บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น “ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้” หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
มะเร็งเต้านม เป็นโรคอันดับต้น ๆ ที่คร่าชีวิตผู้หญิงทั่วโลกไปมากมาย ทั้งนี้ทั้งนั้น โรคมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้น มักไม่แสดงอาการผิดปกติอะไรออกมาให้เห็นมากนัก กว่าจะรู้ตัวอีกที อาการมะเร็งเต้านมก็มักลุกลามไปไกลแล้ว จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้หญิงทุกคนต้องหมั่นสังเกตอาการผิดปกติของตัวเองสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตัวเอง บทความนี้มีข้อมูลดี ๆ มาฝากกันค่ะ
สารบัญ
- เช็ก! สัญญาณเตือน อาการมะเร็งเต้านม
- อาการมะเร็งเต้านม เกิดจากสาเหตุใด?
- วิธีตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตัวเอง
- ป้องกันอาการมะเร็งเต้านมได้อย่างไรบ้าง?
เช็ก! สัญญาณเตือน อาการมะเร็งเต้านม
อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเต้านมและบริเวณข้างเคียง อาจไม่ได้หมายถึงอาการมะเร็งเต้านมเสมอไป อย่างเช่น กดเต้านมแล้วปวด อาการบวมที่รักแร้ อาการบวมรอบกระดูกไหปลาร้า และมีรอยแดงหรือผื่นที่เต้านมหรือหัวนม อาการเหล่านี้อาจเกิดจากการติดเชื้อ หรือต่อมน้ำเหลืองอักเสบก็ได้ แล้วอาการที่น่าสงสัยว่าจะเป็นมะเร็งเต้านมในระยะแรกนั้น มีอาการอะไรที่บ่งชี้ได้ชัด ๆ บ้าง มาดูกันค่ะ
อาการมะเร็งเต้านมระยะแรก
- มีก้อนเนื้อหรือก้อนหนาขึ้นในเต้านมหรือ บริเวณใต้วงแขน อาจมีอาการทั้ง ไม่เจ็บปวด หรือ เจ็บปวด
- อาจรู้สึกว่าผิวเนื้อบริเวณเต้านม แตกต่างจากเนื้อบริเวณรอบๆอย่างเช่น ผิวแข็งหนาขึ้น มีก้อนนูน หรือผิวขรุขระ มีผื่นแดง ผื่นคล้ายผิวเปลือกส้ม อาจรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของขนาดหรือรูปร่างของเต้านม
- เต้านมมี รอยบุ๋ม หรือ รอยย่นของผิวหนัง ผิดปกติอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
- การคัดหลั่งของหัวนม เช่น เลือด หรือ ของเหลว ที่ผิดปกติ ซึ่งอาการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจละเอียดอ่อนและตรวจจับได้ยาก
- อาจมีแผลที่บริเวณหัวนม จนหัวนมมีอาการเน่า และรักษาไม่หาย
โรคและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่ผู้หญิงควรระวัง
อาการมะเร็งเต้านม เกิดจากสาเหตุใด?
