10 โรคที่เกิดจากการทำงานออฟฟิศ ไม่อยากเสี่ยงชีวิตต้องปรับพฤติกรรม!

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้ หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย

         เชื่อว่าชาวออฟฟิศหลายคน คงมีปัญหาสุขภาพออด ๆ แอด ๆ มากมาย ซึ่งหลายคนคิดว่าเป็นเรื่องปกติ แต่จริง ๆ แล้วอาการพวกนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้าย บทความนี้ เลยจะพาทุกคน ไปรู้จักกับ 10 โรคที่เกิดจากการทำงานออฟฟิศ เพื่อที่คุณจะได้สังเกตอาการผิดปกติ รวมทั้งระมัดระวังและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อไม่ให้เกิดโรคร้ายเหล่านี้ค่ะ

สารบัญ

• 10 โรคที่เกิดจากการทำงานออฟฟิศ
• ไอเทมเพื่อสุขภาพ ที่ชาวออฟฟิศต้องมี!!

10 โรคที่เกิดจากการทำงานออฟฟิศ

         ชาวออฟฟิศ เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่มักเป็นเป้าหมายของโรคร้าย เนื่องจากพฤติกรรมในการทำงานและการใช้ชีวิตระหว่างทำงานนั้น ไม่ว่าจะการทำงานแข่งกับเวลา จนพาลให้ติดรีบกิน รีบใช้ชีวิต พักผ่อนไม่เพียงพอ จนพาลทำให้เสียสุขภาพ จึงทำให้โรคร้ายยกโขยงกันมาเยือน ไปดูกันว่ามีโรคอะไรที่ชาวออฟฟิศมักเจอและต้องระวังค่ะ

1. โรคออฟฟิศซินโดรม

         แค่ชื่อโรคก็บ่งบอกเลยว่า กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ของโรคนี้คือชาวออฟฟิศค่ะ โรคออฟฟิศซินโดรม คือ อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เนื่องจากการใช้งานกล้ามเนื้อมัดเดิมในรูปแบบเดิมซ้ำ ๆ ส่งผลทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการหดเกร็ง รวมทั้งกล้ามเนื้อบางส่วนถูกยืดค้างอยู่ในท่าเดิม จึงก่อให้เกิดอาการปวด ชา หรือกล้ามเนื้ออักเสบตามร่างกายแบบเรื้อรัง โดยเฉพาะคอ บ่า เอว หลัง ข้อมือ และนิ้วมือ (โรคนิ้วล็อก)

         ด้วยพฤติกรรมการทำงานของชาวออฟฟิศที่ต้องนั่งท่าเดิมตลอดทั้งวัน ติดต่อกันหลายชั่วโมง โดยไม่ได้ลุกหรือขยับ ต้องพิมพ์งาน-ใช้เมาส์ตลอดทั้งวัน รวมทั้งนั่งทำงานในท่าทางผิด ๆ ชาวออฟฟิศหลายคนจึงมักมีอาการปวดหลังเรื้อรัง ปวดนิ้วมือ-ข้อมือ ตึงบ่า ฯลฯ หากคุณมีอาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคออฟฟิศซินโดรมก็ได้ค่ะ

อาการออฟฟิศซินโดรม โรคยอดฮิตของพนักงานออฟฟิศที่ไม่ควรมองข้าม!

2. โรค CVS (Computer Vision Syndrome)

         เชื่อว่าชาวออฟฟิศเกือบทุกคนที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงาน มักมีปัญหาสายตาเป็นประจำ ไม่ว่าจะปวดตา ตาแห้ง สายตาพร่า โฟกัสได้ช้าลง ฯลฯ ปัญหาสายตาเหล่านี้ เราเรียกรวมกันว่าโรค CVS ค่ะ หรือก็คือโรคสายตาที่มาจากการใช้คอมพิวเตอร์นั่นเองค่ะ ซึ่งอาการอาจจะดูเหมือนไม่ร้ายแรง แต่หากปล่อยไว้อาจทำให้สายตาสั้น กระจกตาอักเสบ หรืออาจกลายเป็นโรคต้อหิน ที่อาจทำให้ตาบอดได้เลยล่ะค่ะ

