บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น “ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้” หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
ท้องเสียกินไรได้บ้าง เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดอาการท้องเสีย หลายคนจะเกิดความกังวลในเรื่องของการทานอาหารเป็นอย่างมาก เพราะหากเลือกทานอาหารที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้นั่นเอง ท้องเสีย คือ การถ่ายอุจจาระมากกว่า 3 ครั้ง/วัน โดยมีลักษณะการถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ มีมูก เลือด หรือหยดน้ำมันปน ซึ่ง อาการท้องเสีย นอกจากจะมีลักษณะการขับถ่ายที่ผิดปกติแล้ว ยังมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่น มีไข้ ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน อ่อนแรง อย่างที่ทราบกันดีว่าเมื่อเกิดอาการท้องเสีย สิ่งสำคัญคือ ร่างกายจะต้องไม่ขาดน้ำเพราะอาจทำให้ช็อคได้ บทความนี้เลยมีข้อแนะนำเกี่ยวกับการทานอาหารมาฝาก
สารบัญ
- ท้องเสียกินอะไรได้บ้าง 5 อาหารที่ควรทาน เมื่อท้องเสีย
- อาหาร 5 สิ่งที่ไม่ควรกินเวลาท้องเสีย มีอะไรบ้าง
- ไม่อยากเป็นผู้ป่วยท้องเสีย ป้องกันการท้องเสียอย่างไรดี
ท้องเสียกินอะไรได้บ้าง 5 อาหารที่ควรทาน เมื่อท้องเสีย
ท้องเสียกินไรได้บ้าง แน่เลยว่าอาหารหลักของคนท้องเสียคือ การเลือกทานอาหารที่มีรสชาติอ่อน และควรระวังการทานอาหารที่มีรสจัด หรืออาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในส่วนของอาหารที่เหมาะกับผู้ที่มี อาการท้องเสีย ได้แก่
1.โจ๊ก หรือ ข้าวต้ม
ท้องเสียกินไรได้บ้าง โจ๊ก หรือ ข้าวต้ม เป็นอาหารที่ควรเลือกรับประทาน เนื่องจากเป็นอาหารประเภทที่ย่อยง่าย จะช่วยระบบย่อยให้ทำงานน้อยลง และสิ่งที่ผู้ที่มีอาการท้องควรทาน คือ อาหารประเภทแป้ง
2.ซุป
ซุป จัดเป็นอาหารประเภทเดียวกับโจ๊กและข้าวต้ม ไม่ว่าจะเป็นซุปอะไรผู้ป่วยท้องเสียสามารถทานได้ทั้งหมด เน้นเป็นซุปที่มีรสอ่อน ย่อยง่าย
3.กล้วย
เนื่องจากเจ้ากล้วยเป็นอาหารที่ย่อยง่าย กินอิ่มและอยู่ท้อง ทั้งยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ซึ่งสามารถบรรเทาความรุนแรงของอาการท้องเสียได้ สำหรับกล้วยที่ควรทานขณะท้องเสีย แนะนำเป็นกล้วยน้ำว้า เพราะยังมีสารเเทนนิน เเก้อาการท้องเสียได้ดีมาก ๆ
4.น้ำเปล่าสะอาด
ท้องเสียกินไรได้บ้าง หลัก ๆ คือ การดื่มน้ำเปล่าสะอาด เพื่อชดเชยของเหลวที่เสียไปภายในร่างกาย สำหรับน้ำเปล่า สามารถดื่มแทนน้ำแกลือแร่ได้โดยการจิบบ่อย ๆ หรือหากมีน้ำเกลือแร่จะช่วยทำให้อาการท้องเสียดีขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังช่วยลดภาวะเสี่ยงไม่ให้ช็อคอีกด้วย
5.แกงจืดเต้าหู้
สำหรับคนที่หายท้องเสียมาได้สักระยะ เริ่มรับประทานอาหารได้ปกติ แนะนำให้ทานเป็นอาหารอ่อนและย่อยง่ายเช่น แกงจืดเต้าหู้ เพราะคนที่เพิ่งหายจากท้องเสียใหม่ ๆ จะยังไม่เหมาะกับการทานอาหารที่มีกากใยสูง อย่างเช่น ผัก และ ผลไม้บางชนิด
อ่านบทความ : คาร์บอนแก้ท้องเสีย คืออะไร? กินแบบไหนถึงจะถูกต้อง!!อาหาร 5 สิ่งที่ไม่ควรกินเวลาท้องเสีย มีอะไรบ้าง
ท้องเสียห้ามกินอะไร หลังจากที่ได้ทราบไปแล้วว่า ท้องเสียกินไรได้บ้าง เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณท้องเสีย คุณจะต้องให้ความสำคัญในการเลือกทานอาหารให้มากที่สุด โดยอาหารที่คุณจะต้องหลีกเลี่ยง มีดังต่อไปนี้
