สุขภาพ
เคลียร์ให้ชัด?! ชั่งน้ำหนักตอนไหนดี ให้ได้ค่าแม่นยำที่สุด!
พ.ค.
เชื่อว่าใครหลายคนก็คงจะสงสัยว่าทำไมชั่งน้ำหนักแต่ละครั้งถึงไม่เท่ากัน โดยเฉพาะการชั่งน้ำหนักในตอนเช้า ทำไมถึงน้ำหนักน้อยกว่าตอนเย็น ทำให้รู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก ว่าจริงๆ แล้วน้ำหนักตัวเท่าไหร่กันแน่ ซึ่งคุณรู้ไหมว่าน้ำหนักของคนเรานั้นจะมีการคลาดเคลื่อนอยู่ตลอด จึงต้องเลือกช่วงเวลาในการชั่งให้เหมาะสม แล้วเราควร ชั่งน้ำหนักตอนไหนดี ถึงจะแม่นยำ ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด วันนี้เราจะพาคุณไปไขคำตอบกัน
สารบัญ
- รู้ไหม! ทำไมชั่งน้ำหนักตอนเช้ากับตอนเย็น ไม่เท่ากัน?
- ชั่งน้ำหนักตอนไหนดี ให้ได้ค่าแม่นยำที่สุด
- ชั่งน้ำหนักทุกวันดีไหม ควรชั่งบ่อยแค่ไหน?
รู้ไหม! ทำไมชั่งน้ำหนักตอนเช้ากับตอนเย็น ไม่เท่ากัน?
ปัญหาที่หลายคนสงสัยว่า ทำไมชั่งน้ำหนักแต่ละครั้งถึงได้ค่าไม่เท่ากัน โดยเฉพาะช่วงเช้ากับช่วงเย็น ต้องบอกเลยค่ะว่า เป็นเรื่องปกติค่ะที่น้ำหนักจะได้ไม่เท่ากัน เพราะน้ำหนักของคนเราจะมีการขึ้นลงอยู่เสมอ ด้วยปัจจัยต่าง ๆ ที่ผลกับน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่กินเข้าไป เสื้อผ้าที่ใส่ขณะขึ้นชั่ง เครื่องประดับตามตัว ฯลฯ ซึ่งปัจจัยบางอย่างก็เป็นปัจจัยที่ควบคุมได้ยากใช่ไหมล่ะคะ
ปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้ค่าน้ำหนักตอนเช้ากับตอนเย็นไม่เท่ากัน ส่วนใหญ่แล้วเกิดจากอาหารที่เรากินเข้าไประหว่างวันค่ะ แม้ว่าร่างกายจะมีการเผาผลาญพลังงานออกมาอยู่เสมอก็ตาม ซึ่งในขณะหลับเราไม่ได้กินอะไรเข้าไปเลย แต่ร่างกายก็ยังคงมีการเผาผลาญ ประกอบกับมีการสูญเสียน้ำออกมาผ่านการหายใจและเหงื่อ เมื่อตื่นมาชั่งน้ำหนักในตอนเช้า จึงพบว่าน้ำหนักลดลง และเบากว่าการชั่งตอนเย็นซะอีก
Body Composition Scale รุ่น JPD-BFS200B
Original price was: 1,990฿.890฿Current price is: 890฿.