3. โรคเครียด

         ปัญหาหลัก ๆ ของวัยทำงานคือเรื่องความเครียดเลยค่ะ เพราะการทำงานต้องเจอทั้งความกดดันและปัญหาต่าง ๆ ซึ่งความเครียดทั่วไปมักจะทำให้เกิดอาการปวดหัว เบื่อหน่าย แต่พอได้ทำกิจกรรมที่ชอบหรือกลับมาพักผ่อน ความเครียดเหล่านั้นก็จะหายไปค่ะ

         แต่สำหรับคนที่เข้าขั้นเป็นโรคเครียดเรื้อรังจนต้องไปพบแพทย์ คือ คนที่มีความเครียดสูงจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ นอนไม่หลับ กินข้าวไม่ได้ เห็นภาพหลอนหรือฝันร้าย เริ่มมีอารมณ์โมโหก้าวร้าว เรียกได้ว่าส่งผลกระทบทั้งร่างกายและจิตใจ อีกทั้งความเครียดเหล่านี้อาจทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ และโรคอื่น ๆ ตามมาอีกเป็นขบวนเลยล่ะค่ะ ดังนั้น หากพบว่าตัวเองมีสัญญาณของโรคเครียด ควรรีบไปหาหมอด่วนเลยค่ะ

4. โรคไมเกรน

         เรียกได้ว่าเป็นโรคยอดฮิตของชาวออฟฟิศอีกหนึ่งโรคเลยก็ว่าได้ สังเกตสัญญาณของโรคได้จากการปวดหัวเรื้อรัง ในลักษณะปวดตุบ ๆ ข้างเดียว และมักตามมาด้วยอาการไม่พึงประสงค์ เช่น คลื่นไส้อาเจียน ตาไม่สู้แสง ทนเสียงดัง ๆ ไม่ได้

         เนื่องจากชาวออฟฟิศ มักต้องใช้สมองมาก ๆ จนก่อให้เกิดความเครียดสะสม พักผ่อนไม่เพียงพอ สภาพแวดล้อมในการทำงานไม่เหมาะสม เช่น แสงจ้าเกินไป เสียงดังเกินไป ร้อนเกินไป ฯลฯ รวมทั้งในระหว่างทำงานอาจนั่งในท่าทางที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดอาการเกร็งตัว คอ บ่า หรือไหล่ ส่งผลให้เลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่พอ จนทำเกิดโรคไมเกรนได้นั่นเองค่ะ

เช็กลิสต์ 5 อาการ “ปวดหัวไมเกรน” ปวดหัวข้างเดียว ใช่ไมเกรนหรือเปล่า?

5. โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

         เชื่อว่าชาวออฟฟิศหลายคนมักมีงานเยอะหรืองานด่วนเข้ามาเป็นประจำ พอต้องทำงานแข่งกับเวลา ทำให้แม้แต่เวลาที่จะปลีกตัวไปเข้าห้องน้ำก็แทบไม่มี ต้องอดทนกลั้นปัสสาวะเอาไว้ตลอดทั้งวัน แต่รู้หรือไม่คะว่า พอทำแบบนี้บ่อย ๆ เข้า อาจทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินปัสสาวะ ส่งผลให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบได้

        ใครที่มีพฤติกรรมชอบกลั้นปัสสาวะ แล้วพบว่ามีอาการปัสสาวะกะปริบกะปรอย ปัสสาวะบ่อย-ถี่ รู้สึกถ่ายปัสสาวะไม่สุด ปวดแสบขณะปัสสาวะ หรือในบางครั้งก็มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะด้วย นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบก็ได้ค่ะ

