มี.ค.
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น “ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้” หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
หลายคนคงเคยได้ยินกันบ่อย ๆ เกี่ยวกับเรื่อง ของแสลง การห้ามทานอาหารต่าง ๆ เมื่อป่วยหรือไม่สบาย และเกิดเป็นคำถามมากมายว่า การทาน อาหารแสลง ยิ่งทานยิ่งทำให้อาการป่วยแย่ลงจริงหรือ บทความนี้เรามีคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝาก ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราป่วยหากเราเลือกทานอาหารอย่างเหมาะสม จะช่วยให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วแน่นอน ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักกับ ของแสลง คืออะไรกันก่อนเลยดีกว่า
สารบัญ
อาหารแสลงคืออะไร?
ของแสลง คือ อาหารที่ควรงดทานในช่วงเวลาหนึ่งที่ยังมีอาการเจ็บป่วย หรือในกรณีของผู้ที่เพิ่งผ่าตัด แพทย์จะสั่งห้ามทานอาหารที่เป็นของแสลง หลังผ่าตัด เนื่องจากอาหารแสลงเป็นสาเหตุหลักที่ทำปฏิกิริยากับร่างกายและส่งผลให้แผลจากการผ่าตัดหายช้า หลายคนทานของแสลง คัน หรือทาน อาหารแสลง น้ำเหลืองเสีย อีกทั้งอาหารบางชนิดที่ทานอาจจะส่งผลต่ออาการอักเสบ เกิดอาการป่วยเรื้อรังได้ด้วย
BLOOD PRESSURE MONITOR JPD-HA120
Original price was: 2,490฿.1,390฿Current price is: 1,390฿.
เชื่อมต่อ Bluetooth เพื่อดูค่าและเก็บข้อมูลบนแอปพลิเคชันได้ | ระบบเสียงภาษาไทย | รับประกันสินค้า 3 ปี
BLOOD PRESSURE MONITOR BSX593
1,290฿
ระบบเสียงภาษาไทย | หน้าจอเปลี่ยนสีตามความดันโลหิตที่วัดได้
BLOOD PRESSURE MONITOR BSX532
Original price was: 2,580฿.1,490฿Current price is: 1,490฿.
ระบบเสียงภาษาไทย | หน้าจอเปลี่ยนสีตามความดันที่วัดได้ | ตั้งปลุกเพื่อเตือนให้วัดความดันโลหิตได้
Glucosure Autocode
Original price was: 2,490฿.1,190฿Current price is: 1,190฿.
แผ่นและเข็มอย่างละ 25 ชิ้น | รับประกันตลอดอายุการใช้งาน
GlucoAll-1B
1,190฿
บันทึกค่าได้ 400 ข้อมูล | ตั้งค่าโหมดการวัดก่อน-หลังมื้ออาหารได้ | รับประกันตลอดอายุการใช้งาน
อาหารแสลงกับโรคต่าง ๆ มีอะไรบ้าง
ของแสลงกับโรคต่าง ๆ มีอะไรบ้าง หลายคนยังไม่รู้ว่า อาหารแสลง ผลไม้แสลง อะไรบ้างที่ไม่ควรทานเมื่อป่วยด้วยอาการต่าง ๆ สำหรับอาหารแสลงกับโรคต่าง ๆ ที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อให้อาการป่วยของโรคไม่รุนแรงขึ้น มีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย
1.ไข้สูง ห้ามกินอาหารรสเผ็ดร้อน เปรี้ยว และมัน
อาการไข้สูงเกิดจากธาตุไฟกำเริบ เมื่อร่างกายมีความร้อนมากขึ้นกว่าปกติการรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน เปรี้ยว และมัน จะทำให้เป็นการเพิ่มความร้อนให้กับร่างกาย จึงควรรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์เย็นหรือน้ำเยอะ ๆ เช่น แตงกวา แตงโม ฟัก มะระขี้นก เป็นต้น
2.ไอเจ็บคอ อาหารแสลงคือ อาหารทอด อาหารมันและน้ำเย็น
เมื่อมีอาการไอ เจ็บคอ ที่เกิดจากการป่วย ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารทอด หรืออาหารที่มีความมัน เพราะจะส่งผลให้หลอดลมเกิดการระคายเคืองตลอดเวลา นอกจากนี้อาหารที่มีรสหวานจัด ขนมหรือผลไม้แห้ง ๆ ยังทำให้หลอดลมระคายเคืองตลอดเวลาอีกด้วย ส่งผลทำให้มีอาการไอ และเจ็บคออยู่ตลอดเวลา จึงควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ให้มากที่สุด
3.ท้องอืดท้องเฟ้อ ห้ามกินอาหารรสเย็น ขม ฝาด
