บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น “ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้” หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
ความอ้วนเป็นหนึ่งสิ่งที่หลาย ๆ ท่านทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายอยากหลบให้พ้น ถอยให้ห่าง ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากความอ้วนเป็นหนึ่งสิ่งที่แสดงถึงปัญหาสุขภาพที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคตทั้งความดัน เบาหวาน หรือ ปัญหาสุขภาพด้านอื่น ๆ นอกจากนี้ความอ้วนยังนำมาซึ่งความไม่มั่นอกมั่นใจในการแต่งตัว ทำให้ผู้ที่มีแนวโน้มที่จะอ้วนหรือผู้ที่ไม่อยากอ้วนต้องระมัดระวังการรับประทานอาหารเพื่อไม่ให้การรับประทานในครั้งนั้น ๆ เป็นตัวก่อให้เกิดความอ้วน หรือ ทำให้อ้วนเพิ่มมากขึ้น และในบทความนี้เราก็จะขอพาทุกท่านไปพบกับอีกหนึ่งเคล็ดลับการบริโภคผลไม้ลดความอ้วนกัน
สารบัญ
ผลไม้ลดความอ้วน มีอะไรบ้าง
ความอ้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายหลายคนขาดความมั่นใจ บทความนี้ Allwell ขอนำเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับผลไม้ที่กินแล้วไม่อ้วน ผลไม้กินได้ง่าย สามารถกินได้ทุกช่วงเวลา แต่ก็ไม่ใช่ทุกชนิดที่กินแล้วจะไม่อ้วน เราขอพาทุกท่านไปพบกับ 8 ผลไม้ลดความอ้วน มีดังนี้
ผลไม้ลดความอ้วน มีดังนี้
1.แอปเปิ้ล
มีประโยชน์ในการเพิ่มกากใยอาหารให้กับร่างกาย โดยกากใยในแอปเปิ้ลก็คือ เพกติน และ แอปเปิ้ล 100 กรัม ให้ปริมาณแคลอรี่อยู่ที่ 52 แคลอรี
2.ฝรั่ง
ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมาก โดยฝรั่งมีวิตามินซีสูงมากกว่าส้มเสียอีก ด้วยความที่ฝรั่งมีวิตามินซีสูงนี้เองจึงช่วยป้องกันหวัด และ ป้องกันโรคลักปิดลักเปิดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ฝรั่ง 100 กรัม ให้ปริมาณแคลอรี่อยู่ที่ 60 แคลอรี
3.มะละกอ
ผลไม้ลดความอ้วนยอดนิยมที่ต้องบริโภคอย่างเหมาะสม ไม่บริโภคเมื่อมีความสุกจัด เพราะจากประโยชน์ดี ๆ คุณกลับจะได้รับน้ำตาลเกินพอดีแทน มะละกอยังช่วยในเรื่องของการขับถ่ายด้วย มะละกอ 100 กรัม ให้ปริมาณแคลอรี่อยู่เพียง 13 แคลอรีเท่านั้น
4.ส้ม
ผลไม้ลดความอ้วนที่อุดมไปด้วยกากใย และ มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ส้ม 100 กรัม ให้ปริมาณแคลอรี่อยู่ที่ 42 แคลอรี
5.แตงโม
ผลไม้ลดน้ำหนักฉ่ำน้ำ ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในร่างกายจากการบริโภคผลไม้ได้เป็นอย่างดี โดย แตงโม 100 กรัม ให้ปริมาณแคลอรี่อยู่เพียง 25 แคลอรีเท่านั้น
6.สตรอเบอรี่
ผลไม้เมืองเหนือรสชาติเปรี้ยวอมหวานก็ติดอยู่ในลิสต์ผลไม้ลดความอ้วนที่ช่วยบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี โดย สตรอเบอรี่ 100 กรัม ให้ปริมาณแคลอรี่อยู่ที่ 33 แคลอรี
7.แก้วมังกร
ผลไม้ลดน้ำหนักยอดนิยม ที่อุดมไปด้วยกากใยช่วยในเรื่องของการขับถ่าย แก้วมังกร 100กรัม ให้พลังงาน 60 แคลอรี และแก้วมังกรยังเป็นผลไม้ลดความอ้วนมื้อเย็นที่ช่วยให้อิ่มอย่างมีสุขภาพดีอีกด้วย
8.ชมพู่
อีกหนึ่งผลไม้ลดน้ำหนักที่อร่อยแถมชุ่มน้ำ เหมาะแก่การรับประทานเพื่อคลายร้อน โดยชมพู่ในปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงาน 42 แคลอรี
ผลไม้ที่ไม่ควรกินเมื่อลดน้ำหนัก