6. โรคอ้วน

         ถ้าพูดถึงพฤติกรรมการกินของชาวออฟฟิศ มักเป็นเรื่องการกินจุกจิก กินไปทำงานไป ทั้งขนม ของหวาน ชาไข่มุก น้ำอัดลม แถมยิ่งเครียดก็ยิ่งกินเยอะขึ้น แถมยังไม่ออกกำลังกาย เพราะไม่ค่อยมีเวลาว่างอีก จึงทำให้ชาวออฟฟิศเสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้ง่าย (BMI เกิน 25 ขึ้นไป) ซึ่งบอกเลยว่าโรคอ้วนไม่ได้เกี่ยวกับความสวยงามอย่างเดียว แต่ยังเป็นบ่อเกิดของโรคอื่น ๆ ตามมาอีกมากมายเลยค่ะ

กินเค็ม กินหวาน กินมัน พฤติกรรมเสี่ยงโรคร้าย อาจตายไม่รู้ตัว!

7. กรดไหลย้อน

          ต้องบอกเลยว่าชาวออฟฟิศคือเป้าหมายของโรคกรดไหลย้อนเลยล่ะค่ะ ทั้งการกินอาหารไม่เป็นเวลา เคี้ยวอาหารไม่ละเอียดเพราะต้องรีบกินแข่งกับเวลา ความเครียดสะสม รวมทั้งออฟฟิศที่ชอบปาร์ตี้สังสรรค์กินเลี้ยงบ่อย ทั้งของมัน ของทอด น้ำอัดลม รวมทั้งเหล้า-บุหรี่ เหล่านี้คือปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อนทั้งสิ้นเลยค่ะ

         กรดไหลย้อน คือ ภาวะที่น้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ไหลย้อนกลับขึ้นมาทางหลอดอาหาร ทำให้หลอดอาหาร และอวัยวะทางช่องคอ เกิดการระคายเคือง ก่อให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก เรอมีกลิ่นเปรี้ยว จุกเสียดแน่นท้อง หากปล่อยไว้ในอนาคตจะยิ่งเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งหลอดอาหารได้เลยล่ะค่ะ

บอกลา อาการกรดไหลย้อน แบบไม่ย้อนกลับมาเป็นอีก! ด้วย 10 วิธีง่าย ๆ ไม่ว่าใครก็ทำได้!

8. โรคเบาหวาน

         สำหรับใครที่เป็นสายติดหวาน ไม่ว่าจะชานมไข่มุก ชาเขียว น้ำอัดลม หรือแม้กระทั่งกาแฟ (ที่ใส่น้ำตาล) ในหนึ่งวันกินไม่ต่ำกว่าหนึ่งแก้ว บางคนกินน้ำหวานติดต่อกันทุกวัน รู้หรือไม่คะว่า แต่ละแก้วนั้นมีน้ำตาลสูงมาก ซึ่งทำให้น้ำตาลในเลือดสูงปรี๊ด จนเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานสูงมาก ไม่เพียงแต่ของหวานเท่านั้นนะคะ ของเค็มจัดและของมันของทอด ก็มีส่วนที่ทำให้เป็นโรคอ้วน จนนำไปสู่โรคเบาหวานได้ด้วยค่ะ

         นอกจากเรื่องการกินแล้ว การไม่ออกกำลังกาย ปล่อยให้น้ำหนักเกิน ดื่มเหล้า-สูบบุหรี่บ่อย ก็มีส่วนที่ทำให้เป็นเบาหวานเช่นกัน ใครที่มีอาการปัสสาวะบ่อย กินเยอะแต่น้ำหนักลด การมองเห็นแย่ลง รู้สึกเหนื่อยง่าย เพลียบ่อย เริ่มชาตามปลายมือปลายเท้า นี่อาจเป็นสัญญาณของโรคเบาหวานได้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยด่วนเลยค่ะ

โรคเบาหวาน สาเหตุ เกิดจากอะไร? กินของหวาน เสี่ยงเป็นเบาหวานจริงหรือไม่?

