บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น “ทางบริษัทไม่สามารถให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลได้” หากท่านมีความกังวล และต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
ปัญหาสุขภาพที่พบมากในวัยสูงอายุ คงหนีไม่พ้นอาการอ่อนเพลียไม่มีแรงของผู้สูงอายุ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการเบื่ออาหาร และข้อจำกัดของสุขภาพ บทความนี้ได้รวบรวมเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ที่จะช่วยทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกสดชื่นหรือมีเรี่ยวแรงเพิ่มมากขึ้นค่ะ ไปดูกันว่า ผู้สูงอายุอ่อนเพลียไม่มีแรง กินอะไรดี และมีเมนูไหนน่าสนใจบ้างค่ะ
สารบัญ
- ผู้สูงอายุอ่อนเพลียไม่มีแรง เกิดจากสาเหตุอะไร
- สังเกตอาการที่บ่งบอกว่าผู้สูงอายุอ่อนเพลียไม่มีแรง
- ผู้สูงอายุอ่อนเพลียไม่มีแรง กินอะไรดี
- ผู้สูงอายุอ่อนเพลียไม่มีแรง กินเมนูตามนี้เลย!
ผู้สูงอายุอ่อนเพลียไม่มีแรง เกิดจากสาเหตุอะไร?
ก่อนที่เราจะไปดูกันว่า ผู้สูงอายุอ่อนเพลียไม่มีแรง กินอะไรดีนั้น เรามารู้จักกันก่อนว่า ทำไมผู้สูงอายุมักเกิดอาการอ่อนเพลียไม่มีแรง หมดเรี่ยวหมดแรงจะเคลื่อนไหว ทำให้ลูกหลานก็รู้สึกไม่สบายใจไปด้วย ต้องบอกเลยค่ะว่า มีหลายสาเหตุเลยล่ะค่ะที่ทำให้ผู้สูงอายุอ่อนเพลียไม่มีแรง แต่แต่ละสาเหตุนั้นก็เป็นสาเหตุที่พบได้ง่ายในผู้สูงอายุอยู่แล้ว เนื่องจากอายุที่มากขึ้นและปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ค่ะ
การที่ผู้สูงอายุอ่อนเพลียไม่มีแรง สาเหตุหลักเป็นเพราะว่าเซลล์ร่างกายทำงานได้ช้าลง ส่งผลต่อระบบการผลิตพลังงานในร่างกายเสื่อมถอยลงไปด้วย และในบางคนอาจเกิดจากการเบื่ออาหาร ไม่อยากกินข้าวหรือเลือกกินที่ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพ ทำให้ร่างกายไม่มีสารอาหารเพียงพอต่อการนำไปผลิตเป็นพลังงาน จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่มีแรง นอกจากนี้ยังเกิดได้จากสภาพจิตใจหรือการใช้ชีวิต เช่น พักผ่อนน้อย มีภาวะเครียด ซึมเศร้า ฯลฯ
สังเกตอาการที่บ่งบอกว่า ผู้สูงอายุอ่อนเพลียไม่มีแรง
คนสูงวัย เป็นช่วงอายุที่อ่อนไหวในเรื่องของจิตใจและสุขภาพ สิ่งที่ต้องดูแลเป็นพิเศษนั่นคือ เรื่องของอาหาร เพราะส่งผลโดยตรงของการใช้ชีวิต แม้ว่าจะเริ่มมีอาการไม่อยากอาหาร แต่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหาวิธีการ ทำให้กลับมาทานอาหารให้ได้ เพื่อให้ร่างกายมีพลังงาน สำหรับผู้สูงวัยที่มีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง สามารถสังเกตได้จากอาการเหล่านี้ค่ะ
อาการอ่อนเพลียไม่มีแรงของผู้สูงอายุ
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ไม่สามารถทรงตัวได้เอง เช่น เวลายืน จำเป็นจะต้องใช้อุปกรณ์หรือคนช่วย
- น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ซูบผอมลงเกินผิดปกติ
- รู้สึกไม่มีแรงขณะทำกิจกรรมต่างๆ จึงไม่สามารถทำได้เต็มที่
- เหนื่อยมากขึ้น หายใจแรงขึ้นในกิจกรรมที่เคยทำ
- มีความเหนื่อยล้าทางอารมณ์และความคิด รู้สึกคุณค่าในตนเองลดลง
- เคลื่อนไหวร่างกายส่วนต่างๆ ได้ช้าลง
ผู้สูงอายุอ่อนเพลียไม่มีแรง กินอะไรดี
