โรคและการดูแล
อาการมะเร็งปอด สังเกตอย่างไร? ไม่สูบบุหรี่ก็เป็นได้เหรอ?!
พ.ย.
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้ หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
หลังจากที่นายแพทย์ วัย 28 ปี เจ้าของเพจสู้ดิวะ ได้ออกมาแชร์เรื่องราวการป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ไม่นานก็ได้มี พ.ต.ต.รุ่งคุณ จันทโชติ สารวัตรหนุ่มที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด ระยะลุกลามไปต่อมน้ำเหลือง ก็ได้ออกมาแชร์เรื่องราวเช่นกัน จนทำให้หลายคนกังวลว่า แม้แต่คนที่แข็งแรง และไม่เคยสูบบุหรี่เลย ทำไมถึงเป็นมะเร็งปอดได้ สังเกต อาการมะเร็งปอด แต่ละระยะได้อย่างไรบ้าง ไปอ่านบทความนี้กันค่ะ
สารบัญ
- อาการมะเร็งปอด สังเกตได้อย่างไร?
- มะเร็งปอด เกิดจากอะไร? ไม่สูบบุหรี่ก็เป็นได้เหรอ
- ดูแลตัวเองอย่างไรให้ห่างไกลมะเร็งปอด
โรคมะเร็งปอด เป็นมะเร็งที่พบได้มากเป็นอันดับต้น ๆ จากสถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ปี 2562 พบว่า ประเทศไทย พบผู้ป่วยรายใหม่ วันละ 47 คน หรือ 17,222 คน/ปี!
อาการมะเร็งปอด สังเกตได้อย่างไร?
ความน่ากลัวของมะเร็งปอด คือ อาการมะเร็งปอดตอนเพิ่งเริ่มเป็น หรือในระยะแรก มักไม่ค่อยแสดงอาการผิดปกติออกมาให้สังเกต หรือถ้ามีก็มักคล้ายกับโรคทางเดินหายใจทั่วไป จนทำให้หลายคนชะล่าใจ แต่จะแสดงอาการชัด ๆ เมื่อโรคเริ่มเข้าสู่ระยะลุกลามแล้ว โดยมะเร็งปอดมักจะมีอาการดังต่อไปนี้
- ไอเรื้อรัง ติดต่อกันนานเกิน 2 สัปดาห์ (ไอแห้งหรือมีเสมหะก็ได้)
- ไอเป็นเลือด หรือมีเสมหะปนเลือด
- เสียงแหบ หรือเสียงเปลี่ยน
- หายใจถี่สั้นและลำบาก มีเสียงหวีด หรือเสียงแปลก ๆ
- เจ็บหน้าอกเวลาหายใจตลอดเวลา
- ติดเชื้อในปอดบ่อย ๆ เช่น ปอดบวม ปอดอักเสบ
- รู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลีย
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- มีภาวะกลืนลำบาก
- บวมที่หน้า แขน คอ และหน้าอก
- มีตุ่มหรือก้อนขึ้นตามผิวหนัง
- ปวดกระดูก
อย่างไรก็ตาม หากมีอาการข้างต้น ไม่ได้การันตีว่าคืออาการมะเร็งปอด 100% เพราะมีโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจหลายอย่างที่มีอาการคล้ายคลึงกัน ทั้งนี้ หากมีอาการข้างต้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยทันที
อาการวัณโรคปอด เสมหะปนเลือดสัญญาณบ่งบอกโรคติดต่อร้าย อันตรายถึงชีวิต!บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้ หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
อาการมะเร็งปอด เกิดจากอะไร? ไม่สูบบุหรี่ก็เป็นได้เหรอ
มะเร็งปอด เกิดจากการที่เซลล์ปกติในร่างกายนั้น เจริญเติบโตรวดเร็วและมากเกินจำเป็น จนทำให้เซลล์เหล่านั้นกลายเป็นกลุ่มก้อนเซลล์ที่ผิดปกติ และพัฒนาไปเป็นเนื้องอกมะเร็งที่บริเวณปอดในที่สุด โดยส่วนใหญ่จะสามารถตรวจพบได้ตอนที่มะเร็งมีก้อนขนาดใหญ่แล้ว ส่วนอาการมะเร็งปอดจะรุนแรงกับผู้ป่วยแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของมะเร็งที่เป็น ซึ่งสามารถแบ่งได้ 2 ชนิด คือ
ชนิดของมะเร็งปอด
1.มะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก : มะเร็งจะเจริญเติบโตและลุกลามได้ไว ส่งผลให้ผู้ป่วยมะเร็งปอดชนิดนี้ เสียชีวิตอย่างรวดเร็ว หรือมีโอกาสรักษาให้หายขาดน้อย แต่เป็นชนิดที่พบได้น้อย ประมาณ 10-15% ของผู้ป่วยมะเร็งปอดทั้งหมด สามารถแบ่งได้เป็น 2 ระยะ คือ
- ระยะจำกัด : มะเร็งจะอยู่แค่ในบริเวณปอดเท่านั้น
- ระยะลุกลาม : มะเร็งได้ลุกลามออกจากปอด ไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
