บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น “ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้” หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
อาการคันรูทวาร เป็นการส่งสัญญาณอย่างหนึ่ง ที่บ่งชี้ว่าร่างกายของคุณกำลังมีความผิดปกติเกิดขึ้น ความรุนแรงของอาการคันรูทวารขึ้นอยู่กับสาเหตุและปัจจัยแวดล้อมที่มากระตุ้น แต่สามารถรักษาให้หายได้ ด้วยการทายา ผ่าตัด หรือการขับถ่าย
หากคุณกำลังประสบปัญหานี้อยู่ ควรปรึกษาแพทย์และทำการรักษาทันที เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น ในลำดับถัดไปเรามาเช็กถึงสาเหตุและสิ่งกระตุ้นที่ทำให้มีอาการคันบริเวณรูทวาร เพื่อหลีกเลี่ยงและทราบถึงต้นตอกันเลยดีกว่า
สารบัญ
- อาการคันรูทวาร เกิดจากอะไร
- อาการคันรูทวารเป็นอย่างไร คันแบบไหนควรไปหาหมอ
- อาการคันรูทวาร รักษาได้ไหม
- วิธีป้องกันอาการคันรูทวาร
อาการคันรูทวาร เกิดจากอะไร
อาการคันรูทวาร สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัยและทุกเพศ โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการคันรอบรูทวารนั้น มีด้วยกันหลายอย่าง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากทั้งปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมภายนอกและปัจจัยจากความผิดปกติภายในของร่างกาย ดังนี้
อาการคันรูทวาร เกิดจาก
- ใส่กางเกงที่รัดแน่นจนเกินไป จึงทำให้เกิดความอับชื้นบริเวณรูทวาร
- ขาดสุขอนามัยที่ดี เช่น ล้างก้นไม่สะอาด เช็ดก้นไม่แห้งก่อนสวมกางเกงใน
- การรับประทานอาหารรสจัด คาเฟอีน นมวัว แอลกอฮอล์ ทำให้มีอาการระคายเคือง
- สารปนเปื้อนในอุจจาระ มักเกิดในผู้ป่วยที่มีอาการท้องเสีย
- ติดเชื้อโรค เช่น เชื้อรา ยีสต์ ไวรัส จากการมีเพศสัมพันธ์
- การติดเชื้อจากพยาธิบางชนิด เช่น พยาธิเข็มหมุด พยาธิเส้นด้าย
- เป็นโรคริดสีดวงทวาร
- การแพ้ผลิตภัณฑ์ เช่น ผ้าอนามัย สบู่ กระดาษชำระ แป้ง น้ำยาซักผ้า หรือกางเกงชั้นใน เป็นต้น
- ยาปฏิชีวนะบางชนิด
- ผลจากโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์ โรคไต เบาหวาน เป็นต้น
- อาการข้างเคียงของโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งผิวหนัง มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นต้น
- ปัจจัยอื่นๆ เช่น ปัญหาทางด้านจิตใจ อาการเครียด
อาการคันรูทวารเป็นอย่างไร คันแบบไหนควรไปหาหมอ
อาการคันรูทวาร ส่วนใหญ่แล้ว จะไม่รุนแรง แต่แน่นอนเลยว่า ส่งผลต่อการดำเนินกิจกรรมในชีวิตประจำวัน และเป็นอุปสรรคต่อการเข้าสังคมเป็นอย่างมาก แต่หากผู้ป่วยเริ่มมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายรุนแรงต่อไป
อาการคันรูทวารแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์
- แผลเรื้อรัง เป็นผลมาจากการเกา หรือผู้ป่วยมีภาวะอ้วนเกินมาตรฐาน ทำให้เกิดการอับชื้นอยู่ตลอดเวลา
- ก้อนเนื้อ ผู้ป่วยที่มีอาการคันรูทวาร และมีก้อนเนื้อเกิดขึ้น อาจวินิจฉัยเบื้องต้นได้ว่า อาจเป็นผลมาจากโรคริดสีดวงหรือหูด เป็นต้น
- แผลติดเชื้อ สามารถสังเกตได้ง่ายๆ คือ มีอาการบวม แดง หากรุนแรงจะมีน้ำเหลืองไหลร่วมด้วย เกิดจากการเกาจนเป็นแผล พร้อมกับการไม่รักษาสุขอนามัย
- รู้สึกเจ็บบริเวณทวารหนัก อาการเจ็บหรือปวดบริเวณทวารหนัก อาจมีสาเหตุมาจากโรคริดสีดวงทวารหนัก