9. โรคความดันโลหิตสูง

         โรคความดันโลหิตสูง คือ ภาวะที่แรงดันของเลือดที่มีต่อผนังเลือดสูง จนส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบร่างกาย เสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ชาวออฟฟิศก็เป็นหนึ่งกลุ่มเสี่ยงของโรคความดันสูง เพราะต้องนั่งทำงานนาน ๆ ไม่ค่อยได้ขยับตัว หรือออกกำลังกาย อีกทั้งพฤติกรรมการกินผิด ๆ รวมทั้งความเครียดสะสม ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ชาวออฟฟิศมักเป็นโรคความดันสูงค่ะ

         โรคความดันโลหิตสูง นับเป็นโรคหนึ่งที่น่ากลัวสำหรับชาวออฟฟิศเลยค่ะ เพราะมักจะไม่แสดงอาการผิดปกติอะไรออกมาให้เราได้สังเกต แต่จะทำร้ายระบบภายในไปเรื่อย ๆ จนทำให้เกิดโรคร้ายต่าง ๆ รู้ตัวอีกทีก็เข้าโรงพยาบาลซะแล้ว ทางเดียวที่จะรู้ได้ก็ต้องใช้เครื่องวัดความดันเท่านั้นค่ะ

ความดันต่ำ – ความดันสูง ภัยเงียบตัวร้ายที่คุณควรระวัง

10. โรคหัวใจ

         ชาวออฟฟิศส่วนใหญ่มักทำงานหนัก พักผ่อนน้อย เวลาทำงานก็มักนั่งติดโต๊ะ ไม่ค่อยได้ลุกเดิน และไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย รวมทั้งพฤติกรรมการกินก็ยังเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดโรคร้ายต่าง ๆ รวมทั้งโรคหัวใจด้วย นอกจากนี้โรคบางอย่างก็ก่อให้เกิดโรคหัวใจ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต โรคไขมันในเลือดสูง ดังนั้น โรคหัวใจจึงเป็นอีกหนึ่งโรคที่ชาวออฟฟิศไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ

อาการของโรคหัวใจ ความรุนแรงที่อาจนำไปสู่การเสียชีวิตแบบฉับพลัน

ไอเทมเพื่อสุขภาพ ที่ชาวออฟฟิศต้องมี!!

          เมื่อทราบแล้วว่าปัจจัยใดบ้างที่ก่อให้เกิดโรคร้าย ฉะนั้น ต้องพยายามหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวันนะคะ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัจจัยบางอย่างเป็นเรื่องที่ยากจะแก้ไข เช่น การต้องนั่งทำงานนาน ๆ ไม่สามารถลุกได้บ่อย หรือบางคนเป็นโรคที่เกิดจากการทำงานออฟฟิศไปแล้ว บทความนี้จึงขอแนะนำ ไอเทมเพื่อสุขภาพ ที่จะเข้ามาช่วยชาวออฟฟิศกันค่ะ

• เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพ

เบาะโฟมรองนั่งเพื่อสุขภาพ ALLWELL รุ่น DYNA-TEK PROFILE ช่วยปรับการนั่งและช่วยซัพพอร์ตส่วนต้นขา นั่งสบาย ไม่อับชื้น

         อย่างที่ทราบกันดีว่า การนั่งทำงานในท่าทางที่ไม่เหมาะสม คือปัจจัยหลักที่ทำให้หลาย ๆ โรคตามมา ไม่ว่าจะโรคออฟฟิศซินโดรม โรค CVS (นั่งในระยะที่ไม่ถูกต้อง) หรืออาการปวด-เคล็ดตามร่างกาย ซึ่งนอกจากจะทำงานทรมานแล้ว ยังทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงด้วยค่ะ

         การใช้เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพ จะช่วยจัดท่านั่งในการทำงานให้เหมาะสม และช่วยกระจายแรงกดทับเวลาจากการนั่งทำงานท่าเดิมนาน ๆ จึงลดอาการปวดก้น หลัง เอวขณะทำงานค่ะ ชาวออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานนาน ๆ เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพนับเป็นไอเทมที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ

• อุปกรณ์ซัพพอร์ตและพยุงร่างกาย

อุปกรณ์ซัพพอร์ตและพยุงร่างกาย VANTELIN จากประเทศญี่ปุ่น ดูแลและป้องกันกล้ามเนื้อจากอาการปวดเมื่อยล้า สวมใส่ง่าย มีทั้งส่วนหลัง หัวเข่า ข้อมือ ข้อศอก และข้อเท้า

