บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น “ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้” หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
แม้แต่อากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยในหนึ่งวัน ทำให้ร่างกายของหลาย ๆ ท่านปรับตัวไม่ทัน หรือ บางท่านก็มีปัจจัยร่วมทั้งการพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือ สภาพร่างกายที่ต้องเผชิญหน้ากับความเครียดก็นำมาสู่การเจ็บป่วยเกิดขึ้น โดยอาการหนึ่งที่เกิดขึ้นได้บ่อยคือ ไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเราจะขอพาทุกท่านไปรู้จักกับ อาการไข้หวัดใหญ่ และแตกต่างจากโรคที่มีความใกล้เคียงอย่างไรบ้าง
สารบัญ
- อาการไข้หวัดใหญ่ เป็นอย่างไร?
- ไข้หวัดใหญ่ vs ไข้หวัดธรรมดา vs โควิด vs ภูมิแพ้ ต่างกันยังไง?
- ภาวะแทรกซ้อนของไข้หวัดใหญ่
- วิธีป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
- วิธีรักษาและดูแลตัวเองจากไข้หวัดใหญ่
- สรุปไข้หวัดใหญ่ รีบรักษาก่อนอาการรุนแรง
อาการไข้หวัดใหญ่ เป็นอย่างไร?
ก่อนที่เราจะพาทุกท่านไปทราบกับอาการของไข้หวัดใหญ่เบื้องต้น เราขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับสายพันธุ์ของไข้หวัดกันก่อนเลย โดยไข้หวัดใหญ่มีทั้งหมด 3 สายพันธุ์ด้วยกัน คือ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A, ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B, ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ C ซึ่งในแต่ละสายพันธุ์ก็ยังมีซับเซตของสายพันธุ์ย่อยลงไปอีก แต่โดยรวมแล้วทุกสายพันธุ์ของไข้หวัดใหญ่ อาการ ดังนี้
1.อ่อนเพลีย
โดยเป็นอาการอ่อนเพลียที่เกิดขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วน เรียกได้ว่าเป็นอาการอ่อนเพลียแบบเฉียบพลันกันเลย
2.มีไข้สูง
ส่วนนี้เป็นอาการที่สามารถวัดได้ และ ควรเฝ้าระวังเป็นอย่างมาก ซึ่งไข้สูงนี้ คือ อุณหภูมิของร่างกายอยู่ที่ 39 – 40 องศาเซลเซียส
3.อาการปวดเมื่อย
ไข้หวัดใหญ่ อาการที่สังเกตได้อีกสิ่ง ก็คือ อาการปวดเมื่อยที่มักเกิดขึ้นตามข้อของร่างกาย ทั้งส่วนของแขนและขา นอกจากนี้ก็มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกายร่วมด้วย
4.เกิดความแดง
ความแดงที่จะปรากฎตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไข้หวัดใหญ่ อาการแดงมีทั้งที่ตาแดง คอแดง หรือ แม้แต่ตัวแดงจากไข้ขึ้น
อ่านเพิ่ม : RSV คืออะไร? โรคร้ายอาการคล้ายไข้หวัด พรากชีวิตลูกน้อยโดยไม่รู้ตัว!ไข้หวัดใหญ่ vs ไข้หวัดธรรมดา vs โควิด vs ภูมิแพ้ ต่างกันยังไง?
โรคไข้หวัดใหญ่ อาการที่ปรากฏหากไม่สังเกตตนเองให้ดี ก็แทบแยกไม่ออกเลยว่าแท้ที่จริงแล้วตนเองเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ หรือโรคทางระบบหายใจอื่น ๆ ที่มีอาการคล้ายกันกันแน่ ในบทความนี้จึงได้รวบรวมอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ และโรคไข้หวัดอื่น ๆ มาเปรียบเทียบกัน คนที่มีอาการเหล่านี้จะได้หมั่นสังเกตตนเอง แล้วเช็กลิสต์ไปในตัวด้วย ดังนี้!