- มีเลือดออกขณะอุจจาระ สำหรับผู้มีอาการคันรูทวารหนัก การสังเกตอุจจาระเป็นเรื่องจำเป็น โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการคันเรื้อรัง
- มีอาการคันอย่างรุนแรง ความรุนแรงของอาการคันเกิดจากการปล่อยและละเลย ไม่ไปพบแพทย์ เมื่อมีเริ่มมีอาการ หากเกิดการติดเชื้ออาจทำให้เกิดการลุกลามไปยังบริเวณอื่นๆ
- ต่อมน้ำเหลืองโต
อาการคันรูทวาร รักษาได้ไหม
อาการคันรูทวาร สามารถรักษาให้หายได้ โดยการวินิจฉัยอาการคันรูทวารของแพทย์นั้น จะเริ่มจากการซักประวัติของคนไข้ ถามถึงอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นของผู้ป่วย ประวัติการใช้ยา การมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น การรักษาอาการคันรูทวาร แบ่งออกได้เป็น 3 ระยะ ดังนี้
การรักษาอาการคันรูทวาร
- รักษาอาการเบื้องต้น (อาการคันไม่รุนแรง) แพทย์จะรักษาด้วยการให้ยาทา หรือยารับประทาน และผู้ป่วยสามารถดูแลตัวเองควบคู่ไปด้วย เช่น การสวมเสื้อผ้าระบายอากาศ หรือเสื้อผ้าไม่รัดแน่นจนเกินไป
- รักษาต้นตอของการเกิด เช่น โรคภูมิแพ้ โรคผิวหนัง โรคริดสีดวงทวาร เป็นต้น ซึ่งก่อนจะทำการรักษา จะต้องทราบสาเหตุที่ชัดเจนก่อน และควบคุมสาเหตุของการเกิดโรคนั้นๆ
- การรักษาตามอาการ การรักษารูปแบบนี้ มักมีอาการเจ็บหรือปวดร่วมกับอาการคัน ทำให้ต้องรักษาอาหารเหล่านี้ให้หาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงอื่นๆ ตามมา
วิธีป้องกันอาการคันรูทวาร
อาการคันทวารหนักหรืออาการคันรูทวาร เป็นภัยที่ไม่รุนแรง แต่ส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและต่อสภาพจิตใจได้ ดังนั้นเรามาหาวิธีการป้องกันอาการคันรูทวารดังกล่าว เพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงและดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากความผิดปกติที่จะเกิดขึ้น
วิธีป้องกันอาการคันรูทวาร
- หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อผ้าที่รัดแน่นจนเกินไป โดยเฉพาะกางเกงชั้นใน
- รักษาความสะอาดบริเวณทวารให้ดี โดยล้างด้วยน้ำสะอาดและซับด้วยกระดาษทิชชู่เบาๆ ทุกครั้งหลังขับถ่าย
- ควรรักษาให้บริเวณทวารหนักแห้งตลอดเวลา
- หากมีอาการคันโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรสังเกตผลิตภัณฑ์ที่ใช้ เช่น น้ำยาซักผ้า ผงซักฟอก สบู่ เป็นต้น
- ควรทำกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ระบายอากาศได้ดี เพื่อลดความอับชื้นลง
- สำหรับผู้มีอาการคันที่ไม่รุนแรง ควรตัดเล็บให้สั้น เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และการเกิดแผล
- พบแพทย์ตั้งแต่เริ่มมีอาการ ไม่ควรละเลย จนมีอาการคันเรื้อรัง ยิ่งรักษาได้เร็วก็จะทำให้หายเร็วขึ้นด้วย
สรุป
อาการคันรูทวาร ปัญหาเล็กๆ ที่อาจจะลุกลามเป็นปัญหาใหญ่ได้ หากผู้ป่วยไม่สนใจและใส่ใจ อาการนี้เกิดขึ้นได้ในทุกช่วงอายุ ทั้งหญิงและชาย และมีสาเหตุมาจากปัจจัยต่างๆ เช่น การไม่รักษาความสะอาด การปล่อยให้บริเวณทวารอับชื้น การติดเชื้อจากไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา หรือพยาธิ จากการมีเพศสัมพันธ์หรือการใช้ห้องน้ำในที่สาธารณะ เป็นต้น
หากใช้มือเกาไปเรื่อยๆ จะทำให้เกิดแผล และมีอาการรุนแรงขึ้น เช่น ในผู้ป่วยบางคนมีน้ำเหลืองไหลออกมา มีความรู้สึกเจ็บและปวด และหากมีก้อนเนื้อ หรือมีเลือดขณะขับถ่าย จะต้องพบแพทย์อย่างเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วย