วัดไขมันและองค์ประกอบของร่างกายได้ 14 ค่า | Bluetooth ดูค่าผ่าน App ได้
ชั่งน้ำหนักตอนไหนดี ให้ได้ค่าแม่นยำที่สุด
การจะชั่งน้ำหนักตัวให้ได้ออกมาแม่นยำที่สุด ไม่ใช่แค่เพียงช่วงเวลาเท่านั้น แต่ต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ค่าผิดเพี้ยนควบคู่ไปด้วย บทความนี้ ได้รวบรวมวิธีที่จะช่วยตอบคำว่า ชั่งน้ำหนักตอนไหนดี และชั่งยังไงให้แม่นยำที่สุด สำหรับใครที่กำลังควคุมน้ำหนัก หรือมีการติดตามผลน้ำหนักเป้นประจำอยู่ละ่ะก็ เรามาดูวิธีชั่งน้ำหนักที่ถูกต้องกันเลยค่ะ
ALLWELL รุ่น JPD-BFS200B เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลวัดผลสุขภาพได้หลากหลายถึง 14 ค่า
ชั่งน้ำหนักตอนไหนดี ให้คลาดเคลื่อนน้อยที่สุด
1. เครื่องชั่งน้ำหนักที่ใช้ต้องแม่นยำ สิ่งสำคัญที่ทำให้ค่าน้ำหนักที่เราชั่งได้จะไม่คลาดเคลื่อน และตรงกับความจริงมากที่สุด คือต้องเลือกใช้เครื่องชั่งที่แม่นยำค่ะ โดยเลือกซื้อ เครื่องชั่งน้ำหนักที่ได้มาตรฐาน จากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ ฟังก์ชันครบ สามารถวัดผลสุขภาพได้หลากหลาย เพราะการดูแค่ค่าน้ำหนักอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการประเมินผลสุขภาพค่ะ ควรดูไปถึงค่า BMI, ค่าไขมัน, มวลน้ำ, มวลกล้ามเนื้อ เป็นต้น
อย่างเครื่องชั่งน้ำหนัก ALLWELL รุ่น JPD-BFS200B ที่เป็นเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลที่แม่นยำ แถมยังวัดผลสุขภาพได้หลากหลายถึง 14 ค่า อาทิ ค่า BMI, ค่าไขมันในช่องท้อง, อายุร่างกาย, น้ำหนักตัวที่เหมาะสม ฯลฯ ช่วยให้เราวางแผนสุขภาพได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังดูผลผ่านแอปพลิเคชันในมือถือได้ง่าย ๆ ดีไซน์ก็สวย มีติดบ้านไว้ซักเครื่องก็ไม่เสียหายนะคะ แอบกระซิบว่าราคาแค่หลักร้อยเอง!!
สนใจ เครื่องชั่งน้ำหนัก ALLWELL วัดผลสุขภาพได้ถึง 14 ค่า ในราคาหลักร้อย Click!!2. ชั่งน้ำหนักตอนเช้าดีที่สุด ใครที่สงสัยว่าชั่งน้ำหนักตอนไหนดีที่สุด บอกเลยว่าชั่งน้ำหนักตอนเช้าดีที่สุดค่ะ เพราะเป็นช่วงหลังตื่นนอนที่เรายังไม่ได้กินอะไรเข้าไปเลย ผลที่ได้บนเครื่องชั่งน้ำหนัก จึงเป็นตัวเลขที่ถูกต้องและแม่นยำมากกว่าช่วงเวลาอื่น แต่ต้องเป็นหลังตื่นนอนที่เข้าห้องน้ำขับถ่ายเรียบร้อยแล้ว จึงค่อยมาชั่งน้ำหนักนะคะ จะไดเป็นน้ำหนักตัวของเราที่แม่นยำที่สุดค่ะ
3. ชั่งน้ำหนักในเวลาเดิมทุกวัน อย่างที่ทราบไปแล้วว่าชั่งน้ำหนักตอนไหนดีที่สุด นั่นก็คือช่วงเช้า ใครที่ติดตามผลน้ำหนักเป็นประจำ เราแนะนำให้ชั่งน้ำหนักช่วงเช้าเวลาเดิมทุกวันจะดีที่สุดค่ะ เพราะในแต่ละวันเราจะมีการกินอาหาร และดื่มน้ำต่างกัน วันนี้กินมาก วันนี้กินน้อย ผลออกมาก็ย่อมต่างกันค่ะ
4. ขึ้นชั่งน้ำหนักบนเครื่องชั่งเดิม ในตำแหน่งเดิม คุณรู้ไหมว่าการชั่งน้ำหนักบนเครื่องชั่งน้ำหนักที่ต่างกัน ก็อาจจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่เท่ากันด้วย อีกทั้งหากพื้นผิวหรือตำแหน่งที่วางเครื่องชั่งเปลี่ยนไป ก็อาจทำให้น้ำหนักคลาดเคลื่อนกันได้ แนะนำให้วางเครื่องชั่งน้ำหนักบนพื้นที่แข็ง เรียบราบ ไม่วางบนพรมหรือฟูก เพราะจะทำให้เครื่องชั่งน้ำหนักไม่อยู่นิ่งอาจทำให้คลาดเคลื่อนได้
5.หากเป็นไปได้ ควรใส่เสื้อตัวตัวเดิม หรือคล้ายเดิมขึ้นชั่ง นั่นก็เพื่อลดความคลาดเคลื่อนจากน้ำหนักเสื้อผ้าที่เราใส่ค่ะ นอกจากนี้ก็อย่าลืมนำเครื่องประดับ อย่างเช่น นาฬิกา สร้อยคอ แหวน รวมถึงกระเป๋า ออกมาวางไว้ข้างนอกก่อน ก็จะได้ค่าที่แม่นยำ และตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด
ชั่งน้ำหนักทุกวันดีไหม ควรชั่งบ่อยแค่ไหน?