ไข้หวัดใหญ่
- สาเหตุ : เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza Virus)
- อาการ : ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ มักมีอุณหภูมิของร่างกายสูงถึง 39 – 40 องศาเซลเซียส อาการไอ คัดจมูกและหนาวสั่นพบได้น้อยมาก แต่จะมีอาการปวดเมื่อยปรากฏบ่อยและรุนแรง
- ระยะเวลาที่ปรากฎอาการ: 10 วัน
- ช่วงเวลาที่เกิดได้บ่อย: ช่วงฤดูฝนจนถึงช่วงฤดูหนาว
- การรักษา : ปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาต้านไวรัสในทุกกรณี ทั้งนี้ไวรัสไข้หวัดใหญ่เป็นไวรัสที่รุนแรง ไม่สามารถหายเองได้
ไข้หวัดธรรมดา
- สาเหตุ : เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหลากสายพันธุ์
- อาการ: อุณหภูมิของร่างกาย 37.5 – 38.4 องศาเซลเซียส พบอาการคัดจมูก และมีน้ำมูกเริ่มจากสีใส แล้วเปลี่ยนเป็นเหลือง และ เขียว ตามลำดับ แต่ในส่วนของอาการไอ ปวดเมื่อย และหนาวสั่น กลับพบได้น้อยมาก
- ระยะเวลาที่ปรากฎอาการ : 5 วัน
- ช่วงเวลาที่เกิดได้บ่อย: ตลอดทั้งปี
- การรักษา : ปรึกษาแพทย์ หรือ เภสัชกร เพื่อรับยาตามอาการที่ปรากฎ ซึ่งมีทั้งยาลดไข้ หนือ ยาลดน้ำมูก นอกจากนี้ก็ต้องทานยาควบคู่ไปกับการพักผ่อนที่เพียงพอด้วย
โควิด
- สาเหตุ : เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโควิด 19
- อาการ : อุณหภูมิของร่างกายสูง 39 – 40 องศาเซลเซียส มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย อาการหนาวสั่นและไอ สามารถพบได้แต่น้อยมาก แต่โควิดมักไม่มีอาการคัดจมูกและน้ำมูกปรากฏ
- ระยะเวลาที่ปรากฎอาการ : 14 วัน เป็นอาการไข้หวัดใหญ่กับโควิดที่เราสามารถแยกออกจากกันได้อย่างชัดเจน
- ช่วงเวลาที่เกิดได้บ่อย : ตลอดทั้งปี
- การรักษา : ในกลุ่มผู้ป่วย 60 ต้องรีบพบแพทย์เพื่อรับยาต้านไวรัส ส่วนท่านใดที่อยู่นอกเหนือจากกลุ่มผู้ป่วย 60 เพียงการพักผ่อนที่เพียงพอในผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงก็สามารถหายเองได้ แต่หากอาการรุนแรงก็ควรไปพบแพทย์เช่นกัน
ภูมิแพ้
- สาเหตุ : เกิดจากการที่ร่างกายมีความไวต่อสารก่อภูมิแพ้มากเป็นพิเศษ
- อาการ : มีอาการคัดจมูกหรือจามเป็นชุด มีน้ำมูกเป็นสีใส รู้สึกคันบริเวณดวงตา น้อยมากที่จะมีอาการไอ มักมีอาการในตอนที่มีสารก่อภูมิแพ้อยู้ใกล้ ๆ
- ระยะเวลาที่ปรากฎอาการ : เป็นช่วงสัปดาห์ หรือ ช่วงเดือน
- ช่วงเวลาที่เกิดได้บ่อย : แล้วแต่ภูมิแพ้ที่เกิดขึ้น
- การรักษา : หากเกิดอาการรุนแรงให้รีบเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาที่ทันท่วงที ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากบางท่านมีอาการที่กระทบต่อระบบทางเดินหายใจรุนแรงได้ หากมีอาการที่ไม่รุนแรงควรทานยาแก้ภูมิแพ้ที่มักติดตัวมาไว้ตลอด
ภาวะแทรกซ้อนของไข้หวัดใหญ่
ภาวะแทรกซ้อนของไข้หวัดใหญ่เป็นภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงที่ก่อเกิดจากไข้หวัดใหญ่ การติดเชื้อไวรัส ภาวะแทรกซ้อนอาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ หัวใจ และระบบประสาท โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยทีมีอาการไข้หวัดใหญ่มักจะมีภาวะแทรกซ้อน ดังนี้
- โรคปอดบวม ปอดวาย
- หลอดลมอักเสบ
- ไซนัสอักเสบ
- กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
วิธีป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