2.มะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็ก : เป็นชนิดที่พบได้บ่อย 85-90% ของผู้ป่วยมะเร็งปอด มะเร็งชนิดนี้จะมีลักษณะการเติบโตและลุกลามที่ช้า มีโอกาสตรวจพบได้ง่าย และมีโอกาสรักษาให้หายขาดได้ (หากตรวจพบในระยะ 1-2) ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 4 ระยะ
- ระยะที่ 1 : มะเร็งจะอยู่เฉพาะที่บริเวณปอดเท่านั้น
- ระยะที่ 2 : มะเร็งเริ่มลุกลามไปบริเวณใกล้ ๆ มักเป็นบริเวณต่อมน้ำเหลืองที่ขั้วปอด เยื่อหุ้มปอดชั้นนอก หรือผนังหน้าอก
- ระยะที่ 3 : มะเร็งลุกลามไปบริเวณต่อมน้ำเหลืองรอบ ๆ ปอด และลุกลามไปยังปอดอีกข้างและอวัยวะใกล้เคียงปอด
- ระยะที่ 4 (ระยะสุดท้าย) : มะเร็งลุกลามไปไกลจากจุดเริ่มต้น ไปยังอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น กระดูก ตับ สมอง
ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งปอด
ปัจจุบันทางการแพทย์ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของโรคมะเร็งปอดได้อย่างแน่ชัด แต่ก็พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงบางอย่าง ที่เพิ่มโอกาสที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้มาก
- บุหรี่ เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดมะเร็งปอดมากที่สุด ผู้ที่สูบบุหรี่มีโอกาสเป็นมะเร็งมากกว่าผู้ที่ไม่สูบ 10-30 เท่า อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ไม่สูบบุหรี่เลยก็มีโอกาสเป็นมะเร็งปอดได้เช่นกัน
- มลพิษในอากาศ ไม่ว่าจะเป็นสารเคมีบางอย่าง ไอระเหย และฝุ่นควัน หากรับในปริมาณที่มากและบ่อย อาจเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปอดได้ เช่น สารหนู ไอระเหยนิกเกิล PM2.5 เป็นต้น
- อายุ ยิ่งมากขึ้นก็ยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอด โดยเฉพาะวัย 40+ แต่สามารถพบได้ในคนอายุน้อยเช่นกัน
- พันธุกรรม พบว่าผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคมะเร็งปอด จะมีความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งปอดเช่นกัน
ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพปอดเป็นประจำ และขอคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ และวางแผนในการใช้ชีวิตประจำวัน
ดูแลตัวเองอย่างไรให้ห่างไกลมะเร็งปอด
แม้ปัจจุบันเราจะยังไม่ทราบสาเหตุของการเป็นมะเร็งปอดอย่างแน่ชัด แต่เราก็สามารถดูแลตัวเองได้ด้วยการลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ และทำให้สุขภาพนั้นดีอยู่เสมอ นอกจากจะช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็งปอดได้แล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคร้ายอื่น ๆ อีกด้วย
ข้อควรปฏิบัติให้ห่างไกลจากมะเร็งปอด
- งดสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้กับผู้ที่สูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงมลพิษต่าง ๆ ถ้าจำเป็นควรสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน
- ออกกำลังกาย ทานอาหารที่ดี และพักผ่อนให้เพียงพออยู่เสมอ
- หมั่นตรวจร่างกายเป็นประจำ โดยเฉพาะการตรวจมะเร็งปอด
สรุป
โรคมะเร็งปอด แม้จะฟังดูเป็นเรื่องห่างไกลสำหรับวัยหนุ่มสาว หรือผู้ที่มั่นใจว่าสุขภาพนั้นแข็งแรง แต่ในกรณีของหมอไท และสารวัตรรุ่งคุณ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า มะเร็งปอดเป็นภัยเงียบที่เกิดขึ้นกับใครก็ได้จริง ๆ อย่างไรก็ตาม การดูแลตัวเองให้สุขภาพแข็งแรงอยู่ตลอดเป็นเรื่องที่ดีที่สุด และที่สำคัญ ควรเข้ารับการตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยจับภัยร้ายที่หลบซ่อนได้นะคะ
อ้างอิงข้อมูลจาก
บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับปอด และมะเร็ง
พ.ค.
อาหารผู้ป่วยมะเร็ง ไม่ควรรับประทาน มีอะไรบ้าง? อาจเสี่ยงลุกลามกว่าเดิม
นอกจากการรักษาจ [...]
มิ.ย.
