บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น “ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้” หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคกรวยไตอักเสบ หรือการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTI) เป็นภาวะทั่วไปที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้านทุกปี เกิดขึ้นเมื่อแบคทีเรียเข้าสู่ทางเดินปัสสาวะ กรวยไตอักเสบ อาการที่เกิดขึ้นจะทำให้รู้สึกไม่สบายได้
การตระหนักถึงสัญญาณเตือนของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเป็นสิ่งสำคัญเพื่อที่จะไปพบแพทย์ทันทีและป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้ทัน ในบทความนี้ จะสรุปอาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคกรวยไตอักเสบ และภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น รวมไปถึงแนวทางการป้องกัน
สารบัญ
- กรวยไตอักเสบ อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนไหม
- กรวยไตอักเสบ อาการป่วยนี้เกิดจากอะไร ใครบ้างที่เสี่ยง
- กรวยไตอักเสบ อาการนี้ปล่อยไว้อันตรายแค่ไหน เสี่ยงเกิดโรคแทรกซ้อนอะไรบ้าง
- ป้องกันกรวยไตอักเสบ อาการนี้ได้อย่างไร
- การดูแล รักษากรวยไตอักเสบ อาการป่วยนี้
กรวยไตอักเสบ อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนไหม
หลาย ๆ ท่านอาจจะทราบกันแล้วว่า โรคกรวยไตอักเสบ อาการที่เกิดขึ้นจะเป็นลักษณะของการปัสสาวะแล้วแสบ หรือติดขัด แต่จริง ๆ แล้วมักจะมีสัญญาณเตือนก่อนเกิดการอักเสบ ซึ่งสัญญาณเตือนกรวยไตอักเสบ ที่สำคัญของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบคือ การมีอาการบางอย่าง ซึ่งในแต่ละบุคคลอาจมีสัญญาณเตือนที่แตกต่างกันออกไป
สัญญาณเตือนอาการกรวยไตอักเสบ
- ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบมักพบความถี่และความเร่งด่วนในการปัสสาวะเพิ่มขึ้น
- อาจรู้สึกว่าจำเป็นต้องปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ แม้ว่าปริมาณปัสสาวะที่ผลิตออกมาจะน้อยก็ตาม
- ความเจ็บปวดหรือไม่สบายในระหว่างการถ่ายปัสสาวะยังเป็นอาการทั่วไปของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- มีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ และอาเจียน
- มีอาการหนาวสั่น อาจมีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียสร่วมด้วย
- ปัสสาวะขุ่นหรือมีเลือดปน การมีเลือดปนในปัสสาวะ เป็นสัญญาณเตือนกรวยไตอักเสบ อาการที่ไม่ควรเพิกเฉย เนื่องจากอาจบ่งบอกถึงโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบหรือการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะอื่น
กรวยไตอักเสบ อาการป่วยนี้เกิดจากอะไร ใครบ้างที่เสี่ยง
โรคกรวยไตอักเสบ อาการป่วยนี้มักเกิดจากการติดเชื้อจากแบคทีเรียก่อโรค ที่มีชื่อว่า E.coli (อีโคไล) โดยที่ปัจจัยเสี่ยงทั้งภายในและภายนอกหลาย ๆ อย่างก็จะช่วยเพิ่มโอกาส ในการเกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบมากกว่าผู้ชาย
ผู้ที่มีความเสี่ยงเกิดอาการกรวยไตอักเสบ
- เพศหญิง เนื่องจากท่อปัสสาวะของผู้หญิงจะมีขนาดที่สั้นกว่า ทำให้แบคทีเรียเข้าสู่ทางเดินปัสสาวะได้ง่ายขึ้น
- ผู้ที่ชอบกิจกรรมทางเพศที่รุนแรง แรงเสียดทานและแรงกดระหว่างการมีเพศสัมพันธ์อาจทำให้แบคทีเรียเข้าสู่ท่อปัสสาวะได้ เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ
- ผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดบางประเภท เช่น ไดอะแฟรมหรือสารฆ่าเชื้ออสุจิ สามารถนำไปสู่การเกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้
- ผู้ที่กำลังมีอาการติดเชื้อ หรือเคยมีอาการติดเชื้อมาก่อน
- ผู้ที่มีการกลั้นปัสสาวะอยู่บ่อยครั้ง
- ผู้ที่จำเป็นต้องมีการใส่สายสวนปัสสาวะ หรือเคยใช้สายสวนปัสสาวะ
- สตรีที่กำลังตั้งครรภ์เองก็ภาวะเสี่ยงที่จะเป็นกรวยไตอักเสบ อาการป่วยนี้ได้
- ผู้ที่มีภาวะร่างกายที่อ่อนแอ หรือภูมิคุ้มกันตก เช่น ผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน หรือโรคเอดส์
กรวยไตอักเสบ อาการนี้ปล่อยไว้อันตรายแค่ไหน เสี่ยงเกิดโรคแทรกซ้อนอะไรบ้าง