         ชาวออฟฟิศส่วนใหญ่ มักจะใช้กล้ามเนื้อในส่วนเดิมซ้ำ ๆ เช่น การจับเมาส์ พิมพ์เอกสาร การนั่งทำงานในท่าเดิมนาน ๆ การเดินขึ้นลงบันได ฯลฯ จึงเป็นเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดเคล็ดตามร่างกายส่วนต่าง ๆ ยิ่งนาน ๆ เข้าอาจทำให้กล้ามเนื้ออักเสบได้เลยค่ะ

         อุปกรณ์ซัพพอร์ตและพยุงร่างกายในส่วนต่าง ๆ จะช่วยดูแลและป้องกันกล้ามเนื้อให้เหมาะสมกับกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะเอว หลัง ข้อมือ ข้อเท้า และหัวเข่าค่ะ ทำให้สามารถทำงานและกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่ ช่วยเซฟร่างกายได้มากขึ้นนั่นเองค่ะ

• โต๊ะคร่อมเตียง

โต๊ะคร่อมเตียง ALLWELL ปรับระดับและพับเก็บได้ อำนวยความสะดวกในการ นั่งรับประทานอาหาร อ่านหนังสือ หรือทำงาน

         ไอเทมชิ้นนี้จะเหมาะสำหรับชาวออฟฟิศหรือชาวฟรีแลนซ์ที่ต้อง Work From Home อยู่บ้านด้วยโน้ตบุ๊ก โดยเฉพาะใครที่อยู่หอหรือคอนโดที่ห้องเล็ก ๆ ไม่มีโต๊ะสำหรับนั่งทำงานที่เป็นกิจจะลักษณะ ทำให้ต้องหอบโน้ตบุ๊กขึ้นมาทำงานบนเตียงตลอด ซึ่งการทำงานในลักษณะกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง หรือบางคนนอนทำงานไปเลย นับเป็นการทรมานร่างกายยิ่งกว่าการนั่งทำงานด้วยท่าทางผิด ๆ อีกนะคะ

         แต่ด้วยพื้นที่จำกัด การจะหาโต๊ะทำงานซักตัวมาตั้งก็อาจจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก จะดีกว่ามั้ยถ้าเราสามารถนั่งทำงานบนเตียงได้ ด้วยโต๊ะคร่อมเตียง (Over bed) ที่นอกจากจะช่วยประหยัดพื้นที่แล้ว ยังทำให้คุณสามารถนั่งทำงานได้อย่างถูกสุขลักษณะมากขึ้น ไม่ต้องก้มหัว งอตัวจนเกิดปัญหาสุขภาพเหมือนการนอนทำงานบนเตียงเลยค่ะ

• เตียงไฟฟ้าเพื่อสุขภาพ

เตียงนอนเพื่อสุขภาพปรับไฟฟ้า ALLWELL ฟังก์ชันในการดูแลสุขภาพหลากหลาย แข็งแรง อายุการใช้งานยาวนาน

          รู้หรือไม่คะว่า โรคที่เกิดจากการทำงานออฟฟิศส่วนใหญ่ เกิดมาจากการนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ รวมทั้งการนอนหลับที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ตั้งแต่ท่าทางในการนอน ไปจนถึงการวางระดับของหมอน ก็มีส่วนต่อการนอนหลับทั้งสิ้นเลยค่ะ ดังนั้นการเลือกเตียงนอนที่ออกแบบมาเพื่อสุขภาพ จะช่วยลดปัญหาในการนอนเหล่านี้ได้ และยังช่วยให้นอนหลับได้อย่างเต็มที่ ร่างกายก็จะฟื้นฟูได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น