คำถามที่ว่า ผู้สูงอายุอ่อนเพลียไม่มีแรง กินอะไรดี สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงคือข้อจำกัดของสุขภาพของผู้สูงอายุ เช่น โรคเรื้อรังต่างๆ สารอาหาร และปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ร่างกายสามารถทำงานได้ แต่ไม่ไปกระตุ้นโรคประจำตัว มาทำความรู้จักกับกลุ่มอาหารที่ให้ประโยชน์และช่วยเสริมร่างกายของผู้สูงวัยให้มีแรงมากขึ้น อ่อนเพลียน้อยลง
กลุ่มอาหารที่เหมาะกับผู้สูงอายุ
1.โปรตีน
ในกลุ่มผู้สูงอายุส่วนใหญ่ มักมีกล้ามเนื้อไม่มาก ทำให้ในบางรายมีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง โปรตีนเป็นสารอาหารสำคัญที่มีประโยชน์อย่างมากต่อร่างกาย เพราะจะช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อให้มีมากขึ้นและแข็งแรง และช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย และลดการอักเสบของกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่น เนื้อ นม ไข่ ปลา ถั่วเหลือง ธัญพืช เต้าหู้ เป็นต้น
2.ธาตุเหล็ก
เป็นโคเอนไซม์ในการช่วยลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารไปยังอวัยวะต่างๆ ในผู้สูงอายุส่วนใหญ่ มักมีภาวะของโลหิตจาง ธาตุเหล็กเป็นสารอาหารสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ที่จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีแรงเคลื่อนไหวร่างกายมาขึ้น สามารถพบได้ใน ผักใบเขียวชนิดต่างๆ เนื้อสัตว์ รำข้าว เป็นต้น
3.วิตามินบี
ผู้สูงอายุอ่อนเพลียไม่มีแรง กินอะไรดี สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือกลุ่มของวิตามินบี ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี1 บี2 บี3 บี5 บี6 และบี12 ผู้สูงอายุทุกคน ควรได้รับในทุกวันและปริมาณที่พอดี เพราะเป็นสารสำคัญที่ทำหน้าที่ร่วมกับการสร้างพลังงานในร่างกาย สามารถพบได้ใน เนื้อสัตว์ นม ปลา เป็นต้น
4.คาร์โบไฮเดรต
เป็นแหล่งพลังงานชั้นดี ที่ช่วยลดอาการอ่อนเพลียของผู้สูงวัยลงได้ สามารถพบได้ในข้าวชนิดต่างๆ แป้ง ขนมปัง ธัญพืช เป็นต้น ข้อควรระวังของการทานคาร์โบไฮเดรตสำหรับผู้สูงอายุ จะต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป เพราะอาจเกิดการสะสมเป็นไขมัน หรือกระตุ้นอินซูลินในผู้ป่วยเบาหวานได้
5.แคลเซียม
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าแคลเซียม เป็นสารอาหารบำรุงกระดูก ป้องกันการเกิดภาวะกระดูกพรุน และส่งเสริมให้กระดูกแข็งแรงมากขึ้น สามารถพบได้ในนม หรือผลิตภัณฑ์จากนม ปลา เป็นต้น
6.น้ำ
ปริมาณที่เหมาะสมในการดื่มน้ำในแต่ละวันอยู่ที่ 6-8 แก้ว น้ำจะช่วยรักษาสมดุลของร่างกายให้อยู่ในภาวะคงที่ ช่วยในการขับของเสีย ลดอาการท้องผูกในผู้สูงอายุลงอีกด้วย การดื่มน้ำยังช่วยให้ผู้สูงวัยสดชื่น กระปรี้กระเปร่าในการทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น
7.วิตามินดี
ความสำคัญของวิตามินอยู่ที่เป็นตัวช่วยในกิจกรรมต่างๆ ภายในร่างกาย ช่วยลดการอักเสบและปรับสมดุลฮอร์โมน ช่วยลดอาการเครียด และทำให้นอนหลับดีขึ้น สามารถพบได้ใน ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ไข่แดง เป็นต้น
อ่านบทความ : ผู้สูงอายุท้องผูก ปัญหาที่คนในครอบครัวไม่ควรมองข้ามผู้สูงอายุอ่อนเพลียไม่มีแรง กินเมนูตามนี้เลย!