ท้องอืด ท้องเฟ้อ ควรหลีกเลี่ยงการทาน ผักสด ผลไม้ ที่มีฤทธิ์เย็น เช่น ผักกาด ตำลึง ใบย่านาง ฟ้าทะลายโจร เนื่องจากเป็น ของแสลง หากกินในปริมาณมากเกินไป จะทำให้มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้ ส่วนการรับประทานสมุนไพรหรือผักที่มีฤทธิ์ร้อนจะช่วยในการระบายลมได้ เช่น ขิง กระเพรา พริกไทยดำ เป็นต้น หรือการดื่มน้ำมะนาวก็มีส่วนช่วยกระตุ้นระบบการย่อยอาหารได้ดีเลยทีเดียว
4.โรคกระเพาะ หรือระบบการย่อยไม่ดี อาหารแสลงคือ ของเผ็ด มัน อาหารหมักดอง
โรคกระเพาะ มีปัญหาเกี่ยวกับระบบการย่อยอาหาร ของแสลง ที่ไม่ควรทานคือ อาหารประเภทของเผ็ด ของทอด-มัน ช็อคโกแล็ต ของหมักดอง ผักดิบ ผลไม้รสเปรี้ยว เครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ กาแฟ เนื่องจากเป็นตัวกระตุ้นโรคกระเพาะกำเริบ ควรเลือกทานอาหารปริมาณน้อยหลายมื้อ กินอาหารตามเวลา และเลือกทานอาหารอ่อนย่อยง่าย
5.โรคความดันเลือดสูง
ในผู้สูงอายุที่เป็นโรคความดันเลือดสูง ควรหลีกเลี่ยงอาหารมัน อาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูง เช่น หมูสามชั้น ตับ สมอง ถั่ว น้ำมันหมู ไขกระดูก ไข่ปลา โกโก้ น้ำมันเนย เพราะอาหารเหล่านี้จะทำให้เกิดความร้อนชื้นสะสมในร่างกาย กระตุ้น ทำให้ความดันสูง นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ด อาหารหวาน เพราะหากทานในปริมาณที่มากและทานบ่อย ๆ จะส่งผลทำให้ผู้ป่วยหมดสติ เสียชีวิต จากภาวะเส้นเลือดในสมองแตกได้นั่นเอง
6.โรคตับหรือโรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี
ผู้ป่วยโรคนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารพวกเหล้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารมัน เนื้อติดมัน เครื่องในสัตว์ อาหารหวานจัด ทั้งยังเป็น อาหารแสลง เนื้องอกมดลูก เนื่องจาก ถุงน้ำดี มีความสัมพันธ์กับระบบย่อยอาหาร การทานอาหารประเภทดังกล่าวมากเกินไป จะส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร เกิดโทษต่อตับและถุงน้ำดีนั่นเอง
7.โรคหัวใจ โรคไต
ผู้ป่วยที่มีโรคหัวใจ โรคไต ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัด เพราะรสเค็มทำให้มีการเก็บกักน้ำ การไหลเวียนเลือดจะช้า เป็นภาระต่อหัวใจในการทำงานหนักเพิ่มขึ้น อาหารที่มีรสเผ็ดยังมีฤทธิ์กระตุ้นการไหลเวียนทำให้ต้องสูญพลังงานมาก และหัวใจก็ต้องทำงานหนักขึ้นอีกด้วย ผู้ป่วยโรคนี้จึงควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีรสเค็มจัด และควรงดของมันโดยเด็ดขาดด้วยเช่นกัน
8.โรคเบาหวาน
ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวาน หรืออาหารประเภทแป้งที่มีแคลอรีสูง เช่น มันฝรั่ง มันเทศ ของหวานทุกชิด เพื่อการมีสุขภาพที่ดีแนะนำให้ทานอาหารพวกถั่ว เช่น เต้าหู้ นมวัว เนื้อสันไม่ติดมัน ปลา ผักสด เป็นต้น และที่สำคัญก็คือ ผู้ป่วยจะต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องของการควบคุมปริมาณน้ำในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
สรุป
อาหารแสลงไม่ได้เป็นแค่ความเชื่อของคนสมัยก่อน แต่การทานอาหารแสลงส่งผลกระทบต่อสุขภาพจริง ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เพราะจะทำให้ผู้ป่วยหายจากอาการป่วยช้า และยังทำให้เกิดผลข้างเคียงยากต่อการรักษาอีกด้วย เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะป่วยด้วยโรคอะไรก็ตามสิ่งสำคัญก็คือ การควบคุมอาหาร โดยเลือกทานเฉพาะอาหารที่มีประโยชน์และส่งผลดีต่อสุขภาพเท่านั้น หลีกเลี่ยงการทานอาหารแสลงเพื่อไม่ให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว
