ปัญหาสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุ นับว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตามวัย และเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะฉะนั้น การดูแลช่องปากผู้สูงอายุ เพื่อให้สุขภาพฟันและช่องปากแข็งแรงจึงเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก ทั้งนี้หาก การดูแลช่องปากผู้สูงอายุ ไม่ถูกต้องก็อาจจะเกิดปัญหา สุขภาพฟันผู้สูงอายุ ได้ เราเลยมีข้อมูลเกี่ยวกับ การดูแลช่องปากผู้สูงอายุ ไม่มีฟัน และมีฟันมาฝาก เพื่อการดูแลสุขภาพช่องปากได้อย่างถูกต้อง
สารบัญ
- ปัญหาสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง ส่งผลกระทบอย่างไร
- การดูแลช่องปากผู้สูงอายุที่มีฟัน และไม่มีฟัน (หรือใส่ฟันปลอม)
- จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไม่ดูแลสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ
ปัญหาสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง ส่งผลกระทบอย่างไร
เมื่ออายุมากขึ้น หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อย คือ ปัญหาสุขภาพช่องปากในผู้สูงอายุ มักจะเกิดขึ้นหลายปัญหาในเวลาเดียวกัน บทความนี้ Allwell ได้รวบรวมปัญหาสุขภาพในช่องปากผู้สูงอายุที่เราพบได้บ่อย ๆ มีดังต่อไปนี้ และแต่ละปัญหาสุขภาพช่องปากนั้นก็จะมีผลกระทบที่แตกต่างกันออกไป
1.สูญเสียฟัน
สูญเสียฟัน เป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพในช่องปากผู้สูงอายุที่พบได้บ่อยที่สุด และมักเป็นอาการท้าย ๆ ของโรคในช่องปากอีกด้วยไม่ว่าจะเป็น โรคเหงือกอักเสบ หรือโรคฟันผุทะลุโพรงประสาทฟัน ซึ่งไม่สามารถรักษาได้ด้วยการบูรณะฟันจนต้องถอนออก
2.ฟันผุ รากฟันผุ
ฟันผุ รากฟันผุ มักพบที่บริเวณคอฟันและรากฟันเป็นส่วนใหญ่ โดยมีสาเหตุการเกิดจากการสูญเสียเนื้อเหงือกและกระดูกรองรับรากฟันเสื่อมจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดอาการเจ็บปวด และต้องรักษาด้วยการถอนทิ้งในที่สุด หาก การดูแลช่องปากผู้สูงอายุ ไม่ดีพอ ปัญหาช่องปากนี้สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายมาก ๆ
3.ปากแห้ง น้ำลายน้อย
เป็นอีกหนึ่งภาวะที่พบได้บ่อยในปัญหาสุขภาพ ฟันผู้สูงอายุ สำหรับปัญหานี้เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น ร่างกายผลิตน้ำลายได้น้อยลง ผลข้างเคียงที่เกิดจากการเป็นโรคเบาหวาน หรือการใช้ยารักษาโรคบางชนิด เช่น ยานอนหลับ หรือยาขับปัสสาวะ อาจส่งผลทำให้ริมฝีปากแห้งกร้าน และแตกได้
4.เหงือกอักเสบ
การดูแลช่องปากผู้สูงอายุมักจะละเลยการทำความสะอาดฟันและช่องปากที่ถูกวิธี หรือทำความสะอาดฟันปลอมได้ไม่ดีพอ จึงทำให้เกิดการสะสมของคราบจุลินทรีย์ เกิดการสะสมของคราบหินปูน และนำไปสู่โรคเหงือกอักเสบ โรคปริทันต์ หรือโรคฟันผุ ส่งผลกระทบทำให้เหงือกบวม เกิดการอักเสบได้ง่าย
อ่านบทความ : ฟันผุ ปล่อยไว้นาน เสี่ยงทะลุถึงโพรงประสาทการดูแลช่องปากผู้สูงอายุที่มีฟัน และไม่มีฟัน (หรือใส่ฟันปลอม)
