บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น “ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้” หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
หนุ่มสาวที่ทำงานในออฟฟิศมักจะมีอาการปวดตาจากการจ้องคอม ด้วยการทำงานที่ต้องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน จึงทำให้ดวงตาล้าและเกิดอาการปวดได้ ซึ่งปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่มีการทำงานที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์มากขึ้น นอกจากจะมีจอคอมพิวเตอร์เป็นสาเหตุหลักของโรคดังกล่าวแล้ว ยังมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ต หรือโทรศัพท์มือถือ ก็สามารถทำให้เกิดอาการปวดตาได้เช่นกัน
สารบัญ
- รู้จักภาวะ cvs ปวดตาจากการจ้องคอมนานของชาวออฟฟิศ
- อาการที่บ่งบอกว่าคุณมีภาวะ cvs
- วิธีแก้อาการปวดตา จากการจ้องคอมเป็นเวลานาน
รู้จักภาวะ cvs ปวดตาจากการจ้องคอมนานของชาวออฟฟิศ
โรคซีวีเอส เป็นโรคที่มีสภาวะจากการเพ่งเล็งจ้องคอมพิวเตอร์ที่นานจนเกินไป เป็นอาการที่พบได้บ่อยสำหรับคนที่ทำงานอยู่บนหน้าจอที่มีแสงกระทบกับดวงตา ไม่ว่าจะเป็นจอคอมพิวเตอร์ จอโทรศัพท์มือถือ หรือจอเครื่องมืออุปกรณ์อื่นๆโรค cvs ส่งผลกระทบต่ออาการบริเวณรอบดวงตา มีลักษณะ จ้องคอมนานๆ จนปวดตา
อาการปวดตาแสบตาตามัวและบางครั้งอาจจะมีอาการที่ปวดหัวร่วมด้วย โดยอาการของโรคนี้จะมีอาการที่หนักมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีการจ้องสายตาไปที่จออุปกรณ์ IT ที่มีแสงมากระทบเป็นระยะเวลานานอย่างต่อเนื่อง โดยสาเหตุหลักที่ทำให้มีอาการ ปวดตาจากการจ้องคอม พบได้จากลักษณะของบุคคลที่ปฏิบัติตัวดังนี้
สาเหตุของการปวดตาจากการจ้องคอม
- การเพ่งสายตาไปที่คอมพิวเตอร์หรือตั้งใจทำบางสิ่งบางอย่างเป็นเวลานาน ๆ ประกอบกับอยู่ในห้องแอร์ การกระพริบตาน้อยลง ทำให้ตาเริ่มแห้งก่อให้เกิดอาการแสบตา จนมีความรู้สึกว่าตาแห้ง และรู้สึกเหมือนมีเม็ดทรายในตา
- แสงที่จ้าเกินไปของหน้าจอคอมพิวเตอร์ เมื่อกระทบกับดวงตานานๆ ก็จะทำให้เกิดอาการปวดตาได้
- แสงสว่างภายในห้องไม่เหมาะสม ส่งผลให้สายตาเสียได้เช่นกัน
- สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งนอกจากจะเป็นแสงที่อยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้ว ยังมีสาเหตุมาจากตัวอักษรที่ไม่มีความคมชัดในจอคอมพิวเตอร์ที่ส่งผลต่อการโฟกัสของคนใช้งานคอม ก็อาจจะทำให้ผู้ใช้งานต้องเพ่งเล็งใช้ดวงตาหนักเกินไป เป็นสาเหตุของดวงตาที่เกิดอาการเมื่อยล้าได้
- การจัดตำแหน่งระหว่างตัวบุคคลที่ใช้งานคอมพิวเตอร์และระหว่างเครื่องมืออุปกรณ์ในการใช้งานที่ไม่สมดุลกัน
- ท่าทางในการทำงานที่ไม่เหมาะสม ซึ่งนอกจากจะทำให้ปวดตาแล้ว ยังอาจมีอาการปวดหลัง ปวดบ่า ไหล่ ตามมาอีกด้วย
- ระดับสายตาในการจ้องมองคอมพิวเตอร์ อยู่ในระดับที่ไม่เหมาะสมก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ
อาการที่บ่งบอกว่าคุณมีภาวะ cvs ปวดตาจากการจ้องคอม