หลังจากที่เราทราบจากหัวข้อก่อนหน้าถึงผลไม้สำหรับคนลดน้ำหนัก แน่นอนว่าอย่างที่เราบอกไปไม่ใช่ผลไม้ทุกชนิดที่จะกินแล้วดี เผลอกินมากไปอาจจะน้ำหนักเพิ่มมากว่าน้ำหนักลดก็เป็นได้ เราก็ขอพาทุกท่านไปพบกับผลไม้ที่ไม่ควรกินเมื่อลดน้ำหนัก ซึ่งมีดังนี้
ผลไม้ที่ไม่ควรกินเมื่อลดน้ำหนัก มีดังนี้
1.กล้วยสุก
ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากล้วยสุกนั้นอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตในปริมาณสูง ซึ่งจะทำให้เกิดการสะสมของคาร์โบไฮเดรตเหล่านั้นตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้
2.มะละกอสุก
โดยเป็นผลไม้ที่ควรหลีกเลี่ยงอีกเช่นกัน ซึ่งมีเหตุผลเดียวกับกับบริโภคกล้วยสุกนั่นเอง
3.มะม่วงสุก
ที่อุดมไปด้วยน้ำตาลในปริมาณที่สูงมาก และ มีกากใยต่ำ
4.ทุเรียน
ราชาแห่งผลไม้ที่มีความเย้ายวนทั้งกลิ่นและรสชาติ แต่มีปริมาณแคลอรีสูงเทียบเท่าการบริโภคอาหารในมื้อหลักกันเลย หากคุณบริโภคทุเรียนหลังอาหารก็เหมือนคุณรับประทานอาหาร 2 มื้อ คุณเองก็จะได้รับปริมาณแคลอรีเกินกว่าความต้องการของร่างกาย
5.มะพร้าว
ผลไม้ที่ดื่มน้ำก็ได้ กินเนื้อก็ดี แต่อุดมไปด้วยไขมันในปริมาณที่สูงมาก
6.กาแฟเชอร์รี่
ผลไม้ที่อุดมไปด้วยคาเฟอีน ซึ่งจะทำให้ร่างกายได้รับคาเฟอีนแบบเกินพอดีจนไม่สามารถนอนหลับพักผ่อนได้ตามปกติ และ เมื่อร่างกายไม่หลับก็เสี่ยงอย่างมากที่จะต้องบริโภคมื้อดึกเพิ่มอีกมื้อ จนทำให้อ้วนขึ้นไปอีก
อ่านบทความ : อาหารที่กินแล้วอิ่มนาน เหมาะกับสายลดน้ำหนัก แบบนี้ต้องจัดด่วน!ข้อควรระวังในการกินผลไม้ลดความอ้วน
แม้ว่าผลไม้บางชนิดจะเหมาะกับการเป็นผลไม้ลดความอ้วน แต่คุณเองก็ควรรับประทานโดยเพิ่มข้อควรระวัง เพราะหากกินมากเกินไปก็อาจให้โทษได้ ดังนั้นทุกท่านต้องมาทำความเข้าใจกับข้อควรระวังในการกินผลไม้ เพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ มีดังนี้
ข้อควรระวัง มีดังนี้
- บริโภคมากเกินไปแม้จะเป็นผลไม้ที่มีแคลอรีต่ำ แต่หากคุณบริโภคอย่างไม่จำกัด หรือ บริโภคมากเกินไป ก็จะมีปริมาณแคลอรีโดยรวมที่เกินได้จนนำไปสู่ความอ้วนในที่สุด
- บริโภคซ้ำ ๆ ผลไม้บางอย่างก็มีวิตามินหรือแร่ธาตุที่จำเพาะ หากคุณเลือกบริโภคเพียงผลไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งติดต่อกันเป็นเวลานานจนเกินไป ก็จะเป็นการสะสมวิตามินหรือแร่ธาตุบางชนิดจนเกินความต้องการของร่างกาย หรือ เกินความพอดีได้
- บริโภคโดยไม่ได้ดูสภาวะร่างกายของตน ผลไม้บางชนิดนั้นเหมาะที่จะบริโภคในยามร่างกายของคุณปกติ แต่เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายของคุณเจ็บป่วยก็ต้องงดการบริโภค อาทิเช่น ฝรั่งที่มีวิตามินซีสูงเหมาะกับการบริโภคเพื่อป้องกันหวัด แต่ก็ควรงดบริโภคเมื่อมีไข้ เพราะฝรั่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุโพแทสเซียมซึ่งจะทำให้มีไข้สูงขึ้นไปอีก
สรุป
ผลไม้ลดความอ้วนกับทางเลือกของการบริโภคผลไม้สำหรับทุกท่านที่ต้องการมีหุ่นเพรียวสมส่วน ไม่อ้วน แต่ยังได้รับคุณประโยชน์จากวิตามินนานาชนิดที่อยู่ในผลไม้ลดความอ้วนเหล่านั้น นอกจากนี้การเลือกบริโภคผลไม้ดังกล่าวก็ยังเป็นการป้องกันโรคภัยต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ ดังคำที่กล่าวไว้ว่าหากไม่อยากกินยาเป็นอาหารก็ต้องกินอาหารเป็นยา