เราสามารถทำการดูแลช่องปากผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุมีฟัน หรือไม่มีฟัน ตลอดจนผู้สูงอายุที่ใส่ฟันปลอมได้ง่ายนิดเดียว เช่นเดียวกับการดูแลสุขภาพช่องปากของทุกคนโดยทั่วไป เพียงแค่ในวัยผู้สูงอายุนั้นอาจจะต้องให้ความใส่ใจมากกว่าปกติ โดยวิธีการดูแลช่องปากผู้สูงอายุ มีดังนี้
วิธีการดูแลช่องปากสำหรับผู้สูงอายุ มีดังนี้
- เลือกใช้แปรงสีฟันที่มีลักษณะขนแปรงที่อ่อนนุ่ม แปรงสีฟันมีขนาดเหมาะมือ และควรใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า และ ก่อนเข้านอน
- ในขั้นตอนของการแปรงฟันนั้นผู้สูงอายุควรแปรงให้ครบทุกซี่อย่างเบามือด้วยท่าทางที่ถูกต้อง ในกรณีที่มีฟันซี่ที่อยู่โดด ๆ แนะนำให้ใช้แปรงกระจุกเดียวทำความสะอาดรอบ ๆ
- ใช้ไหมขัดฟันในส่วนที่ทำความสะอาดได้ยากอย่างซอกฟัน เพื่อกำจัดเศษอาหารที่อาจตกค้างอยู่
- ใช้ผ้าก็อซพับเป็นแถบขนาดเล็ก ๆ โอบเช็ดฟันด้านที่ติดกับช่องว่างที่ถอนฟัน เน้นเช็ดทำความสะอาดให้ชิดกับขอบเหงือกให้มากที่สุด
- นอกจากการทำความสะอาดอย่างถูกต้อง และสม่ำเสมอแล้ว การเข้ารับการขูดหินปูน และตรวจสุขภาพฟันและช่องปากทุก ๆ 6 เดือน ก็เป็นการดูแลสุขภาพช่องปากที่ไม่ควรละเลยเป็นอย่างมาก
- ในกรณีที่สูญเสียฟันจนมีช่องว่างระหว่างฟัน ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจทำให้ฟันล้มฟันในระยะยาวได้ ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อวางแผนทำฟันปลอมทดแทน
- สำหรับผู้สูงอายุคนไหนที่ไม่มีฟันเลย และต้องใช้ฟันปลอม ควรทำความสะอาดฟันปลอมให้สะอาดเช่นเดียวกับฟันแท้ โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีคุณภาพ และควรใช้นำยาทำความสะอาดช่องปากที่เหมาะสม เพื่อการมีสุขภาพช่องปากที่แข็งแรง และสุขภาพดีตลอดเวลา
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไม่ดูแลสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ
หากไม่ดูแลสุขภาพฟันและช่องปากอย่างถูกวิธี จะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากต่าง ๆ ลุกลามอย่างรวดเร็ว และส่งผลให้เกิดการสูญเสียฟันเป็นจำนวนมากได้ด้วย ซึ่งการสูญเสียฟันจำนวนมากนั้น จะส่งผลกระทบต่าง ๆ ตามมามากมาย โดยเฉพาะการบดเคี้ยวอาหารแย่ลง ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างเพียงพอ เกิดการเจ็บป่วยง่าย ทั้งยังทำให้พูดไม่ชัดอีกด้วย
อ่านบทความ : ปากแห้ง เกิดจากอะไร? แห้งแตกแบบไหนควรรีบไปหาหมอ!?สรุป
ไม่ว่าเราจะอยู่ในช่วงวัยไหนก็ตาม การดูแลสุขภาพช่องปากให้แข็งแรงอยู่เสมอเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ เพราะเมื่อเรามีสุขภาพช่องปากที่ดี ไม่ว่าจะเป็น เหงือก หรือฟัน จะช่วยให้สามารถทานอาหารได้อย่างมีคุณภาพ ตลอดจนได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน และยังช่วยเพิ่มความมั่นใจเมื่อต้องอยู่กับผู้คนมากมายอีกด้วย เพราะฉะนั้นจำเป็นอย่างมากที่เราจะต้องให้ความสำคัญต่อสุขภาพช่องปากตั้งแต่วัยเด็กตลอดจนวัยสูงอายุ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกี่ยวกับช่องปากนั่นเอง ซึ่งการดูแลสุขภาพช่องปากก็สามารถทำได้ง่ายตามที่เราได้กล่าวไปข้างต้นได้เลย