มะเร็งเต้านมไม่ได้เกิดในเฉพาะเพศหญิงเท่านั้น เพราะในเพศชายก็สามารถเป็นมะเร็งเต้านมได้ แต่ส่วนมากจะพบได้บ่อยในผู้หญิง มะเร็งชนิดนี้ เป็นมะเร็งชนิดหนึ่งที่เริ่มต้นในเนื้อเยื่อเต้านมและสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ อาการมะเร็งเต้านม มีปัจจัยหลายประการที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านม ได้แก่
การกลายพันธุ์ของยีน BRCA1 และ BRCA2
ซึ่งมีหน้าที่ในการซ่อมแซม DNA ที่เสียหาย หากยีนเหล่านี้กลายพันธุ์ ร่างกายอาจไม่สามารถซ่อมแซม DNA ที่เสียหายได้อย่างเหมาะสม ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดมะเร็งได้ การกลายพันธุ์ของยีนที่สืบทอดมาในครอบครัวสามารถเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งเต้านมได้ ผู้หญิงที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านมก็มีแนวโน้มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ได้เช่นเดียวกัน
การสัมผัสกับรังสีหรือสารเคมี
ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งเต้านมได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงที่ได้รับรังสีรักษามะเร็งชนิดอื่นมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งเต้านม โดยมีปัจจัยมาจากฮอร์โมน อย่างเช่น การมีประจำเดือนเร็วหรือวัยหมดประจำเดือนตอนปลายยังสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมได้ ผู้หญิงที่เริ่มมีประจำเดือนตั้งแต่อายุยังน้อยหรือเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนในช่วงปลายปี มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งเต้านม
ปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์
การดำเนินวิถีชีวิตที่อาจทำให้เกิดการกระตุ้นให้เกิด โรคมะเร็งเต้านม เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ หรือแม้แต่ ความอ้วน ก็นำพาไปสู่เสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมได้ และในผู้หญิงที่ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือเป็นโรคอ้วน มักจะมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคมะเร็งเต้านมมากขึ้น
อ่านเพิ่ม : ตรวจสุขภาพ ตรวจอะไรบ้าง ? ตอบทุกข้อสงสัยของเรื่องการตรวจสุขภาพวิธีตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตัวเอง
ทรวงอก ถือเป็นสัญลักษณ์ทางเพศที่บ่งบอกถึงความเป็นผู้หญิง ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต ทรวงอกกลับมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ได้หยุดนิ่งไปตลอดทุกช่วงอายุ ดังนั้น ก่อนอื่นเราไปทำความเข้าใจเรื่องปัญหาเรื่องทรวงอกหรือเต้านมของผู้หญิงในแต่ละช่วงวัยกันก่อน โดยในทรวงอกของผู้หญิงจะทุกแบ่งออกทั้งหมดเป็น 3 ช่วงหลัก ๆ ที่สามารถเห็นความแตกต่างของพัฒนาการการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน ดังนี้
ในช่วงวัยแรกรุ่น
เด็กผู้หญิงจะพบกับพัฒนาการของเต้านม เนื่องจากร่างกายของพวกเขาเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์และให้นมบุตร ซึ่งสภาวะแบบนี้อาจทำให้เกิดอาการ เจ็บเต้านม เจ็บ และคันได้ อาการเหล่านี้เป็นเรื่องปกติและมักจะหายได้เอง อย่างไรก็ตาม สำหรับในเด็กผู้หญิงควรหมั่นสังเกตการเปลี่ยนแปลงเต้านมของตนเองเป็นประจำ และหากสังเกตเห็นก้อนหรือสิ่งแปลกปลอมผิดปกติ ที่คิดว่าเป็น อาการมะเร็งเต้านม ควรรีบพบแพทย์ทันที
ในระหว่างตั้งครรภ์
เต้านมจะมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการให้นมบุตร ต่อมและท่อสร้างน้ำนมจะเพิ่มขนาดและจำนวน ทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้นและหนักขึ้น ปัจจัยนี้สามารถนำไปสู่อาการเจ็บเต้านม คัดตึง น้ำนมรั่วระหว่างให้นมบุตรได้ ซึ่งอาจมีอาการเต้านมอักเสบ การติดเชื้อที่เจ็บปวดของเนื้อเยื่อเต้านม ท่อน้ำนมอุดตัน โดยสามารถจัดการกับอาการเหล่านี้ได้ด้วยการใช้ การประคบอุ่น นวดหน้าอก และดูแลเทคนิคการให้นมลูกอย่างเหมาะสม