         หากถามว่าทำไมถึงต้องเป็นเตียงไฟฟ้า? นั่นก็เพราะว่าเตียงนอนแบบทั่วไป จะไม่มีฟังก์ชันในการใช้งานเหมือนเตียงไฟฟ้าค่ะ ซึ่งฟังก์ชันพวกนี้จะช่วยปรับท่าทางในลักษณะและองศาที่ถูกต้อง แถมบางฟังก์ชันยังช่วยแก้ปัญหาสุขภาพได้ด้วย เช่น ฟังก์ชันปรับพนักพิงหลัง (สูง 30 องศา) จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องกรดไหลย้อนและลดการนอนกรน หรือท่าชันเข่า ที่ช่วยในการหมุนเวียนเลือดบริเวณขา ลดอาการปวดเมื่อย เป็นต้น

• เครื่องวัดความดันโลหิต

เครื่องวัดความดันโลหิต ALLWELL รุ่น BSX593 หน้าจอเปลี่ยนสีตามความดันโลหิตที่วัดได้ มีเสียงพูดภาษาไทย อุปกรณ์ครบชุด

         อย่างที่กล่าวไว้ใน 10 โรคที่เกิดจากการทำงานออฟฟิศ ว่าชาวออฟฟิศเป็นกลุ่มเป้าหมายของโรคความดันโลหิตสูงเลยค่ะ ด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชชีวิตทำงานต่าง ๆ จึงทำให้ยากที่จะหลีกเลี่ยง แถมโรคนี้เป็นแล้วมักไม่แสดงอาการเตือนออกมาให้เห็นด้วย รู้ตัวอีกทีก็เข้าโรงพยาบาลซะแล้ว

         ทางเดียวที่เราจะจับเจ้าโรคความดันนี้ได้ คือต้องใช้เครื่องวัดความดันโลหิตค่ะ แต่ด้วยชาวออฟฟิศมักไม่ค่อยมีเวลาว่าง จึงมักจะรอเวลาไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลปีละครั้ง หรือบางคนไม่เจ็บป่วยก็แทบไม่ได้ไปที่โรงพยาบาลเลย ดังนั้น แนะนำให้ซื้อเครื่องวัดความดันดิจิตอลใช้งานง่าย ๆ ติดบ้านไว้เลยค่ะ แถมบางรุ่นยังมีฟังก์ชันตรวจจับหัวใจเต้นผิดปกติด้วย ถือว่าคุ้มค่าที่จะมีไว้นะคะ

• เครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือด

เครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือด ALLWELL รุ่น GLUCOSURE AUTOCODE ใช้งานง่ายเพียง 3 ขั้นตอน อุปกรณ์ครบชุด รับประกันตลอดอายุการใช้งาน

         สำหรับใครที่ต้องกินกาแฟหรือกินน้ำหวานทุกวัน บอกเลยว่า แม้จะอายุยังไม่เยอะก็เสี่ยงเป็นเบาหวานได้นะคะ ด้วยระบบเผาผลาญก็ไม่ได้ดีเท่าเด็ก ๆ แถมโรคเบาหวานเป็นแล้วยังรักษาไม่หายอีก ไม่คุ้มที่จะเสี่ยงเป็นเลยค่ะ ยิ่งหากเป็นไปแล้ว เสี่ยงมาก ๆ ที่อีกสารพัดโรคร้ายจะตามมาอีกมากมาย

         การที่ต้องไปตรวจระดับน้ำตาลในเลือดที่โรงพยาบาลบ่อย ๆ อาจจะเป็นเรื่องที่ยาก ด้วยเวลาและวันหยุดที่ไม่ค่อยมี ไปโรงพยาบาลทีก็ใช้เวลานาน แนะนำให้มีเครื่องระดับวัดน้ำตาลในเลือด หรือเครื่องตรวจเบาหวานพกพาติดบ้านไว้ดีกว่านะคะ ไม่ว่าจะเลิกงานกี่โมง จะหยุดวันไหน ก็สามารถตรวจเช็กระดับน้ำตาลในเลือดได้ง่าย ๆ ไม่ต้องไปโรงพยาบาลเลยค่ะ แต่อย่างไรก็ควรแวะไปตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละครั้งนะคะ

