บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น “ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้” หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
โรคโลหิตจาง เป็นภาวะทางการแพทย์ทั่วไปที่มีลักษณะเฉพาะจากการขาดเซลล์เม็ดเลือดแดง หรือ ฮีโมโกลบินในเลือด อาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น การได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ โรคเรื้อรัง หรือความผิดปกติทางพันธุกรรม และถึงแม้ว่าโรคโลหิตจางอาจในแต่ละบุคคล จะมีสาเหตุที่มาแตกต่างกัน ทว่าโดยทั่วไปแล้วโรคโลหิตจาง อาการ มักจะมีอาการคล้ายคลึงกันหมด
สารบัญ
- โรคโลหิตจาง อาการที่พบบ่อยมีอะไรบ้าง?
- โรคโลหิตจาง เกิดจากอะไร ใครเสี่ยงเป็นโลหิตจางบ้าง?
- เป็นโรคโลหิตจาง ต้องระวังเรื่องอะไรบ้าง?
- วิธีดูแลตัวเองของคนเป็นโรคโลหิตจาง?
โรคโลหิตจาง อาการที่พบได้บ่อยมีอะไรบ้าง?

1. ความเหนื่อยล้าและอ่อนแอ
2. การหายใจถี่
3. ผิวหนังและเนื้อเล็บซีด
4. ความคิดและอารมณ์
5. สมาธิสั้นลง
6. ความหงุดหงิดและอารมณ์แปรปรวน
7. ภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล
โรคโลหิตจาง เกิดจากอะไร ใครเสี่ยงเป็นโลหิตจางบ้าง
โรคโลหิตจาง เป็นภาวะทางการแพทย์ทั่วไป ที่เกิดจากการขาดเซลล์เม็ดเลือดแดง หรือ ขาดฮีโมโกลบินในเลือด ทำให้ร่างกายผลิตออกซิเจนได้น้อยกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย โดยโรคโลหิตจาง อาการจะแสดงแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล และสาเหตุของโรคโลหิตจาง เกิดจาก ภาวะ ดังนี้
- การขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง ได้แก่ ธาตุเหล็ก วิตามินบี 12 หรือกรดโฟลิค ซึ่งอาจพบได้ในหญิงตั้งครรภ์
- ภาวะการมีโรคเรื้อรังบางชนิดที่อาจส่งผลในการกระตุ้นสร้างเม็ดเลือดแดง เช่น โรคตับ ข้ออักเสบ โรคมะเร็ง โรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน โรคไตวายเรื้อรัง
- โรคของไขกระดูก เช่น ไขกระดูกฝ่อ มะเร็งในไขกระดูก การติดเชื้อในไขกระดูก เป็นต้น
- โรคทางพันธุกรรม ซึ่งทำให้เม็ดเลือดแดงถูกทำลายมากขึ้นในร่างกาย เป็นผลมาจากการติดเชื้อ เช่น โรคมาลาเรีย หรือแม้แต่โรคในกลุ่มที่เม็ดเลือดแดงแตกง่ายกว่าปกติ เช่น โรคธาลัสซีเมีย โรครูปร่างเม็ดเลือดแดงผิดปกติ เป็นต้น
- ร่างกายสูญเสียเลือดฉับพลัน เช่น การเกิดอุบัติเหตุ การผ่าตัด การคลอดบุตร การตกเลือด หรืออาจเสียเลือดเรื้อรัง
กลุ่มเสี่ยงต่อภาวะเลือดจาง
โรคโลหิตจาง ต้องระวังเรื่องอะไรบ้าง
หากใครที่กำลังเผชิญกับโรคโลหิตจางไม่ว่าจะเป็นตัวเองหรือคนที่คุณรัก ก็มักจะกังวลเกี่ยวกับปัจจับภายนอกที่อาจกระตุ้นให้โลหิตจาง อาการแย่ลง ในบทความนี้จึงได้รวบรวมเรื่องควรระวังสำหรับผู้ป่วยโลหิตจางที่ควรหลีกเลี่ยง เช่น สารเคมี สารพิษ เชื้อโรค และสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายต่อเม็ดเลือดแดง เพราะอาจทำให้เม็ดเลือดแดงมีปริมาณน้อยลงกว่าเดิม โดยควรระมัดระวัง ดังนี้
วิธีดูแลตัวเองของคนเป็นโรคโลหิตจาง
และในเมื่อร่างกายเกิดโรคโลหิตจางแล้ว ดังนั้นการดูแลตัวเองให้มีสุขภาพที่ดี ไม่ไปกระตุ้นให้โรคโลหิตจาง อาการเด่นชัดขึ้นอีก จึงเป็นเรื่องที่สมควรทำอย่างยิ่ง ดังนั้นบุคคลที่มีภาวะโลหิตจางจึงจำเป็นอย่างมาก ที่จะต้องดำเนินการเพื่อจัดการกับสภาวะของตนอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยวิธีดูแลตนเอง ดังนี้
- หนึ่งในวิธีหลักในการจัดการกับภาวะโลหิตจางคือการเปลี่ยนแปลงอาหารและวิถีชีวิต
- ทานอาหารที่สมดุลซึ่งอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก วิตามินซี และสารอาหารอื่นๆ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง ธาตุเหล็กจำเป็นสำหรับการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องรวมอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็กไว้ในอาหาร ซึ่งรวมถึงเนื้อไม่ติดมัน
- ทานอาหารทะเล ถั่ว ถั่วเลนทิล และผักใบเขียวเข้ม วิตามินซีช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก ดังนั้นการรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว สตรอเบอร์รี่ และพริกหยวก ก็มีประโยชน์เช่นกัน นอกจากการเปลี่ยนแปลงอาหารแล้ว
- การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตบางอย่างสามารถช่วยจัดการกับ เลือดจาง อาการ โรคโลหิตจางได้ การออกกำลังกายเป็นประจำสามารถเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและเพิ่มการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง การมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ เช่น การเดิน การว่ายน้ำ หรือขี่จักรยานจะเป็นประโยชน์
- การจัดการความเครียด เช่น การทำสมาธิหรือโยคะ ยังสามารถช่วยลดระดับความเครียด ซึ่งอาจส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมและความเป็นอยู่ที่ดี
สรุป
โรคโลหิตจาง เป็นโรคที่มีโอกาสเกิดได้กับทุกคน ทั้งจากพันธุกรรมหรือปัจจัยอื่น ๆ ที่ตามมาก็ตาม ดังนั้นการหาสาเหตุ ความเสี่ยง วิธีป้องกัน และ ดูแลตัวเองให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่จะไม่ทำให้โรคโลหิตจาง อาการร้ายแรงยิ่งขึ้น