ในช่วงของผู้หญิงที่มีอายุมากขึ้น
เนื้อเยื่อเต้านมจะเปลี่ยนไปเพื่อตอบสนองต่อความผันผวนของฮอร์โมน ในช่วงวัยหมดประจำเดือน เต้านมอาจมีความหนาแน่นน้อยลงและมีขนาดเล็กลง ผู้หญิงยังอาจพบก้อนที่เต้านม หัวนมไหล และอาการผิดปกติอื่นๆ อาการเหล่านี้อาจไม่ร้ายแรง แต่ในผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ควรที่จะได้รับการตรวจด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นประจำเพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อเต้านม
การตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเอง
ขั้นที่ 1 ตรวจในขณะอาบน้ำ
ในขณะอาบน้ำ ให้ใช้นิ้วมือวางราบบนเต้านม โดยค่อย ๆ คลำและขยับนิ้วมือเคลื่อนสัมผัสและคลึงให้ครบทุกส่วนของเต้านมในแต่ละข้าง เพื่อค้นหาก้อนหรือเนื้อที่แข็งเป็นไตผิดปกติ
ขั้นที่ 2 ตรวจหน้ากระจก
ยืนตรงมือแนบลำตัวหน้ากระจก แล้วยกแขนขึ้นสูงเหนือศีรษะ ค่อย ๆ สังเกตลักษณะของเต้านมทั้งสองข้างว่าพบความผิดปกติหรือไม่ รวมทั้งการยกมือขึ้นเท้าเอว การเอามือกดสะโพกแรงๆ เพื่อให้กล้ามเนื้ออกแอ่นไปข้างหน้าง่ายต่อการสังเกตหาความผิดปกติ
ขั้นที่ 3 การตรวจในท่านอน
นอนราบกับที่นอน พร้อมกับสอดมือข้างหนึ่งไว้ใต้ศีรษะ แล้วใช้มืออีกข้างตรวจคลำให้ทั่วทุกส่วนของเต้านมทีละข้าง โดยเคลื่อนมือให้เป็นรูปก้นหอยเวียนไปโดยรอบ จนถึงบริเวณเต้านม พยายามตรวจใช้มือคลำให้ครบทั่วทุกส่วน แล้วค่อยๆ บีบหัวนมเบาๆ เพื่อสังเกตดูว่ามีสิ่งผิดปกติ ไหลออกมาหรือไม่
ป้องกัน อาการมะเร็งเต้านม ได้อย่างไรบ้าง?
อาการของเต้านมสามารถเกิดขึ้นได้ในแต่ละช่วงชีวิตของผู้หญิง และอาจมีตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงตามปกติไปจนถึงสภาวะที่ร้ายแรงกว่า เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้หญิงในการตรวจเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำ และไปพบแพทย์หากมีอาการผิดปกติ รวมทั้งเข้ารับการ ตรวจมะเร็งเต้านม เป็นประจำ โดยผู้หญิงทุกคนก็สามารถป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านมได้ง่าย ๆ ดังนี้
- ดูแลน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะเซลล์ไขมันจะกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ส่งผลให้เกิดมะเร็งเต้านม
- รับประทานอาหารจากพืชไม่ขัดสี เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช
- รับประทานถั่วเหลืองอย่างพอประมาณ และควรหลีกเลี่ยงอาหารเสริมหรือผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากถั่วเหลืองทีมีความเข้มข้นสูงทีใช้ทดแทนฮอร์โมน
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารประเภททอด
- เลือกทานไขมันดี จาก น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว ปลาทะเล อะโวคาโด ถั่ว
- หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์แปรรูป
- เลี่ยงบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สรุป
เมื่อเข้าใจอาการของเต้านมที่พบบ่อยในช่วงต่างๆ ของชีวิต คุณผู้หญิงทุกท่านสามารถดำเนินการเชิงรุกเพื่อรักษาสุขภาพเต้านมและความเป็นอยู่ที่ดีให้ห่างไกลโรคมะเร็งเต้านมได้โดยปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต อย่างเช่นหากว่า เป็นคนที่ชอบ การดื่มแอลกอฮอล์ ก็ลดการดื่มลง หรือว่าใครที่เป็นคนสูบบุหรี่ ก็ควรที่จะเลิก และเข้ารับการตรวจสุขภาพเรื่องของมะเร็งเต้านมเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