อย่างที่เราทราบกันไปแล้วว่าผู้สูงอายุอ่อนเพลียไม่มีแรง จนทำให้รู้สึกไม่อยากอาหารอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ หนึ่งสิ่งที่เราสามารถทำให้ท่านกลับมาอยากกินอาหารได้ ก็คือต้องหาเมนูน่าสนใจ มาลองเสิร์ฟดู และบทความนี้ได้รวบรวมเมนูอาหารที่สามารถนำกลับไปทำได้เองง่ายๆ แต่ได้สารอาหารครบ ช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง มีดังนี้
เมนูอาหารที่น่าสนใจ มีดังนี้
- พล่าปลาแซลมอน เนื่องจากปลาแซลมอนอุดมไปด้วยโปรตีน และยังมี Vitamin B3 และ B12 ที่มีส่วนช่วยลดความอ่อนแรง อ่อนเพลียของร่างกายได้ และยังมี Vitamin D ที่มีส่วนช่วยในเรื่องของกล้ามเนื้อ และกระดูกอีกด้วย
- แกงคั่วกุ้งใส่ใบชะพลู เนื่องจากใบชะพลูมีฤทธิ์เผ็ดร้อน จะช่วยกระตุ้นให้มีความอยากอาหารมากขึ้น
- ฉู่ฉี่ปลาทับทิม เนื่องจากปลาทับทิมอุดมไปด้วย โอเมก้า 3 และ Vitamin D ที่ช่วยทำให้สมองสามารถหลั่งสารเซโรโทนินได้มากขึ้น จะช่วยลดความเครียด และภาวะซึมเศร้าได้
- กระเพาะปลา เนื่องด้วยกระเพาะปลาอุดมไปด้วย Vitamin D ที่ช่วยเรื่องภาวะของสมองแล้ว ยังเป้นอาหารที่กินง่าย เหมาะกับผู้สูงอายุ
- เกี๊ยวน้ำ แนะนำเป็นเกี๊ยวที่ทำจากเนื้อหมู, ไก่ และปลา เนื่องจากคอเลสเตอรอลไม่สูง และยังอุดมไปด้วยโปรตีนอีกด้วย
- หมูผัดขิง นอกจากขิงจะมีฤทธิ์เผ็ดร้อนที่ช่วยในการอยากอาหารแล้ว ยังช่วยบรรเทาอาการเกี่ยวกับสมอง และระบบประสาทได้
- แกงส้มผักรวม เครื่องแกงของแกงส้มประกอบไปด้วยสมุนไพรหลากหลายชนิดที่ช่วยในเรื่องของการบำรุงร่างกาย ประกอบด้วยแกงส้มเป็นแกงที่มีรสจัด ทำให้ช่วยในเรื่องอยากอาหารได้ดี
- จับฉ่าย ในต้มจับฉ่ายประกอบไปด้วยผักหลากหลายชนิด ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ รวมไปถึงสารต้านอนุมูลอิสระ และหากต้มผักให้เปื่อยก็จะช่วยทำให้ผู้สูงอายุเคี้ยวได้ง่ายขึ้น กระเพาะและลำไส้ก็ไม่ทำงานหนักจนเกินไป
สรุป
อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุอ่อนเพลียไม่มีแรง กินอะไรดี เป็นเรื่องที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากผู้สูงอายุแต่ละคนมีสภาพร่างกายที่แตกต่างกัน ดังนั้นคนใกล้ชิดจะต้องทราบถึงปริมาณที่พอเหมาะ กลุ่มอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง และสารอาหารที่ไปช่วยส่งเสริมการทำงานของร่างกายให้ผู้สูงอายุมีแรงเคลื่อนไหว แข็งแรง และไม่ส่งผลกระทบต่อโรคประจำตัว ทั้งนี้อาจทานวิตามินชนิดอื่นๆ เช่น วิตามินซี โคคิวเท็น จะช่วยให้ร่างกายสดชื่นและเสริมภูมิคุ้มกันไปในตัวอีกด้วย