5 ผลไม้ลดเบาหวาน น้ำตาลน้อย ผู้ป่วยโรคเบาหวานกินได้!

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น “ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้” หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย

สำหรับผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานนั้นต้องมีความระมัดระวังในการดำเนินชีวิต ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากระดับอินซูลินในร่างกายที่ไม่สมดุลของผู้ป่วยโรคเบาหวานจะนำมาซึ่งอาการหรือสภาวะโรคที่รุนแรงขึ้นได้ การควบคุมชนิดและปริมาณในการรับประทานอาหารหรือเลือกทานแต่ผลไม้ลดเบาหวาน ก็เป็นหนึ่งเรื่องซึ่งนำความลำบากมาให้กับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

นอกจากนี้ ผลไม้หลาย ๆ ชนิดก็มักมีรสชาติหวานและมีองค์ประกอบเป็นน้ำตาลในปริมาณสูง การเลือกรับประทานผลไม้ของผู้ป่วยโรคเบาหวานจึงต้องอาศัยความระมัดระวังด้วยเช่นกัน และเรามีผลไม้ลดเบาหวานมาแนะนำกับทุกท่านในบทความนี้กัน

สารบัญ

ผลไม้ลดเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือดมีอะไรบ้าง?
ผลไม้ที่ผู้ป่วยเบาหวานไม่ควรกิน
เผลอกินผลไม้น้ำตาลเยอะเข้าไป ทำยังไงดี

ผลไม้ลดเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือดมีอะไรบ้าง?

หลาย ๆ คน ชอบให้ผู้ป่วยกินผลไม้เป็นเหมือนอาหารว่าง หรือของหวานหลังมื้ออาหาร แต่ผลไม้เองก็เป็นตัวอันตรายกับผู้ป่วยโรคเบาหวานถ้าเลือกผิดชนิด เนื่องจากมีน้ำตาลสูง โดยเราได้รวบรวมผลไม้ลดเบาหวานล้วนที่เป็นผลไม้ที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถทานได้ รวมไปถึงปริมาณที่ควรกินในแต่ละวันด้วย ดังนี้

ผลไม้ที่คนเป็นเบาหวานทานได้

1.อะโวคาโด

ผลไม้ซึ่งอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวในปริมาณสูง แต่ให้พลังงานต่ำ จึงเหมาะมากสำหรับการเป็นผลไม้ลดเบาหวาน และด้วยเหตุนี้ทำให้อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่เมื่อรับประทานแล้วทำให้เกิดอาการอิ่มที่ยาวนาน นอกจากนี้อะโวคาโดยังมีสรรพคุณที่โดดเด่นเหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานเพราะสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี

ปริมาณที่แนะนำสำหรับการรับประทานอะโวคาโดใน 1 วัน คือ ปริมาณครึ่งลูก

2.แอปเปิ้ลเขียว

ผลไม้ลดน้ำตาลในเลือดชนิดที่สองที่เราขอมาแนะนำกันในบทความนี้ก็คือ แอปเปิ้ลเขียว ที่มีรสชาติโดดเด่นแตกต่างจากแอปเปิ้ลชนิดอื่น ๆ อย่างการมีรสชาติที่ติดเปรี้ยวเล็กน้อย แอปเปิ้ลเขียวจึงไม่เพียงมีระดับน้ำตาลเหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน แต่ยังอุดมไปด้วยวิตามินซีซึ่งมีส่วนช่วยลดการเกิดหวัด การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายอีกด้วย

ปริมาณที่แนะนำสำหรับการรับประทานแอปเปิ้ลเขียวใน 1 วัน คือ ไม่เกิน 4 ลูกต่อวัน

3.แก้วมังกร

แก้วมังกรกับผลไม้แก้เบาหวานที่อุดมไปด้วยสารมิวซิเลจซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลกลูโคสในร่างกาย จึงสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้แก้วมังกรยังอุดมไปด้วยเส้นใย จึงมีส่วนช่วยในระบบขับถ่ายของร่างกายให้เกิดความคล่องตัว ลดอาการท้องผูก จึงช่วยลดน้ำหนักได้ไปในตัวด้วย

ปริมาณที่แนะนำสำหรับการรับประทานแก้วมังกรใน 1 วัน คือ ไม่เกิน 1 ลูกต่อวัน

4.ฝรั่ง

ผลไม้ลดเบาหวานที่ช่วยเพิ่มสมดุลของฮอร์โมนอินซูลินซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญที่ควบคุมระดับน้ำตาลภายในร่างกาย ฝรั่งจึงไม่เพียงเป็นผลไม้ แต่ยังนับเป็นยารักษาโรคเบาหวานที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย นอกจากนี้ฝรั่งยังอุมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดผลกระทบของสิ่งเร้าภายนอกที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงและผิวพรรณงดงาม

ปริมาณที่แนะนำสำหรับการรับประทานฝรั่งใน 1 วัน คือ ไม่เกิน 1 ลูกต่อวัน

5.ชมพู่

ผลไม้ลดเบาหวานชนิดสุดท้ายที่เราขอนำเสนอในบทความวันนี้ โดยชมพู่สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือด ช่วยลดการอุดตันของไขมันภายในร่างกาย รวมไปถึงฝรั่งยังอุดมไปด้วยวิตามินเอที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบำรุงสายตา และ ชมพู่ก็เป็นผลไม้ที่มีกากใยไม่น้อยหน้าผลไม้อีก 4 ชนิดข้างต้นเลย

ปริมาณที่แนะนำสำหรับการรับประทานชมพู่ใน 1 วัน คือ ไม่เกิน 1 ลูกต่อวัน

โรคเบาหวาน สาเหตุ เกิดจากอะไร? กินของหวาน เสี่ยงเป็นเบาหวานจริงหรือไม่?