หลายคนที่กำลังลดน้ำหนัก หรือกำลังดูแลรูปร่างของตัวเองย่างเคร่งครัด ก็คงจะกังวลกับตัวเลขน้ำหนักที่เปลี่ยนไปใช่ไหมล่ะคะ บางคนชั่งน้ำหนักทุกวัน วันละหลาย ๆ ครั้ง แน่นอนว่า น้ำหนักที่ลดลงก็อาจทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้น แต่ถ้าน้ำหนักเพิ่มขึ้นมา ไม่ว่าจะเพียงแค่จุดทศนิยม ก็อาจทำให้เครียดได้ใช่ไหมล่ะคะ ดังนั้น หากถามว่าชั่งน้ำหนักทุกวันดีไหม ก็บอกเลยว่าไม่แนะนำค่ะ
การชั่งน้ำหนักที่ดี ควรชั่งสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อให้เห็นภาพรวม และพัฒนาการของน้ำหนักตัวก็เพียงพอแล้วค่ะ หรือถ้าใครอดใจไม่ได้จริง ๆ อยากจะดูแบบละเอียดมากขึ้น ก็ให้ชั่งสัปดาห์ละ 2 ครั้งคือ ต้นสัปดาห์ และกลางสัปดาห์ก็พอแล้วค่ะ และที่สำคัญไม่ควรชั่งน้ำหนักตลอดทั้งวัน เช้า กลางวัน เย็น เพราะอาจทำให้กลายเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ เสียสุขภาพจิต หรือเกิดความเครียดได้ แถมยังไม่เห็นความแตกต่างของน้ำหนักเท่าไหร่ด้วยค่ะ
สรุป
การที่น้ำหนักของเราขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ตลอดไม่ใช่เรื่องแปลกเลยค่ะ ดังนั้น ไม่ต้องกังวลกับตัวเลขบนเครื่องชั่งน้ำหนักมากนะคะ เพราะสุดท้ายจะกลายเป็นเครียดไปเปล่า ๆ อย่างไรก็ตาม ถ้าอยากรู้น้ำหนักที่แม่นยำ หรือควรชั่งน้ำหนักตอนไหนดี เราก็แนะนำให้เป็นตอนเช้าหลังตื่นนอนจะดีที่สุดนะคะ เพราะเป็นช่วงที่น้ำหนักตัวเราคงที่และมีปัจจัยรบกวนน้อยที่สุด หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับสายรักสุขภาพทุกคนนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่สายรักการดูแลสุขภาพ ห้ามพลาด!!
เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล ราคาหลักร้อย แต่วัดค่าองค์ประกอบร่างกายได้ถึง 14 อย่าง!!!
ใครที่กำลังมองห [...]
พ.ค.
เม.ย.
How To กินน้ำลดน้ำหนัก ให้เห็นผล! ต้องกินวันละกี่ลิตร กินเวลาไหนบ้าง มาดูกัน!
กินน้ำลดน้ำหนัก [...]
ม.ค.
5 วิธี “ลดน้ำหนักเร่งด่วน” ไม่ต้องอดข้าวแบบ IF ก็เห็นผล ไม่โยโย่แน่นอน!!!
อยากลดน้ำหนักเร [...]
พ.ค.