เมื่อเราต้องทำงานที่ต้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าจอโน้ตบุค หรือแม่แต่หน้าจอโทรศัพท์นั้น ก็ย่อมเริ่มมีอาการปวดตา ล้าตา โดยรวมส่วนใหญ่ที่พบได้ในบุคคลที่มี ภาวะ cvs หรือมีอาการปวดตาจากการจ้องคอม เป็นเวลานานๆ จะมีลักษณะอาการดังนี้
อาการปวดตาจากการจ้องคอม
- ตามีอาการเมื่อยล้า
- ตาแห้ง แสบตา และมีอาการระคายเคือง
- ตาไม่สามารถที่จะสู้แสงได้หรือสู้แสงได้น้อยลง
- มีลักษณะอาการตาพร่ามัว
- ปวดศีรษะ
- โฟกัสได้ช้าลง
วิธีแก้อาการปวดตาจากการจ้องคอมเป็นเวลานาน
หนุ่ม ๆ สาว ๆ คนไหนที่มักจะมีอาการปวดตาจากการจ้องคอมอยู่บ่อยๆ กันบ้างคะ วันนี้เรามีวิธีที่สามารถช่วยลดอาการปวดตาที่จะเกิดจากการจ้องคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือนาน ๆ มาฝากทุกคนกันค่ะ เพียงทำตามวิธีแก้อาการปวดตา ดังต่อไปนี้ได้เลยค่ะ
วิธีแก้อาการปวดตา
- ควรจับเวลาในการใช้งานบนหน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ไอทีที่มีแสงสว่างผ่านหน้าจอ ไม่ควรที่จะใช้เวลานานมากกว่า 30 นาที เมื่อถึงเวลาก็ควรหยุดพักและใช้สายตามองไปทางอื่น โดยมองออกไปในทิศทางที่ไกล เพื่อผ่อนคลายสายตา ทำให้ตารู้สึกได้ผ่อนคลายและพยายามกระพริบตาให้ดีมากยิ่งขึ้นก็สามารถที่จะช่วยลดอาการปวดตาได้
- ลองหาแว่นตาที่ช่วยกรองแสงคอมพิวเตอร์ได้ เพราะสามารถช่วยลดแสงที่ส่องเข้าสู่ดวงตา ทำให้รู้สึกสบายตามากยิ่งขึ้น
- ลดระดับแสงสว่างหน้าจอคอมพิวเตอร์ลงให้พอดีกับการใช้งาน
- เมื่อมีการใช้คอมพิวเตอร์นานๆ ก็อาจจะทำให้รู้สึกมีอาการตาแห้งเกิดขึ้นได้ ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ก็สามารถที่จะพกน้ำตาเทียมไปหยอดตา เพื่อรักษาอาการแสบตาหรืออาการตาแห้งได้นั่นเอง
- การผ่อนคลายกล้ามเนื้อดวงตา ด้วยการนวดผ่อนคลายกดตรงที่ดวงตาเบาๆ ก็สามารถที่จะบรรเทาอาการได้การประคบเย็นในเบื้องต้นสามารถที่จะลดอาการปวดตาและการประคบน้ำอุ่นในระยะหลังเพื่อให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ก็จะทำให้ดวงตาเกิดความผ่อนคลายได้เช่นกัน
- จัดท่านั่งให้สมดุลกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการทำงาน ควรจะปรับเก้าอี้ และจัดให้มีเบาะรองนั่ง ที่จะช่วยจัดท่านั่งในการทำงานได้ถูกต้อง จะช่วยลดอาการปวดตาได้มากขึ้น
สรุป
ถึงแม้อาการปวดตาจากการจ้องคอมจะดูไม่รุนแรง แต่เมื่อเป็นบ่อย ๆ ก็อาจจะมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันในการทำงานได้ เพราะเมื่อคุณมีอาการปวดตาในขณะที่คุณมีอาการ คุณก็ไม่สามารถที่จะทำงานได้ อาจจะส่งผลกระทบเมื่อมีเวลางานด่วนที่จะต้องใช้คอมพิวเตอร์ คุณก็อาจที่จะรู้สึกลำบากในการทำงานจนต้องหลับตาเพื่อผ่อนคลายและพยายามหาวิธีรักษาที่ถูกต้อง
เมื่ออาการดีขึ้นแล้ว ถึงจะกลับมาใช้งานกับคอมพิวเตอร์ได้ เพราะฉะนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดที่จะไม่ให้เกิดอาการปวดตา ควรใช้งานคอมพิวเตอร์ให้ถูกวิธี อย่าชะล่าใจจนเกินไป เพราะดวงตาคือสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวันของทุกคน