้งหมดได้ โดยปกติแล้วผู้ป่วยที่มีเลือดออกในวุ้นตา จะไม่สูญเสียการมองเห็นแบบถาวร อาจใช้เวลาในการกำจัดเลือดออกจากวุ้นตาประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ หรือไม่กี่เดือน ผู้ป่วยก็อาจกลับมามองเห็นได้อย่างชัดเจน - จอตาลอก
เป็นผลมาจากแผลเป็นที่เกิดขึ้นนั้น ดึงจอตาให้หลุดลอกออกจากด้านหลังของดวงตา ซึ่งอาจทำให้เกิดจุดดำลอยไปมาในเวลามองสิ่งต่าง ๆ มองเห็นแสงวาบ หรือสูญเสียการมองเห็นขั้นรุนแรง - ต้อหิน
เป็นผลมาจากกลุ่มเส้นเลือดใหม่ ที่อาจเกิดขึ้นบริเวณด้านหน้าของดวงตา และไปแทรกแซงการระบายน้ำออกจากลูกตา ส่งผลให้ความดันตาสูงขึ้น เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาท ที่ทำหน้าที่ส่งภาพจากดวงตาไปยังสมอง - สูญเสียการมองเห็น
ภาวะเบาหวานขึ้นตา หรือต้อหิน สุดท้ายแล้วอาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นได้
เบาหวานขึ้นตา เกิดจากสาเหตุอะไร?
เบาหวานขึ้นตา เกิดจากการมีระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นเป็นเวลานาน ส่งผลให้เส้นเลือดฝอยที่ไปหล่อเลี้ยงจอตา โป่งพองเป็นหย่อม ๆ จากผนังหลอดเลือดผิดปกติ ทำให้เลือด และน้ำเหลืองซึมออกมาจากหลอดเลือด กระจายทั่วจอประสาทตา
นอกจากนี้ เส้นเลือดใหญ่ที่จอตา จะเริ่มขยายตัวใหญ่ขึ้นผิดปกติ รวมถึงเส้นใยประสาทของจอตา และจุดภาพชัด (Macula) อาจเริ่มมีอาการบวม ในระยะเริ่มแรก อาจมีอาการเพียงเล็กน้อย แต่หากมีการอุดตันของเส้นเลือดที่เพิ่มมากขึ้น อาจทำให้มีอาการรุนแรงได้
เมื่อหลอดเลือดที่จอประสาทตาเสียหาย ร่างกายก็จะสร้างหลอดเลือดใหม่มาทดแทน แต่หลอดเลือดที่สร้างใหม่ มีผนังไม่แข็งแรง ฉีกขาดได้ง่าย ทำให้มีเลือดรั่วซึมออกมาที่บริเวณวุ้นตา และอาจทำให้เกิดแผลเป็น ซึ่งเป็นสาเหตุให้จอตาลอกออกจากด้านหลังของดวงตา หรือถ้าหากเส้นเลือดใหม่ที่เกิดขึ้น ไปแทรกแซงการระบายน้ำออกจากลูกตา ส่งผลให้ความดันตาสูงขึ้น เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาท ที่ทำหน้าที่ส่งภาพจากดวงตาไปยังสมอง และเป็นสาเหตุให้เกิดโรคต้อหินได้
มีปัจจัยมากมายที่เพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคบาหวานขึ้นตา เช่น ระยะเวลาของการเป็นโรคเบาหวาน ยิ่งเป็นนานก็ยิ่งมีความเสี่ยงสูง การไม่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง มีพฤติกรรมการสูบบุหรี่ หรืออยู่ในช่วงตั้งครรภ์ เป็นต้น
หากเป็น เบาหวานขึ้นตา รักษาให้หายได้ไหม?
เบาหวานขึ้นตาสามารถรักษาได้ค่ะ โดยที่การรักษา มีจุดประสงค์เพื่อชะลอ หรือยับยั้งอาการต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยวิธีการรักษา จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิด และความรุนแรงของอาการ
- การรักษาเบาหวานขึ้นตาระยะเริ่มแรก ซึ่งเป็นระยะที่ยังไม่มีเส้นเลือดเกิดใหม่ หากมีอาการเพียงเล็กน้อย จนถึงอาการในระดับปานกลาง อาจยังไม่จำเป็นต้องรักษาในทันที แต่แพทย์จะคอยสังเกตอาการ หรือความผิดปกติของดวงตาอย่างใกล้ชิด ในระยะนี้ ผู้ป่วยอาจต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อยับยั้งไม่ให้อาการลุกลาม
- การรักษาเบาหวานขึ้นตาระยะก้าวหน้า ซึ่งเป็นระยะที่มีเส้นเลือดเกิดใหม่ ในระยะนี้ผู้ป่วยอาจต้องรักษาด้วยเลเซอร์ หรือผ่าตัด ซึ่งวิธีการก็จะแตกต่างกันออกไป โดยขึ้นอยู่กับแต่ละปัญหาของจอตา
วิธีป้องกันโรคเบาหวานขึ้นตา
เบาหวานขึ้นตาเป็นอาการที่น่ากลัวมากนะคะ เพราะอาจทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ ทางที่ดี ควรจะป้องกันโรคนี้ไว้ก่อนดีกว่าปล่อยให้เกิดขึ้นค่ะ
1.เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดอาหารที่มีรสเค็ม หวาน และมีไขมันสูง
2.ออกกำลังกายเป็นประจำ ควบคุมน้ำหนักโดยให้มีค่าดัชนีมวลร่างกาย (BMI) อยู่ที่ระหว่าง 18.5 – 24.9
3.เลิกสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
4.รับประทานยารักษาเบาหวาน ตามกำหนดที่แพทย์สั่ง
5.ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด อาจจะใช้ เครื่องวัดน้ำตาล เป็นตัวช่วยควบคุม
6.ควบคุมระดับความดัน โดยที่ระดับความดันโลหิตของผู้ป่วยเบาหวาน ไม่ควรเกิน 140/90 มิลลิเมตรปรอท (mmHg)
7.ควบคุมระดับไขมันในเลือด ผู้ป่วยเบาหวาน ควรมีระดับไขมันในเลือด ไม่เกินกว่าค่าปกติ
8.สังเกตความเปลี่ยนแปลง ของการมองเห็น และควรไปพบแพทย์โดยด่วน หากพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของการมองเห็นอย่างฉับพลัน เช่น ตามัว มองไม่ชัด หรือมองเห็นเป็นจุดดำ เป็นต้น
9.ผู้ป่วยเบาหวาน ควรไปพบจักษุแพทย์ เพื่อตรวจตาเป็นประจำทุกปี ถึงแม้ว่า การมองเห็นจะยังคงเป็นปกติก็ตาม
10.ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะการตั้งครรภ์ อาจทำให้อาการต่าง ๆ ของเบาหวานขึ้นตา รุนแรงขึ้นได้ ควรตรวจตาทันทีที่ตั้งครรภ์ หรือใน 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์
สรุป
โรคเบาหวานขึ้นตา เป็นอีกหนึ่งภัยร้ายที่ควรระวัง เพราะการมองเห็นของมนุษย์ เป็นเรื่องสำคัญ ฉะนั้นการมองข้ามความเสี่ยงก็ไม่คุ้มกับการสูญเสียการมองเห็นภายหลังนะคะ ดังนั้น แม้จะยังไม่เสี่ยง แต่ก็ควรป้องกันไว้ดีกว่านะคะ เรื่องสำคัญที่สุด คือ การหมั่นสังเกต อาการตนเอง และควรตรวจสุขภาพ เป็นประจำนะคะ