ผลไม้ที่ผู้ป่วยเบาหวานไม่ควรกิน

นอกจากจะมีผลไม้แก้เบาหวาน น้ำตาลต่ำที่ผู้ป่วยเบาหวานสามารถทานได้แล้วนั้น ผลไม้ลดเบาหวานย่อมต้องมาคู่กับ ผลไม้ที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะผลไม้เหล่านี้มีรสชาติที่หวาน แถมยังอุดมไปด้วยน้ำตาลในปริมาณสูง ซึ่งมีดังนี้

รวมผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง

ทุเรียน ใน 100 กรัมจะมีปริมาณน้ำตาลที่สูงถึง 20 กรัม
น้อยหน่า ใน 100 กรัมจะมีปริมาณน้ำตาลที่สูงถึง 16 กรัม
ละมุด ใน 100 กรัมจะมีปริมาณน้ำตาลที่สูงถึง 17 กรัม
ลิ้นจี่ ใน 100 กรัมจะมีปริมาณน้ำตาลที่สูงถึง 14 กรัม
องุ่น ใน 100 กรัมจะมีปริมาณน้ำตาลที่สูงถึง 16 กรัม
เมล่อน ใน 100 กรัมจะมีปริมาณน้ำตาลที่สูงถึง 11 กรัม
สับปะรด ใน 100 กรัมจะมีปริมาณน้ำตาลที่สูงถึง 10 กรัม

แตงโม ใน 100 กรัมจะมีปริมาณน้ำตาลที่สูงถึง 6 กรัม
มะม่วง ใน 100 กรัมจะมีปริมาณน้ำตาลที่สูงถึง 14 กรัม
กล้วย
1. กล้วยไข่ ใน 100 กรัมจะมีปริมาณน้ำตาลที่สูงถึง 22 กรัม
2. กล้วยหอม ใน 100 กรัมจะมีปริมาณน้ำตาลที่สูงถึง 20 กรัม
3. กล้วยน้ำว้า ใน 100 กรัมจะมีปริมาณน้ำตาลที่สูงถึง 19 กรัม
ลำไย ใน 100 กรัมจะมีปริมาณน้ำตาลที่สูงถึง 18 กรัม
ส้ม ใน 100 กรัมจะมีปริมาณน้ำตาลที่สูงถึง 9 กรัม

ตรวจเบาหวาน แต่ละครั้ง ได้ค่าไม่เท่ากันเลย เป็นแบบนี้เครื่องตรวจวัดน้ำตาลเสียหรือเปล่า?

เผลอกินผลไม้น้ำตาลเยอะเข้าไป ทำยังไงดี

ในบางครั้งการกินผลไม้ลดเบาหวานอาจจะไม่ถูกปากเท่า ผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง ด้วยรสชาติที่ถูกปาก และการได้รับประทานผลไม้ซึ่งออกตามช่วงฤดูกาลเท่านั้น ก็อาจทำให้หลาย ๆ ท่านเผลอรับประทานผลไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินไป และยิ่งถ้าผลไม้ชนิดนั้นเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยน้ำตาลในปริมาณสูงแล้ว คุณเองก็ควรปฏิบัติตน ดังนี้

ผู้ป่วยเบาหวาน ควรมีการตรวจระดับน้ำตาลอยู่เป็นประจำ เพื่อช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์เสมอ ด้วยเครื่องตรวจวัดน้ำตาล Glucosure Autocode

ขั้นตอนการดูแลตัวเองเมื่อกินผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง

การตั้งสติ คุณไม่ควรวิตกกังวลจนเกินเหตุ แต่คุณควรตั้งสติ เพื่อให้เกิดการรับรู้ในปริมาณของผลไม้ที่คุณเผลอรับประทานเข้าไป
การตรวจสอบระดับน้ำตาลของตน สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานจะทราบดีว่าระดับน้ำตาลในเลือดจะมีผลต่อสุขภาพและอาการที่ปรากฎของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นอาการวิงเวียน หน้ามืด หรือ หมดสติ
รับประทานยาลดน้ำตาล ผู้ป่วยโรคเบาหวานบางท่านจะมียาลดระดับน้ำตาลในเลือดติดตัวเสมอ ซึ่งโดยปกติจะมีการรับประทานเป็นช่วงเวลา แต่หากน้ำตาลเกิน แพทย์จะให้ยาฉุกเฉินเพื่อควบคุมอาการไว้ คุณก็ควรหยิบยาดังกล่าวมารับประทาน
การเข้าพบแพทย์โดยด่วน แม้ว่าคุณจะทำตามข้อ 3 ผ่านมาเป็นเวลาครึ่ง – 1 ชั่วโมงแล้ว ก็ยังไม่ปรากฎว่าอาการทั้งวิงเวียน หน้ามืด จะหายไป รวมไปถึงระดับน้ำตาลในเลือดก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง คุณควรไปพบแพทย์แล้วรีบแจ้งอาการที่เกิดขึ้น เพื่อการประเมิน วินิจฉัย และ การรักษาที่ทันการณ์

สรุป

แม้จะป่วยเป็นโรคเบาหวาน และ เรามักถูกสอนมาว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่รสชาติหวาน รวมถึงผลไม้ด้วย แต่จากบทความข้างต้นก็จะทำให้ผู้ที่กำลังเป็นโรคเบาหวาน หรือ ผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานรับทราบถึงข้อมูลอีกชุดหนึ่งซึ่งล้วนเป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลไม้ลดเบาหวานที่จะกลายเป็นทางเลือกของอาหารสุขภาพสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานทุกท่าน