อาหารที่ไม่ควรกินเมื่อท้องเสีย มีดังนี้
- ผลไม้และผักที่ทำให้เกิดแก๊ส เช่น บรอกโคลี พริก ถั่ว ถั่วลันเตา เบอร์รี ลูกพรุน ถั่วชิกพี ผักใบเขียว และข้าวโพด คาเฟอีน แอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มอัดลม
- นมและผลิตภัณฑ์จากนมอื่น ๆ ยกเว้นนมพร่องมันเนยหรือไม่มีแล็กโทส เพราะอาจทำให้เกิดแก๊สและท้องอืดมากขึ้น
- อาหารทอดและอาหารมัน เช่น เฟรนช์ฟราย พิซซ่า และชีสเบอร์เกอร์ อาหารรสเผ็ด อาหารแปรรูป โดยเฉพาะอาหารที่มีสารปรุงแต่ง ผักดิบ ผลไม้รสเปรี้ยว สับปะรด เชอร์รี เบอร์รีที่มีเมล็ด มะเดื่อ ลูกเกด และองุ่น
- สารให้ความหวานเทียมทุกชนิด รวมถึงซอร์บิทอล
- ผลไม้รสเปรี้ยว สับปะรด เชอร์รี เบอร์รีที่มีเมล็ด มะเดื่อ ลูกเกด และองุ่น รวมถึง ปลาซาร์ดีน หมู และเนื้อลูกวัว
ไม่อยากเป็นผู้ป่วยท้องเสีย ป้องกันการท้องเสียอย่างไรดี
ท้องเสียเป็นอาการเฉียบพลันที่ทุกคนไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน โดยเฉพาะการทานอาหารที่ไม่สะอาด มีสารปนเปื้อน เป็นต้น แต่เราสามารถป้องกันตนเองไม่ให้เสี่ยงท้องเสียได้ดังนี้
วิธีป้องกันอาการท้องเสีย มีดังนี้
- ปฏิบัติสุขอนามัยที่ดี เช่น ดื่มสะอาด หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีสารปนเปื้อน และน้ำแข็งที่ทำจากน้ำประปา รับประทานเฉพาะอาหารที่ปรุงสุกร้อนเท่านั้น เลือกทานอาหารที่บรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อการบริโภค หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์และอาหารทะเลดิบหรือปรุงไม่สุก
- เลือกรับประทานอาหารที่สมดุลและหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจทำให้อาการท้องเสียแย่ลง เช่น แอลกอฮอล์ สารให้ความหวานเทียม และผลไม้และผักบางชนิดที่ทำให้ท้องอืด
- ก่อนรับประทานอาหารทุกครั้งควรล้างมือให้สะอาด และล้างให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันการติดเชื้อจนนำไปสู่ท้องเสีย
- หากคุณมีอาการท้องเสียเรื้อรัง ให้พิจารณาจากอาหารที่ทานเพื่อระบุสาเหตุที่อาจเกิดขึ้น และปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและรับการรักษาอย่างถูกต้อง
- หากยังมีอาการท้องเสียเป็นเวลานานกว่า 2-3 วัน โดยมีลักษณะของอุจาระมีเลือด หนอง อุจจาระสีดำหรือซีด ร่วมกับมีไข้ หนาวสั่น หรือปวดท้อง ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
- หากมีอาการท้องเสียเฉียบพลันสามารถเลือกรับประทานโพรไบโอติกอย่างเหมาะสม เช่น Saccharomyces boulardii ซึ่งอาจช่วยบรรเทาอาการท้องเสียที่เกิดจากยาปฏิชีวนะหรืออาการท้องเสียจากการเดินทางได้
สรุป
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อแนะนำในการเลือกทานอาหารสำหรับผู้ป่วยท้องเสียที่เรานำมาฝาก ทั้งอาหารที่ควรทานระหว่างท้องเสีย และอาหารที่ไม่ควรทาน เพราะฉะนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ไม่ให้เกิดอาการรุนแรง และป้องกันไม่ให้เสี่ยงต่อการเกิดอาการท้องเสียเฉียบพลันบ่อย ๆ ควรเลือกทานอาหารที่สะอาด ถูกหลักอนามัย และควรมีประโยชน์ หมั่นล้างมือก่อนทานอาหารเป็นประจำเพียงแค่นี้คุณก็ไม่เสี่ยงเกิดอาการท้องเสียอีกต่อไป