แม้ว่าโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบโดยทั่วไปจะมีอาการไม่รุนแรงและสามารถรักษาได้ แต่ก็สามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนได้หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา ซึ่งการติดเชื้อซ้ำเป็นภาวะแทรกซ้อนของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หากไม่ระบุสาเหตุของการติดเชื้อ อาจนำไปสู่โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้
โรคแทรกซ้อนของกรวยไตอักเสบ อาการป่วยนี้
- นำไปสู่การติดเชื้อในไตหรือที่เรียกว่า pyelonephritis ซึ่งอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น เช่น มีไข้ กรวยไตอักเสบ ปวดหลัง และคลื่นไส้
- นำไปสู่ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งเป็นภาวะที่คุกคามถึงชีวิตโดยมีลักษณะเฉพาะคือการติดเชื้อทั่วร่างกาย
- หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจส่งผลต่าง ๆ ตามมา เช่น การติดเชื้อ ภูมิต้านทานผิดปกติ และยาหรือสารพิษ โดยอาจนำไปสู่โรคไตเรื้อรัง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไตวาย
- นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น ความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตเรื้อรัง รวมไปถึงอาจเกิดไตวายเฉียบพลันได้
ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ และการรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติมต่อไต จัดการกับอาการและปรับปรุงผลลัพธ์ในระยะยาว
ความดันต่ำ – ความดันสูง ภัยเงียบตัวร้ายสำหรับผู้สูงอายุป้องกันกรวยไตอักเสบ อาการนี้ได้อย่างไร
ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคกรวยไตอักเสบ อาการป่วยที่สร้างความเจ็บปวดนี้ เกิดจากหลายปัจจัย รวมถึงการติดเชื้อ ภูมิต้านทานผิดปกติ และยาหรือสารพิษ การติดเชื้อจากอีโคไล หรือการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ สามารถนำไปสู่การพัฒนาของไตอักเสบ ตัวอย่างเช่น
วิธีการป้องกันอาการกรวยไตอักเสบ
- ไม่กลั้นปัสสาวะ หากมีอาการปวด ให้เข้าห้องน้ำทันที
- ดื่มน้ำเยอะ ๆ โดยน้ำที่ดื่มควรเป็นน้ำเปล่า เพื่อทำการขับเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคออกมา
- ไม่ควรใส่ชั้นในหรือกางเกงที่รัด แน่นจนเกินไป
- ดูแลรักษาอวัยวะเพศให้สะอาด และควรเช็ดให้แห้งหลังทำธุระเสร็จ
- ควรมีการปัสสาวะ และทำความสะอาดหลังการมีเพศสสัมพันธ์
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง
การดูแล รักษากรวยไตอักเสบ อาการป่วยนี้
ในบางสายงานอาชีพ อาจจะหลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะไม่ได้ ทำให้เกิดกรวยไตอักเสบ อาการเมื่อปัสสาวะแล้วจะแสบ หรือปัสสาวะติดขัดขึ้นได้ ซึ่งถ้าหากเกิดมีอาการเหล่านี้แล้ว เราก็ควรมีวิธีการดูแลและรักษาอย่างถูกวิธี เพื่อที่จะได้หายจากอาการดรคนี้ได้อย่างเร็ววัน
การดูแล รักษากรวยไตอักเสบ อาการแสบนี้
- หากมีอาการเข้าข่าย ให้รีบเข้าพบแพทย์ทันที เพื่อปรึกษาและหาวิธีการรักษา
- ทานยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาตามอาการ โดยควรทานต่อเนื่องอย่างน้อย 5-7 วัน หากอาการไม่ดีขึ้นควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการอีกครั้ง
- ในบางราย อาจมีการฉีดเป็นยาปฏิชีวนะเข้าไปด้วย
- ในกรณีที่มีอาการกรวยไตอักเสบชนิดเรื้อรัง อาจมีการผ่าตัดเพื่อรักษา รวมไปถึงอาจมีการตัดชิ้นเนื้อของไตในบางส่วนทิ้ง หากเกิดอาการติดเชื้อที่รุนแรงจนเกินไป
สรุป
การตระหนักถึงสัญญาณเตือนของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการตรวจหาและรักษากรวยไตอักเสบ อาการป่วยนี้ตั้งแต่เริ่มแรก โดยการตระหนักถึงอาการ ทำความเข้าใจปัจจัยเสี่ยง และการใช้กลยุทธ์ป้องกัน บุคคลจะสามารถลดโอกาสในการเกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อาการกรวยไตอักเสบและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
สิ่งสำคัญคือต้องไปพบแพทย์หากมีสัญญาณเตือนใด ๆ เกิดขึ้น เนื่องจากการรักษาอย่างทันท่วงทีสามารถช่วยบรรเทาอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อนเพิ่มเติมได้ ด้วยความรู้ที่ถูกต้องและมาตรการเชิงรุก บุคคลสามารถควบคุมสุขภาพทางเดินปัสสาวะและลดผลกระทบของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้