อาการไข้หวัดใหญ่จะส่งผลต่อสภาพร่างกาย และสภาพจิตใจให้กับผู้ป่วยทรุดโทรมลง และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคไข้หวัดใหญ่ เห็นได้ว่าอาการของไข้หวัดใหญ่มีความรุนแรงและอาจจะถึงขึ้นเสียชีวิตได้ วิธีป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุด คือ ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
เนื่องจากวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันการเกิดโรคไข้หวัดใหญ่ และช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสไข้หวัดใหญ่ กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เด็กทารก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ คนที่มีโรคเรื้อรัง และคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ อีกทั้งยังมีอีกหลายวิธีจะช่วยป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ได้แก่
- ล้างมือเป็นประจำ เมื่อมือไปถูกสัมผัสกับสิ่งของ หรือ ไอจาม ควรล้างมือในทันทีเพื่อฆ่าเชื้อไวรัส โดยวิธีการล้างมือต้องล้างมือด้วยน้ำและสบู่ ล้างมืออย่างน้อย 20 วินาทีขึ้นไป
- หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่เป็นไช้หวัดใหญ่ เพราะผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สามารถแพร่เชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดของไข้หวัดใหญ่
- สวมใส่แมส หรือผ้าปิดปากและจมูก เพราะแมสจะสามารป้องกันเชื้อไวรัสที่อาจจะเข้าตามช่องทางเดินหายใจ
- ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ เวลาที่ต้องสัมผัสกับสิ่งของต่าง ๆ ก่อนจะสัมผัสให้ใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อนสัมผัส หรือหยิบจับ
- หลีกเลี่ยงไปสถานที่แออัด สถานที่ใดก็ตามที่อากาศไม่ถ่ายเท หรืออาจจะมีผู้คนอยู่เป็นจำนวนมาก อาจจะมีเชื้อไวรัสลอยอยู่บนอากาศ เมื่อคุณหายใจเชื้อไวรัสจะเข้าตามช่องทางเดินหายใจ
วิธีรักษาและดูแลตัวเองจากไข้หวัดใหญ่
วิธีรักษาอาการไข้หวัดใหญ่ และวิธีรักษาไข้หวัดใหญ่ด้วยตัวเอง เมื่อเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกาย เริ่มมีอาการของไข้หวัดใหญ่ สิ่งที่ควรทำ คือ
- พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายของคุณมีเวลาซ่อมแซมตัวเอง
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ จะช่วยป้องกันร่างกายไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำ
- บรรเทาอาการไข้หวัดใหญ่ การประคบเย็นเพื่อลดไข้ กลั้วคอด้วยน้ำเกลือเพื่อบรรเทาอาการเจ็บคอ และดื่มน้ำอุ่นผสมกับน้ำผึ้งเพื่อบรรเทาอาการไอ
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ยาต้านไวรัส ยาลดไข้ ยาแก้ปวด ยาแก้ไอ ยาบางตัวจำเป็นต้องกินให้ครบโดส จะทำให้ยามีประสิทธิภาพมากขึ้น
สรุป อาการไข้หวัดใหญ่ รีบรักษาก่อนอาการรุนแรง
เมื่อเกิดการเจ็บไข้ได้ป่วยทั้งกับตัวคุณเอง และ คนรอบข้างที่คุณรักและคุณต้องดูแล การรีบรักษาให้หายย่อมเป็นหนึ่งสิ่งที่ทุกท่านต้องทำ เพื่อให้สามารถรักษาได้อย่างตรงจุด สามารถเกาได้ตรงบริเวณที่คัน เราจึงจำเป็นต้องทราบถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยนั้น ๆ ขึ้น โดยคุณก็สามารถสังเกตด้วยตนเองเบื้องต้นได้จากอาการ ซึ่งเป็นตัวช่วยที่ดีทั้งต่อตัวของคุณเองและแพทย์ที่ทำการรักษาคุณอย่างแน่นอน