• เครื่องชั่งน้ำหนัก

เครื่องชั่งน้ำหนักวัดไขมันและมวลกาย ALLWELL รุ่น GBF-1719-A วัดองค์ประกอบร่างกายได้ 6 ค่า แข็งแรงทนทาน บันทึกค่าได้

         ไอเทมชิ้นนี้เป็นสิ่งที่ชาวออฟฟิศทุกคนควรมีเลยค่ะ เพราะไลฟ์สไตล์การนั่งติดอยู่หน้าคอม แม้กระทั่งกินข้าวกินขนมก็ต้องกินอยู่หน้าคอม แถมบางคนยังกินจุกกินจิกตลอดเวลา ยิ่งช่วงไหนมีกินเลี้ยง มีเทศกาลสำคัญ ทั้งเพื่อนร่วมงานทั้งหัวหน้า ยิ่งชวนไปกิน รู้ตัวอีกทีก็เป็นโรคอ้วนที่ยากจะรักษาแล้วค่ะ

         ดังนั้น การมีเครื่องชั่งน้ำหนักติดบ้านเอาไว้ นับเป็นเรื่องที่ดีเลยค่ะ กลับบ้านมาหรือก่อนออกไปทำงานก็แวะชั่งซักหน่อย เพื่อคอยเช็กว่าช่วงไหนควรไปออกกำลังกาย หรือควรไดเอทได้แล้ว ยิ่งเครื่องชั่งน้ำหนักบางรุ่น นอกจากจะชั่งน้ำหนัได้แล้ว ยังประมวลผลสุขภาพได้ด้วย แนะนำว่าไม่ควรพลาดไอเทมนี้เลยค่ะ

• โลชั่นบำรุงผิว

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย Allwell Organic ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ ไม่มีสารอันตราย ใช้ได้ทั้งเด็ก ผู้หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ และผู้มีปัญหาผิว

         แม้จะอยู่แต่ในออฟฟิศ เรื่องปัญหาผิวก็มองข้ามไม่ได้นะคะ สังเกตไหมคะว่า ชาวออฟฟิศหลายคนมีปัญหาผิวแห้ง ผิวแตก บางคนทำงานไปเกาไป ผิวลอกเป็นขุย ๆ นั่นก็เพราะว่าพฤติกรรมการกินน้ำเปล่าน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ กินอาหารที่ไม่ค่อยดี บวกกับสภาพแวดล้อมที่เปิดแอร์เย็นจัด ปัจจัยเหล่านี้นี่แหละค่ะ ที่ทำให้เกิดปัญหาผิว เวลาจะใส่เสื้อโชว์แขนก็ไม่มั่นใจใช่ไหมล่ะคะ

          แนะนำให้ซื้อโลชั่นบำรุงผิวดี ๆ สักขวดติดโต๊ะทำงานไว้เลยค่ะ รู้สึกผิวแห้งผิวแตกเมื่อไหร่ก็ทา รับรองว่าผิวนุ่มชุ่มชื้นแน่นอน ที่สำคัญ แนะนำให้ซื้อโลชั่นที่เป็นสารสกัดออแกนิคจากธรรมชาตินะคะ เพราะบางคนผิวแพ้ง่าย หรือเลือกไม่ดีอาจมีสารอันตรายก็ได้ จากที่จะช่วยบำรุงกลายเป็นการทำลายผิวแทน ดังนั้น การใช้สารสกัดจากธรรมชาติจะดีที่สุดค่ะ

สรุป

         10 โรคที่เกิดจากการทำงานออฟฟิศ ในบทความนี้ เป็นโรคฮิตที่ที่ชาวออฟฟิศส่วนใหญ่มักพบเจอ ดังนั้น หันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อโรคร้ายเหล่านี้ ทั้งพฤติกรรมระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน แม้อาจจะยากในตอนแรก แต่หากค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ รับรองว่าสุขภาพจะกลับมาดีขึ้นแน่นอนค่ะ ALLWELL เป็นกำลังให้ชาวออฟฟิศทุกคนหันมาดูแลสุขภาพนะคะ 😊